วันนี้..สอนนักศึกษาปริญญาโทแล้วรู้สึก "ผิดหวัง" อย่างแรง


วันนี้ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าสาขาวิชาให้เข้าสอนนักศึกษาปริญญาโท สาขาบริหารการศึกษา ที่มาเปิดศูนย์ฯ ที่เชียงใหม่ เนื่องจากหัวหน้าสาขาวิชามีภารกิจในการสอนอีกมหาวิทยาลัยหนึ่ง

วิชาที่สอนเกี่ยวกับ Innovation and Information Management

ผมได้ดำเนินการสอนตามหัวข้อที่หัวหน้าสาขากำหนดมาให้ในช่วงเช้า และช่วงบ่ายประมาณอีก 1 ชั่วโมง แล้วขอให้คุมสอบกลางภาคให้ด้วย

ในระหว่างการเรียนรู้ ผมสังเกตเห็นความสนใจและความกระตือรือล้นที่มีต่อเนื้อหาที่ผมนำมาสอนพวกเขา เกี่ยวกับ Information Technology พวกเขาเลือกถามในสิ่งที่พวกเขาสงสัย แต่อีกหลาย ๆ คนดูเงียบ ๆ เหมือนผมจะสอนไม่เข้าใจ เลยไม่รู้จะถามอะไร ผมเพียงทราบเพียงแต่ว่า พวกเขาจบปริญญาตรีกันมาแล้ว ส่วนใหญ่เป็นครูอยู่ตามโรงเรียนในเขตภาคเหนือ ได้รับทุนจาก อปท. มาเรียน

ในระหว่างการสอบกลางภาคในช่วงบ่าย ข้อสอบเป็นอัตนัยทั้งหมด เรื่องราวเกี่ยวกับการจัดการ Information Technology ... ผมรู้สึกแปลกใจที่หลายคนดูจะทำไม่ได้ เอาแต่ถามว่าเปิดหนังสือทำได้ไหม ผมบอกว่า "นี่เป็นข้อสอบกลางภาค เปิดหนังสือไม่ได้" ... แต่กลับมาบางคนไม่สนใจสิ่งที่ผมพูด หยิบหนังสือขึ้นมาเปิด พร้อมกับลอกคำตอบลงข้อสอบ

ผมลุกไปเตือนแบบผู้ใหญ่ ๆ ว่า "ใช้ศักยภาพของตนเองให้ได้มากที่สุดครับ ไม่ต้องลอกหนังสือ เพราะถ้าลอกแล้ว อาจารย์ประจำวิชาจะไม่ทราบว่า คุณมีข้อบกพร่องตรงไหนบ้าง"

 

ก็ได้ผลสักพัก พออีกสักระยะก็มาอีกแล้ว แอบเอาหนังสือขึ้นมาโดยไม่ละอายใจอะไรเลย

ผมก็เตือนอีกว่า "ผู้บริหารบ้านเราเนี่ยดีหมด แต่ขาดหลักธรรมอย่างเดียว คือ หิริ โอตัปปะ บ้านเมืองถึงได้วุ่นวายอยู่แบบนี้"

มีคนตอบมาทันทีเลยว่า "ก็อาจารย์ไม่บอกก่อนว่าจะมีการสอบ"

"ปกติที่นี่เค้าสอบแบบเปิดหนังสือกัน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ไม่เปิด"

ผมเลยตอบกลับไปว่า "งั้นนี่แหละปกติ ไม่เปิดหนังสือ เสร็จแล้วส่งเลย เสร็จแล้วออกไปข้างนอกเลย"

นักศึกษาเหล่านั้นมีอาการของความไม่พอใจออกมาทันที

ผมเลยพูดต่อว่า "ใครเปิดหนังสือ ผมจะติ๊กชื่อแจ้งอาจารย์ประจำวิชาไปเลย"

ผลคือ "เงียบ"

 

ในใจผมตอนนี้คุกรุ่นไปด้วยความขุ่นข้องหมองใจเป็นอย่างมาก สำหรับพฤติกรรมของครูที่มาเรียนปริญญาโท พวกนี้

  • ทำไมเขาไม่ละอายต่อบาปที่เขาทำ เป็นผม ผมทำไม่ได้ ผมส่งกระดาษเปล่าแล้ว
  • ทำไมเขาไม่มีจิตสำนึกเลยว่า ตนเองเรียนปริญญาโทแล้ว ปริญญาโทต้องรู้จักวิเคราะห์ สังเคราะห์ นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
  • ทำไมเขาไม่คิดหรือว่า โรงเรียนที่ตนเองสังกัดอยู่ มหาวิทยาลัยที่ตนเองเรียนอยู่จะเสียชื่อที่มีคนแบบนี้อยู่
  • เป็นครูแต่มาลอกข้อสอบ แล้วหากนักเรียนลอกบ้าง ยังมีหน้าไปว่าเด็กไหมล่ะ ในเมื่อตนเองทำเหมือนกัน
  • คุณภาพของการศึกษายิ่งตกต่ำอยู่ เพราะยังมีคนเหล่านี้อยู่ ไม่คิดถึงผลรวมของประเทศชาติ โดยเฉพาะวงการการศึกษาบ้าง
  • ฯลฯ

ถ้าคุณมาอยู่ในบรรยากาศการคุมสอบอย่างผม คุณจะรู้สึกเหมือนกันว่า คุณจะท้อใจกับวงการการศึกษาของเราอย่างมาก

ผมได้ถามน้องเจ้าหน้าที่ว่า "นักศึกษาพวกนี้ต้องทำวิทยานิพนธ์กันหรือเปล่า ถ้าพฤติกรรมแบบนี้สงสัยจะคัดลอก หรือไม่ก็ว่าจ้างมาส่งแน่ ๆ"

น้องเจ้าหน้าที่ตอบว่า "อาจารย์ ... นักศึกษาพวกนี้บางคนเขาไปจ้างคนทำบทที่ 1 กับบทที่ 2 แล้ว"

นี่ผมคาดเดาถูกขนาดนั้น ... "ถ้ารับนักศึกษามาแล้วคุณธรรมมีแค่นี้ ไม่ต้องรับเสียเลยดีกว่า"

จบการสนทนาด้วยความมึนหัวของผม

 

รู้สึกผิดหวังอย่างแรง ครับ ... เพียงแต่หวังว่า คงเป็นบางคน ไม่ใช่ทุกคนนะครับ

อยากมีคนดี ๆ ครูดี ๆ เหลืออยู่บ้าง

ขอบคุณมากครับที่รับฟัง :)

 

หมายเลขบันทึก: 235929เขียนเมื่อ 18 มกราคม 2009 16:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:38 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (56)

สวัสดีครับ

เอ่อ.. ไม่น่าเชื่อเลย

เศร้าเนอะครับ

เศร้าใจอย่างแรงครับ ... อาจารย์ ธ.วั ช ชั ย :)

ขอบคุณมากครับ

  • แงๆ อยากบอกว่าหัวอกเดียวกันเลยค่ะอาจารย์ เมื่อวานก็สอบ
  • ตกลงเขามาเรียนทำไมกันหนอ
  • แล้วจุดมุ่งหมายของการเข้ามาศึกษาไม่ใช่เพื่อการแสวงหาความรู้แล้วหรือไร
  • หรือเข้ามาเพียงเพื่อสะสมกระดาษไปแปะข้างฝา
  • ---------------------
  • พวกที่สอนยากที่สุดคือพวกครูค่ะ สอนยากสอนเย็น
  •  เฮ้อแล้วภาระที่หนักหนาสาหัสคือ การสอนคนให้เป็นคนค่ะ ไม่ใช่แค่ปั้นดินให้เป็นดาว

ถึงจะเจอเรื่องร้าย ๆ มา แต่ก็มีเรื่องดี ๆ ครับ คือ พบคนหัวอกเดียวกันเปี๊ยบ ครับ คือ อาจารย์ naree suwan นี่แหละ :)

ผมก็ได้ถามตัวเองเหมือนว่า "เขามาทำไมกัน"

ไม่ได้มาเรียนรู้ พัฒนาตนให้เก่งขึ้น แต่กลับมาทำแค่ "ผ่าน" ด้วยวิธีการใดก็ได้ น่าละอายใจชะมัด ครับ

สอนให้คนมีจิตสำนึกความเป็นคน การทำดี ... สอนยากที่สุดเลยครับ

ขอบคุณอาจารย์ที่อยู่เป็นเพื่อนกันครับ :)

  • ฟังแล้วน่าวิตกมากนะครับ
  • อีกอย่างหนึ่งที่ต้องระวัง คือ การสร้างกลไกของการประกันการศึกษาเอง ที่อาจจะทำให้สถาบันการศึกษาที่ต้องการให้มีผู้มาเข้าศึกษาในหลักสูตร (นับเป็นคะแนนกัน) ไม่กล้าที่จะกวดขันการเรียนรู้ กลัวผู้เรียนหนี

ใช่ครับ ท่านอาจารย์ พันคำ ... การเรียนตามศูนย์แบบนี้ไม่มีอาจารย์ประจำสถาบันคอยดูแลเรื่องของการประกันคุณภาพ ครับ มีเพียงเจ้าหน้าที่เพียง 1 - 2 คน ที่ไม่กล้าเตือนถึงพฤติกรรมดังกล่าว แต่เขาถือเป็นผู้กำความลับของนักศึกษาเหล่านี้ เพราะเขาต้องสัมผัสกันทุก ๆ ครั้งของการเรียนครับ

ความไม่กวดขัน ความเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ มีอยู่ให้เห็นกันจนเป็นเรื่องปกติ ...

ด้วยความเป็นครู ผมก็ไม่ยอมเหมือนกันครับ สำหรับพฤติกรรมแบบนี้

ขอบคุณครับ อาจารย์ :)

โดนใจจังเลยค่ะอาจารย์

เค้าลืมถามตัวเอง..ว่ามาเรียนทำไม 

มาเรียนเพราะได้ทุนหรือเปล่า

เอาวุฒิไปประดับบารมีโดยไม่สนใจว่าได้มาด้วยวิธีอะไร

ตนเองเรียนปริญญาโทแล้ว ปริญญาโทต้องรู้จักวิเคราะห์ สังเคราะห์ นำไปใช้ให้เกิด

ประโยชน์สูงสุด

(ประโยคนี้คิดถึงอาจารย์ รศ.ดร.สมบัติ นพรัก จังเลยค่ะ ท่านสอนเรา ให้อ่านมากๆ  หาความรู้รอบตัวให้มากๆ ทันต่อเหตุการณ์ในบ้านเมือง เพื่อนำความรู้เหล่านั้นมาวิเคราะห์  สังเคราะห์ประเด็นต่างๆ)

มีตำราแล้วต้องไปเรียนทำไม นอนอ่านหนังสืออยู่ที่บ้านก็ได้

ระดับมหาบัณฑิต คงไม่จำเป็นต้งให้คุมเรื่องจิตสำนึกแล้ว

แม่พิมพ์เป็นแบบนี้  รูปแบบที่หล่อหลอมเสร็จก็คงเหมือนกันค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ อาจารย์น้องชาย

  • ขอชมเชยอาจารย์น้องชายก่อนว่า เขียนบันทึกได้โดนใจครูอ้อยมา 3 บันทึกแล้วค่ะ..เยี่ยม
  • ครูอ้อยเคยผิดหวังมาแล้ว แต่ไม่ใช่เคยสอน แต่เคยผิดหวังกับ...เพื่อนๆที่เรียนด้วยกัน
  • ไม่แน่ใจ เขียนแล้ว จะมีสปายไปกระซิบ พวกเขาไหม...น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ
  • ถึงเวลาสอบ..เอาคำตอบ วางกับพื้น ชะโงกดูกัน  ผลคือ..พวกเขาที่ลอกได้...เอ  ครูอ้อยได้.... บี
  • วันประกาศผล ที่บอร์ดเฮ ดีใจกันยกใหญ่..ครูอ้อย...จ๋อย แต่ ปัจจุบันไม่ได้จ๋อย กลับเป็นพวกเขาต่างหาก..จ๋อย
  • จุ๊จุ๊ แค่นี้ค่ะ มีความสุขมากๆค่ะ.ดีกว่านะคะ  เป็นไปตามกรรมค่ะ นะคะ

 

 

สวัสดีครับ คุณครูจุฑารัตน์ NU 11 :)

ผมเองก็รู้สึกช้ำใจอย่างสุดซึ้งจริง ๆ ครับ ... โดยปกติ อาจารย์ที่มีคุณวุฒิแบบผมไม่ได้รับผิดชอบการเรียนการสอนโดยตรงกับนักศึกษาปริญญาโท ครับ ... สามารถสอนได้ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

นี่ถ้าผมเป็นอาจารย์ประจำวิชา หรือไม่กรรมการคุมสอบวิทยานิพนธ์ พวกนี้ตกไปแล้วครับ ไม่เหลือรอดให้ไปทำความเดือดร้อนให้กับชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย หรือทำลายวงการวิชาชีพครูแบบนี้

แค่ "กระดาษใบเดียว" ที่เขาหมายปองมากกว่าความรู้ที่จะสร้างเขาให้แกร่งขึ้น ...

คงไม่ต้องคิดถึงและสอนถึง "จิตสำนึก" ที่เขาควรมีจริง ๆ ครับ

ขอบคุณจริง ๆ ครับ :)

สวัสดีครับ พี่ ครูอ้อย :)

สังคมกำลังสอนพวกเราว่า คนที่ตรง ไม่โกง ไม่ลอก คือ คนแปลก คนไม่ปกติ ครับ ตราบใดสังคมยังคงเป็นแบบนี้อยู่ ประเทศชาติเรามีหวังล่มจมแน่ ๆ ครับ

กับแค่ "จิตสำนึก" ความถูกต้อง ความดีงาม ยังทำไม่ได้ ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เขาควรเรียกตัวเองว่า "ครู" ครับ

ขอบคุณครับ :)

สะเทือนใจค่ะ... อย่าเม้นท์เลย..เศร้า...^o^

สวัสดีค่ะ  คุณ Wasawat

  •  ขอบคุณค่ะที่แวะไปเยี่ยม
  •  เลยทำให้ได้อ่านสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงสังคมของการเรียนของระดับผู้ใหญ่ในปัจจุบัน
  • อาจจะต้องโทษสังคมด้วยกระมัง ว่าให้คุณค่าต่อกระดาษแผ่นเดียวมากเกินไป
  • ดิฉันมองว่าอาจารย์ Wasawat  เป็นอาจารย์ที่มีความตั้งใจสูง  จึงทำให้รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากที่พบกับผู้เรียนแบบนี้
  • ทำใจค่ะ ทำใจ...จะได้สบายใจ....

 

โดนใจค่ะอาจารย์ แบบว่ากำลังสงสัยเรื่องระบบการศึกษาของบ้านเรา ว่าครูที่มีปัญหากับการทำผลงานทางวิชาการนั้นแท้จริงแล้วเป็นเพราะอะไร
- ไม่มีเวลา งานล้นมือ
- ทำแล้วไม่คุ้มกับเวลาที่ทำ มีสิ่งอื่นที่สำคัญกว่า
- ไม่มีความสามารถ ไม่พัฒนาตนเอง
- ไม่สามารถวิเคราะห์สังเคราะห์ความรู้ได้
- ฯลฯ

อันที่จริงเปิดหนังสือสอบนี่ยากกว่านะคะ ถ้าให้ตั้งโจทย์เอง วิเคราะห์เอง ตอบเอง ทำไม่ดี หรือตั้งง่ายๆ ก็ได้คะแนนเท่าที่ทำมา ต้องใช้วิธีแบบนี้ค่ะ ถ้าตั้งได้ไม่คู่ควรกับระดับของการเรียนปริญญาโทก็จะได้เห็นเลยว่าความสามารถเป็นยังไง ไม่งั้นเดี๋ยวนี้สารพัดสถาบันก็เปิดเข้าไป เปิดจนโทจนเอก แต่จบออกมาบ้อท่า แย่กว่าปริญญาตรีที่เขาเคี่ยวๆ ซะอีก

ลืมๆ อันที่จริงน่าจะไปแก้ตั้งแต่ปริญญาตรีนะคะ มันห่วยมาแต่ต้น เดี๋ยวนี้คนจบปริญญาตรีมาเฮงซวยมากมาย โดยเฉพาะหลายๆ สถาบันที่เปิดสาขาแบบศูนย์เรียนรวมที่มีคณะคุรุศาสตร์ด้วย พวกนี้ใช้วิดีโอเปิดให้ดู บางแห่งก็เปิดสาขาที่ต้องปฎิบัติแต่ไม่มีห้องเรียนที่มีอุปกรณ์เพียงพอ สักแต่จะเอาเงิน โอ้ย สารพัด เห็นเยอะมาก บางที่มีเพื่อนตัวเองไปสอน ไอ้เพื่อนนี่ตอนเรียนก็เฮงซวยสุดในรุ่นจนบริษัทโฆษณาเขาไม่เอา แต่ในที่สุดก็ไปสอนเด็ก เวรกรรม แล้วไปบอกเด็กว่าตัวเองทุ่มเท เก่งสุดในรุ่น พอเจอเด็กมาฝึกงานเล่าให้ฟัง ขำกระจาย นี่ล่ะครูสถาบัน Grade B

มีเด็กแถวบ้านคนนึงที่เห็นจบตรีพวกสถาบันอย่างว่ามา เวลาคุยกับเด็กอีกบ้านนึงที่เรียนอยู่เตรียมฯ พึ่งจะม.5 ความรู้ยังห่างกันไกล ดูโง่ไปถนัดใจ นี่ล่ะมาตรฐาน ทำรายงานทีได้ร้อยหน้า ภูมิใจมากมาย copy & paste ครูก็ให้คะแนนตามจำนวนหน้า 555 เอาเข้าไป คนเรียนจบโทมางงว่าทำได้ไงวะรายงานสัปดาห์เดียวเป็นร้อยหน้า พออ่านก็ถึงบางอ้อ ฟอนต์ก็อปมาไม่เหมือนกันยังไม่แก้เลย เด็กบางคนเห็นแล้วไม่ควรเรียนตรีด้วยซ้ำ ควรจะเรียนสายอาชีพ แต่บ้านเราเดี๋ยวนี้มันบ้าปริญญาตรี จบมาแล้วตกงานหรือได้เงินต่ำก็ยังตะบันเรียนกันเข้าไป สิบปีนี้จะเห็นตำแหน่งทางสายอาชีพขาดแคลนอย่างมากแน่นอน

ขอบคุณเช่นกันครับ คุณ หนุ่ยนักอ่าน :) ที่แวะมาเยี่ยมบันทึกล่าสุด

สงสัยว่า ผมจริงจังเกินไปนะครับ ... ก็รู้สึกผิดหวังหลายครั้งครับ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นสาขาวิชาชีพตัวเองเนี่ย จะแย่มากครับ

ขอบคุณอีกครั้งครับ :)

... น่าเศร้า ค่ะ

... น่าสงสาร มากค่ะ

... น่าเห็นใจ ยิ่งค่ะ

... สำหรับ วงการศึกษาไทย ที่คงต้องใช้เวลาเยียวยา แก้ไขปัญหา

อาการ ทัศนคติ ความคิด ผิดๆ ต่างๆ ซึ่งหล่อหลอม มานานกว่าสิบปี

... ทำใจหน่อยนะคะ ท่านอ. ตราบใด ที่

ค่านิยมถอดแบบ ยึดสถาบัน ฐานะ วัตถุนิยม แค่เปลือกนอก ๕ ๕

... งานเข้า ค่ะ งานเข้า

... งานหนัก ค่ะ งานหนัก

... งานน่าท้าทาย ค่ะ น่าตื่นเต้นที่สุด

เหนื่อยกันหน่อยนะคะ ท่านอาจารย์ ๆ  และรัฐบาลชุดนี้ อิ อิ ...

 

 

 

 

 

 

 

 

สวัสดีครับ คุณซูซาน Little Jazz :)

สิ่งที่คุณซูซานกำลังสงสัยใคร่รู้อยู่นั้น เป็นประเด็นที่ผมเองก็เฝ้ามองอยู่เช่นกันครับ นั่งมองเห็นความศรัทธาในวิชาชีพที่กำลังลดลง ทั้ง ๆ ที่บ้านเรามีครูดี ๆ อยู่ตั้งเยอะแยะ เหมือนปลาเน่าตัวเดียวตายทั้งข้อง ประมาณนั้นครับ

ผมอยู่ใกล้ชิดกับครูผลิตครูที่ปล่อยเด็กเหล่านั้นออกไปด้วยสารพัดเหตุผล ซึ่งล้วนแต่เป็นเหตุผลส่วนตัวทั้งนั้น

กลัวเด็กไม่รัก กลัวเด็กไม่ยอมรับ กลัวเด็กไม่มาเรียนเดี๋ยวไม่ได้ตังค์ค่าสอน หรือคิดว่า ปล่อย ๆ ไปเหอะ เดี๋ยวเด็กจะไม่จบ

ผลก็คือ ภาพลักษณ์อันพังพินาศของคนที่มีอาชีพครู ครับ

ผมเป็นแค่เฟืองตัวเล็ก ๆ ของคณะ และมหาวิทยาลัยเท่าไหร่ ไม่อาจไปคัดคานท่อนซุงแห่งผลประโยชน์และอำนาจ

ทุก ๆ วันนี้ ผมพยายามทำหน้าที่ของครูผลิตครูให้ดีที่สุด แล้วเมื่อพบเหตุการณ์ในบันทึกที่เล่ามา ผมก็อดจะท้อใจไม่ได้จริง ๆ ครับ

ขอบคุณมากครับ ที่ช่วยเป็นเสียงสะท้อนให้ :)

ขอบคุณมากครับ คุณ poo ... :)

ระบบการคัดเลือกครูของเราล้มเหลวครับ ...

มีคนเปรียบเทียบว่า มหาวิทยาลัยท้องถิ่นเลือกผู้เรียนไม่ได้ครับ เพราะผู้เรียนไม่เลือกเราอยู่แล้ว ที่ได้ ๆ มาเรียน ก็เพราะไม่รู้จะเรียนอะไรแล้ว

หน้าที่ของครูผลิตครูในยุคนี้ คือ การปั้นขี้เลนเป็นดาว ครับ

ขอบคุณมาก ๆ ครับ :)

มาแทะ ให้ :) ... อีกรอบ ค่ะ

ว้าว ปั้นขี้เลนให้เป็นดาว นี่

มือปั้นต้อง มือชั้นเซียน เลยนะคะเนี่ย

น่าภูมิใจมาก ๆ ค่ะ เป็นกำลังใจให้...

... อย่าลืมกินยา ทำใจ ไม่คิดมากนะคะ

เดี๋ยวฝันร้าย อิ อิ ๕ ๕ เอาเพลงมาฝากค่ะ

http://www.ijigg.com/songs/V2DFAGDPD

ขอบคุณอีกครั้งครับ คุณ poo แฟนพันธุ์แทะ :) ... ยาทัมใจ กับ บวดหาย

ชอบประโยคนี้มากคะ

"เป็นครูแต่มาลอกข้อสอบ แล้วหากนักเรียนลอกบ้าง ยังมีหน้าไปว่าเด็กไหมล่ะ ในเมื่อตนเองทำเหมือนกัน"

มันอยู่ที่จิตสำนึกของแต่ละคนด้วยคะ แย่จังสังคมไทยเรา

สวัสดีวันใหม่ครับ คุณ Armuay_chew :)

"จิตสำนึก" ของคนที่มาเรียนระดับสูงกว่าปริญญาตรีมันต่ำลงครับ

สิบกว่าปีมานี้ที่ผมสัมผัสมา ... เห็นมีแต่คนบอกว่า จบให้เร็วที่สุด

แต่ไม่เห็นมีใครบอกว่า "จบให้เร็วที่สุด และได้ความรู้มากที่สุด" สักคน

ข้าราชการที่มาเรียนต่อ ก็บอกว่า "จบช้าเดี๋ยวแป๊กเงินเดือน"

อยากให้มีคนมาเรียนต่อบอกว่า "เราจะเรียนอย่างไรจึงจะทำให้ตนเองมีศักยภาพเพิ่มขึ้นกว่าเดิม มีการพัฒนาตนเองมากกว่าที่เป็น เมือพร้อมแล้ว จึงพร้อมที่ได้รับเกียรติในการรับใบปริญญาบัตรนั้น"

ร้อยละ 10 มีหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ... รีบจบ แต่ไม่ได้อะไรไปเลย

ตลกร้ายจริง ๆ ครับ :(

+ สวัสดีค่ะ..ตามมาจากอนุทินของน้องมะปรางค่ะ...

+ แล้วก้ต้องย้อนกลับไปอ่าน 3 บันทึกที่ผ่านมาของอาจารย์ด้วยค่ะ...

+ ค่ำนี้นั่งฟังรายการเปิดปมของทีวีช่องใดไม่แน่ใจค่ะ...นั่งฟังทีวีจริง ๆ ค่ะ...เพราะตากำลังพิมพ์งานวิจัยฉบับร่างนะค่ะ...

+ รายการนี้พูดถึง 9 ปีที่ผ่านมาของการพัฒนาระบบการศึกษา...นำสนอถึงครูในบทบาทความคิดต่าง ๆ...

+ ที่ ร.ร.มีครูทั้งหมด 10 คนค่ะ..มีครูเด็ก ๆ ที่อยุไม่ถึง 30 ปี 4 คน ...เหลือเชื่อ คือ เด็กทั้ง 4 คนที่ว่านี้มีพัฒนาการสอนที่ถอยหลัง...มีพฤติกรรมการมีอาชีพครูไม่ใช่ครูอาชีพ ...

+ เท่าที่สัมผัสกับครูมา...ในเรื่องการทำผลงานเพื่อขอเลื่อนวิทยฐานะนั้น...ครูมักจะเร่งทำตอนที่ต้องยื่นเรื่อง...ครูไม่ได้ทำมาจากหัวใจจริง ๆ...ซึ่งในความเป็นจริงครุต้องทำผลงานมาอย่างน้อย 2 ปี...ต้องทดลองทำกับเด็กหลาย ๆ รุ่น เพื่อยืนยันความเที่ยงของผลงาน...แต่ในความเป้นจริงครูรีบเร่งทำตอน 3 เดือนก่อนส่งผลงาน...โอ้ครูไทย...และครูนี่แหละที่เข้าใจอะไรยากที่สุด...แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนนะค่ะ...โดยภาพรวมมักจะเป็นเช่นนั้นค่ะ...

+ หากคนเป็นครูไม่กล้าเผชิญความจริงแล้วครูจะเอาความจริงอะไรไปบอกเด็ก ๆ ละค่ะ...ที่พูดมาทั้งหมด...ดิฉันก็เป็นครูค่ะ...และมักจะเจ็บที่หัวใจจี๊ดเสมอ...เมื่อเห็นเพื่อนครูแสดงพฤติกรรมที่ไม่คู่ควรกับคำว่าครู...

+ ตอนเป็นเด็กจำได้ว่าเจอแต่ครูดุ ๆ แต่จริงใจต่อศิษย์...พอตัวเองมาเป็นครู...ทำไม่เพื่อนครูถึงได้เหยียบย่ำทำลายคุณค่าของตัวเองได้ถึงเพียงนี้...ครูมักมีเหตุผลในการอ้างโน่น นี่ นั่น สารพัดเสมอ...แม้กระทั่งเขาให้วิเคราะห์ว่าทำไมผลโอเน็ตต่ำ...ครูยังไปโทษเด็ก...ครูเป็นคนที่หลอกตัวเองและไม่กล้ายอมรับความจริงมากที่สุด...

+ อิ อิ...สรุปเอาจากสิ่งที่ตัวเองเจอนะค่ะ...ขนาดสามีได้มาสัมผัสเพื่อนครูในกลุ่มประมาณ 180 คนในการทำกิจกรรม..สามีส่ายหัวเลยค่ะ...ว่านี่นะหรือคนเป็นครู...

+ นึกออกอีกเรื่อง...ครูส่วนใหญ่เมื่อสอนไปนาน ๆ ก็จะมีความรู้เหลือเท่ากับชั้นที่สอน...ครูไม่ชอบการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ...แปลกแต่จริงค่ะ

+ ร่ายยาวเลยค่ะ...ทั้งนี้เพียงอยากบอกให้เพื่อนครูหันมายอมรับข้อเท็จจริงในตัวตนของตัวเองแค่นั้นค่ะ...

ครูแป๋มขอส่งแรงใจให้กับทุกท่าน ร่วมกันต่อสู้กับความอยุติธรรมในสังคมค่ะ

สวัสดีค่ะ อาจารย์  Wasawat Deemarn

  • ประเด็นนี้โดนใจอย่างแรงค่ะ
  • ถึงแม้หนูจะเป็นคนหนึ่งที่เรียนปริญญาโท และ ทำงานในหน้าที่ ครู ไปพร้อมกัน
  • เป้าหมายของชีวิตแต่ละคนแตกต่างกันบางคนต้องการแค่กระดาษ บางคนต้องการสิ่งที่มีค่ามากกว่ากระดาษ...ตอบคำถามตัวเองให้ได้...
  • เจอมาแบบที่อาจารย์ว่าก็มี  ครูบางท่าน (เพื่อนๆ พื้นฐานต่างกัน มาจากหลายที่ หลายๆสถาบัน ต่างคนต่างความคิด ต่างมุมมอง ) จึงคิดว่ามาเอาแค่กระดาษแผ่นเดียว  เพื่อไป....
  • เคยบอกกับใครๆหลายคนว่า "ถ้ามาเรียนแค่จบๆ ผ่านๆไป ให้ได้ใบปริญญา ไม่มาเรียนหรอกค่ะ  "  หลายคนหัวเราะ  หลายคนว่าเราฝัน หลายคนมองว่าเราบ้าไปหรือเปล่า
  • ใครๆก็ทำกันอย่างงี้ทั้งนั้น  เธอไม่ทำ ไม่คิดแบบชาวบ้านเขาทำกัน กลายเป็นคนขวางโลก  ที่เพ้อฝัน  ...
  • คุณฐิตินาถ (เข็มทิศชีวิต 2)  กล่าวว่า แมลงวันหลายแสน หลายล้านตัว ชอบบินตอมกองอุจจาระ  หาใช่ว่าอุจจาระจะดีเสมอไป  คนทีทำตามๆกันไปค่านิยมที่ปลูกฝังกันมา...ก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป 
  • เคยแม้กระทั่งต้งคำถามกับอาจารย์ว่า  วิทยานิพนธ์ที่ทำผ่านๆมา ก็คล้ายกันๆ ทำเรื่องเดียวกัน  แล้วได้อะไร  เห็นผลที่ออกมาอยู่แล้ว ว่าใช้ได้... หนูตั้งคำถามกับตัวเอง ว่า
  • มาเรียนนี่ตั้งใจเรียนให้จบๆไปๆ ให้ได้ใบปริญญา หรือต้องการอะไรที่ได้มากกว่านั้น ที่มากกว่าแค่กระดาษแผ่นเดียว (ทุกคนหันมามองตาเดียวกัน)  555  (พูดไรของมันหว่า...)
  • ไม่ได้จะสร้างเจดีย์  แค่อยากทำในสิ่งที่ตนเองรัก อยากทำ และเป็นประโยชน์จริงๆแม้เพียงเล็กน้อย ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำไรเลย แต่...ในสังคมทุกวันนี้จะมีสักกี่คนที่เข้าใจ....
  • หายใจเข้าลึกๆ  ให้กำลังใจตัวเอง  (แอบร้องไห้นิดหน่อย...)  เอาน่าทำแล้วคนที่ได้คือเรา คือเด็ก... ถ้าเรานำมาใช้จริง เด็กก็ได้ประโยชน์จริง...
  • หลายๆสถาบันเปิดสาขากันไปว่าเล่น...เน้นปริมาณ หรือต้องการคุณภาพ....
  • คนดี ครูดี อาจารย์ดี นักศึกษาดี มีอีกเยอะนะคะ  มีบ้างที่ทำให้เราท้อ มีบ้างที่ทำให้เราผิดหวัง....แต่ก็จะสู้ต่อไปคร๊า
  • สู้ๆนะคะอาจารย์  เป็นกำลังดวงน้อยให้อาจารย์เสมอนะคะ
  • ^_^  ^_^ ^_^   :) :) :0) :0)

เป็นปัญหาเชิงระบบของการศึกษาเลยนะครับ ...

ผมช่วยประสานงานให้กับผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเรา ในการเรียนหลักสูตรหนึ่งของสถาบันชั้นสูง ..

ผมก็เห็นความหลากหลายที่น่าเศร้าใจ ของกระบวนการคิดของผู้ใหญ่..ที่มีบุญวาสนาเหล่านี้ และเศร้าไปมากกว่านั้น ท่านผู้มีบุญวาสนาเหล่านี้ มีอำนาจในทุกวงการที่พัฒนาบ้านเมืองของเรา

เราติดเชื้อโรคที่กำลังลุกลามครับ

ปรากฏการณ์ นศ.ป.โท นี่เป็นเพียงแค่เสี้ยวเดียว แต่ก็ยังมีอีกเยอะ..

ขอบคุณที่นำมาเสนอครับ อย่างน้อยเราก็ช่วยสะกิดสังคมให้พอเจ็บๆคันๆบ้าง..ส่วนจะเกิดการปฏิรูปแบบไหนนั้น อาจยังไม่ต้องคิด

แต่ผมก็คิดว่า นศ.ที่ตั้งใจเรียน สนใจศึกษา เพื่อพัฒนาตนเองมีอยู่มากเช่นกัน

ผมมีประสบการณ์กับ นศ.ป.โท หลายๆสถาบัน และมีเรื่องราวที่น่าประทับใจด้วยครับ

ขอชมเชยมา ณ ที่นี้คือ

มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ป.โท บริหารการศึกษา ที่ผมเคยสัมผัสช่วงหนึ่ง รู้สึกดีและเห็นกระบวนการเรียนการสอนที่เอื้อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้มากเลยครับ นศ.ทุกท่านก็สนใจ ใคร่รู้ ..

และในบางมหาวิทยาลัย ที่เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดัง ขนาดใหญ่ ไม่ได้แม้เพียงครึ่งของ มรภ.กำแพงเพชร ..(ประสบการณ์ และความรู้สึกของผมนะครับ)

ช่วงหลัง มหาวิทยาลัย ก็ถูกลดคุณค่าลง เพราะปัจจัยหลายๆปัจจัยครับ ที่เราต้องยอมรับในตอนนี้ก็คือ บางแห่ง บางหลักสูตร ก็ได้แค่ ร้านถ่ายเอกสารใบปริญญาเท่านั้นเองครับ คนสอนร่ำรวย คนเรียนได้ปริญญา

สวัสดีครับ คุณครู แอมแปร์ :)

อ้าวหรือครับ มีอนุทินนำทางมาด้วยหรือครับ อิ อิ ไม่ทราบเลยครับ

แต่เหตุการณ์เมื่อวานทำเอาผมมึนหัวไปพักใหญ่

การทำวิจัยต้องทำแต่เนิ่น ๆ คิดไกล ๆ หากทำวิจัยเพื่อตนเอง ก็ทำใกล้ ๆ ส่ง หากทำวิจัยเพื่อลูกศิษย์ ก็วางแผนระยะยาว ครับ :) ... ความคิดเห็นเจ๋งมากครับ

อยากเลือกวลีถูกใจจากความคิดเห็น ครับ

  • หากคนเป็นครูไม่กล้าเผชิญความจริงแล้วครูจะเอาความจริงอะไรไปบอกเด็ก ๆ
  • ครูเป็นคนที่หลอกตัวเองและไม่กล้ายอมรับความจริงมากที่สุด
  • ครูส่วนใหญ่เมื่อสอนไปนาน ๆ ก็จะมีความรู้เหลือเท่ากับชั้นที่สอน

ไม่มีใครจะมาทำลายวิชาชีพของเราได้ นอกจากคนในวิชาชีพตัวเอง ครับ คุณครู แอมแปร์ :)

นี่ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ครูเหล่านี้ เค้าจะมีเหตุผลสารพัดที่ได้กระทำแบบนั้นลงไป เช่น ก็ที่บ้านจน ที่บ้านหนี้สินเยอะ เดี๋ยวเงินเดือนไม่ขึ้น วิทยาฐานะไม่ผ่าน ใคร ๆ เขาก็ทำกัน ฯลฯ เหตุผลล้วนแต่ฆ่าวิชาชีพตัวเองทั้งนั้น ... สอนเศรษฐกิจพอเพียงให้กับเด็ก ๆ แต่ครูไม่ได้ใช้เลย

วิทยาฐานะเหมือนดาบสองคม ครับ

วิทยาฐานะ เหมาะสมสำหรับครูดี ครูเก่ง ครูมีคุณธรรม เท่านั้นครับ

แต่ไม่เหมาะกับ ครูขี้โกง ครูเห็นแก่ได้ ครูที่พร้อมฆ่าใครก็ได้ ถ้าไม่ใช่ตัวเอง

อวยพรร่วมกันครับ ขอให้ครูดีลุกขึ้นสู้กับสิ่งที่ไม่ดี ขอให้ระบบการประเมินเป็นไปอย่างยุติธรรม

อนาคตอาจจะมี "ศาลสำหรับวิชาชีพครู" เลยก็ได้นะครับ ใครจะไปรู้

ขอบคุณมากจริง ๆ ครับ อยากให้กำลังใจคุณครู แอมแปร์ :) สู้ต่อไปครับ

ขอบคุณมากครับ คุณครู pam ที่แวะมาเยี่ยมบันทึกนี้ครับ

ขอให้กำลังใจครูในต่อสู้กับความอยุติธรรมเช่นกันครับ :)

สวัสดีครับ น้องคุณครู เทียนน้อย คุณครูในดวงใจ :)

ใคร ๆ ก็ว่าโดนใจอย่างแรง (เลยเหรอครับ)

ชอบประโยคนี้ของคุณฐิตินาถ (เข็มทิศชีวิต 2) มาก ๆ ครับ ที่กล่าวว่า

 แมลงวันหลายแสน หลายล้านตัว ชอบบินตอมกองอุจจาระ  หาใช่ว่าอุจจาระจะดีเสมอไป  คนทีทำตามๆกันไปค่านิยมที่ปลูกฝังกันมา...ก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป

ขอบคุณมากเลย

เรียนแล้วไม่ได้อะไรเลย แต่เอาไปคุยว่าจบโน้นจบนี้มาด้วยเกรดเท่าโน้นเท่านี้ ... พวกนี้เป็นแค่ "สนิมของวิชาชีพ" เราเท่านั้นครับ

มีคนเปรียบว่า เวลาตายไป ก็ให้เอาใบปริญญาบัตรอันไร้คุณค่าใบนั้น ไปเป็นเชื้อไฟเผาตัวเองให้มอดไหม้ไป (แค่คนอื่นเค้ารู้ว่า ไร้คุณค่าแค่ไหน มีชีวิตอยู่ก็ถูกตราหน้าไปแล้วล่ะ)

มีปัจจัยหลายอย่างเป็นตัวเร่งเร้าให้ "ธุรกิจการศึกษา" เกิดขึ้นครับ

เช่น การเลี้ยงตัวเองของมหาวิทยาลัย, เศรษฐกิจแบบทุนนิยมที่สะพัดเมืองไทยจากรัฐบาลที่ผ่านมา, มารยาททางสังคมที่ลดน้อยลง, คนละโมบโลภมากขึ้น ฯลฯ

สารพัดปัจจัยครับ

ครูที่ดี ครูที่มีอุดมการณ์อย่างน้องคุณครู เทียนน้อย ... เริ่มหายากขึ้นครับ ...

อยากให้กำลังใจและสู้ต่อไปนะครับ เชื่อมั่นเถอะว่า "ความดีสวยงามเสมอ" ครับ

ขอบคุณมาก ๆ ครับ :) ที่เป็นกำลังใจดวงน้อยให้ แต่เจ้าของคงตัวใหญ่น่าดู อิ อิ

อ้า!

เป็นเหมือนกันทุกวิชาชีพเลยหรือครับ

ยุคนี้ สมัยนี้

ปิดตาปิดหูอย่างละข้าง จะทำให้มองเห็นโลกสวยสดขึ้นไหมครับ

"ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป"

ได้ยินบ่อยๆครับ แนวนี้

ถือเอาว่า บ่นแล้วไม่เก็บไว้เครียดจนจิตป่วยนะครับ

อ่านแล้ว..ขอเป็นกำลังใจให้กลุ่มผู้สร้าง(น้ำดี)

ขอให้มีพลังในการสร้างสิ่งดี ๆ ที่แตกต่างต่อไปนะคะ

อย่าท้อนะคะ..

อย่าแพ้ภัย..ที่มาทดสอบพลังของพวกคุณนะคะ

สวัสดีครับ คุณเอก จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร :)

แสบ ๆ คัน ๆ สะท้านใจเชียวแหละครับ ....

ผมเองได้ยินเรื่องราวถึงวิธีคิดของคนพวกนี้มาตั้งแต่เรียนปริญญาโท

ได้ยินข่าว เสียงสะท้อนต่าง ๆ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

ตราบที่ได้มาเป็นครูสอนพวกเขาเอง ยิ่งรู้สึกถึงวิธีคิดที่ไม่เปลี่ยนแปลง

ระบบการศึกษาที่ล้มเหลว ... การทุจริตเกิดขึ้นจากความคิดของคนเลว ๆ ครับ

มหาวิทยาลัยผมก็ใกล้จะเป็นแบบนั้นแล้วครับ ร้านถ่ายเอกสารใบปริญญา แม้แต่วิชาชีพตัวเอง ผมก็รับไม่ได้กับคุณภาพของนักศึกษาที่จบออกไป แต่ไม่รู้เรื่องเลย

ขอบคุณมากครับ คุณเอก :)

ขอบคุณครับ คุณ เอื้อม  ... :)

การเรียนรู้ตลอดชีวิต การทดสอบก็ตลอดชีวิตเหมือนกัน :)

มาอ่านบันทึกฮิต ฮ๊อต อีกหลาย ๆครั้งค่ะ

...

เมื่อคืนฝันร้ายไหมคะ ... กลายเป็นปูฝันร้ายเอง อิ อิ

แต่ ดีใจเมื่อวานได้คุยกับเพื่อน ที่มีความคิดคล้ายๆ กัน

และ แม้จะเป็นเพียงฟันเฟืองเล็กๆ ไม่มีบทบาทอะไร

ในสังคมมากมาย แต่อย่างน้อยที่สุด เราก็ภาคภูมิ :)

...

ยังคงต้อง ทวนกระแส อันเชี่ยวกราก ของทัศนคติ

แห่งการใช้ชีวิต และ มุมมองของสังคมนี้ไปอีกนานเลย

...

ยิ้ม ยิ้ม แยะ แยะ แทะ แทะ ยิ้ม ยิ้ม สู้ สู้ มิได้อยู่คนเดียว

We will never Walk Alone ... Surely, Ever After !

 

ดวงดาวแห่ง ความดี จะ กระจายไปทั่วหล้า .. แน่นอนค่ะ :)

ขอบคุณครับ คุณ poo :) ... ดวงดาว (กระจาย) ใช่ไหมครับ อิ อิ

ก็ถือว่า ประเด็นนี้เป็นเรื่องราวที่ร้อนแรงพอสมควรครับ

ทำให้การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เป็นไปด้วยความเข้าใจและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ตรงของแต่ละท่าน

เยี่ยมมาก ๆ ครับ ... อย่างน้อยฟันเฟืองตัวน้อย แต่เป็นฟันเฟืองแห่งความดีเช่นกันครับ :)

พวกเรามาเข็นสังคมกันเถอะครับ !!!

  • อยากช่วยคุณครูนะครับ
  • แต่บางทีอยากให้คำปรึกษา
  • มากกว่า
  • มาแบบนี้
  • 26. เล็ก
    on Sun, Jan 18, 2009 @ 06:36 PM
    1774 [Delete]

    เป็นครูเป็นบ้านนอก เวลา ต้องการเอกาสารอ้างอิงงานวิจัยโดยเฉพราะกลุ่มสาระภาษาอังกฤษ เป็นเรื่องที่ยากมาก ไม่มียานพาหนะที่จะไปค้นคว้าในมหาวิทยาลัยใหญ่ ต้องใช้ความพยายามสืบค้นจากอินเตอร์เน็ท แต่ก็แสนลำบาก โดยเฉพราะ เวป ของท่าน อาจารย์ ขจิต ฝอยทอง เข้าไม่ได้ ครูมีน้อยถ้าจะเอาเวลามาหาข้อมูลก็ไม่ได้สอน โรงเรียนขนาดเล็กเป็นอะไรที่ลำบากมาก ต้องผิดชอบสอนถึง 2-3 ห้องเรียน ใหนจะงานอื่นๆอีกทั้งโรงเรียนมีครู 3-4 คน แต่โรงเรียนใหญ่ทำอะไรเราก็ต้องเหมือนกัน ใหนจะถูก สมศ ประเมินไม่ผ่าน 2 ขั้นไม่เคยได้ ถูกเพื่อนในกลุ่มโรงเรียนตราหน้าโรงเรียนไม่ผ่าน ทำให้เสียไปด้วย โอ้ย ! สารพัดที่จะเจอ เป็นครูต้องทำงานวิจัย

    เป้นความในใจที่อยากระบายให้ท่านฟัง และอยากขอความกรุณาช่วยอนุเคราะห์ เอกสารที่เกี่ยวข้อง ( บทที่ 2 )หน่อย จะเป็น พระคุรอย่างยิ่ง ขอขอบพระมา ณ โอกาสนี้

     

    จากครูวัยใกล้เกษียณ

  • เวรกรรมของขจิต และสงสารคุณครู

  • อันนี้เอามาจาก researchers.in.th

  • ขอบคุณครับ

ขอบคุณมากครับ ... อาจารย์ ขจิต ฝอยทอง :)

"การให้คำปรึกษา" ดูเหมือนจะเป็นหนทางที่ดีกว่า "การให้คุณครูช่วยตัวเอง" ครับ

เราช่วยกันในวงการเดียวกัน เป็นวิธีช่วยที่ถูกต้องที่สุดครับ

"ปัญหา" มีไว้แก้ไข เพื่อเติมกำลังใจให้กับตนเอง ครับ

อาจารย์ ทราบมั๊ยคะ ยังมีอีก ถ้าคุณดื่มเหล้าไม่เป็น และไม่สามารถเสิร์ฟเหล้า หรือนั่งอยู่ในวงเหล้ากับเค้าได้ คุณก็จะเป็นอีกคนที่ไม่อยู่ในสายตาของเค้า ต่อให้คุฯตั้งใจสอนเด็กและทำงานได้ดีแค่ไหน เรื่องจริงที่น่าขมขื่นจริงค่ะท่าน เพราะคนที่เอาใจเจ้านายด้วยพวกนี้มีเยอะค่ะ หนูก็เจออยู่ค่ะตอนนี้

ขอโทษนะคะอาจารญ์แต่เป็นเรื่องจริง เพราะที่บ้านหนูไม่มีใครดื่มเหล้าเลย และหนูก็จบ ป.ตรี จากมหาวิทยาลัยเก่าแก่ของภาคอีสาน คำพูดหนึ่งที่หนูแทบร้องไห้ ท่านบอก ว่าอุดมการณ์ ไม่ได้ทำให้หนูก้าวหน้าได้ แต่การบริการและรู้จักการปฏิบัติจะอยู่รอดกว่า

  • ธุ  อาจารย์วสวัตดีมารค่ะ..

ผมก็เตือนอีกว่า "ผู้บริหารบ้านเราเนี่ยดีหมด แต่ขาดหลักธรรมอย่างเดียว คือ หิริ โอตัปปะ บ้านเมืองถึงได้วุ่นวายอยู่แบบนี้"

มีคนตอบมาทันทีเลยว่า "ก็อาจารย์ไม่บอกก่อนว่าจะมีการสอบ"

"ปกติที่นี่เค้าสอบแบบเปิดหนังสือกัน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ไม่เปิด"

ผมเลยตอบกลับไปว่า "งั้นนี่แหละปกติ ไม่เปิดหนังสือ เสร็จแล้วส่งเลย เสร็จแล้วออกไปข้างนอกเลย"

นักศึกษาเหล่านั้นมีอาการของความไม่พอใจออกมาทันที

ผมเลยพูดต่อว่า "ใครเปิดหนังสือ ผมจะติ๊กชื่อแจ้งอาจารย์ประจำวิชาไปเลย"

ผลคือ "เงียบ"

 

 

อ่านแล้วก็สะท้อนใจค่ะ   เป็นกำลังใจให้กับอาจารย์นะคะ   

ขอบคุณประสบการณ์ของคุณ ทรายชล มาก ๆ ครับ

ผมเองก็เป็นเช่นนั้นตั้งแต่ตอนเรียน ป.ตรี แล้วครับ ... ไม่กินเหล้า คือ ไม่มีเพื่อน ต้องอยู่นอกกลุ่มความคิดของคนพวกนี้

อยากให้กำลังใจนะครับ ... คนดี อย่างไรก็เป็น คนดี วันยังค่ำ

"ความดีสวยงามเสมอ ครับ"

ส่วน "ความไม่ดี ก็ขอให้เป็นตับแข็งตายไปไว ๆ หน่อย"

ขอบคุณครับ :)

ดีจ้า หนูต้อม เนปาลี :)

สะท้อนใจหายห่วงครับ ... เขาไม่อยากได้หรอกครับ ความรงความรู้ เขาอยากได้แค่ "ใบปริญญา" แปะข้างฝาบ้านเท่านั้น

ขอให้เป็นแค่ "บางคน" ครับ :)

  • ธุ  อาจารย์วสวัตดีมารค่ะ..

งั้น "คุณค่าความเป็นคน"  ตลอดจน "สามัญสำนึกที่ดี" ไม่ได้วัดที่จำนวนใบปริญญาที่แปะข้างฝาบ้านใช่ไหม?  อิอิ    เพราะงั้นคงแย่  เพราะต้อมก็ไม่มีแปะไว้สักใบเสียด้วยสิ

โอมเพี้ยง..ง..ง ขอให้เป็นแค่ "บางคน" อย่างที่อาจารย์ว่าเนอะ

คุณค่าความเป็นคน และ สามัญสำนึกของความเป็นคน

ไม่ได้วัดกันที่ใบปริญญา ตำแหน่ง วิทยฐานะใด ๆ ครับ

เวลาตายไป ก็เอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง

ขอให้เป็นเพียง "บางคน" ครับ :)

ขอบคุณครับ หนูต้อม เนปาลี :)

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับกำลังใจจากอาจารย์ หนู คิดเสมอว่า หนูเป็นครู หน้าที่หนู คือ สอนเด็กให้มีความรู้ และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็กๆ ความดีไม่มีวันตายใช่ไหมคะอาจารย์ ขอบคุณค่ะ

คุณครู ทรายชล  ครับ ลองอ่านบันทึกนี้ดูไหมครับ : คุณเชื่อไหมว่า "ความดี ... สวยงามเสมอ" ?

หากเราอยากให้มีชีวิตที่มีความสุข เราต้องรู้จักให้ความรักและกำลังใจกับคนอื่นให้เป็น ครับ ( ใครพูดก็ไม่ทราบนะครับ :)

สั่งสมความดีมาตลอด  ทำงานตามอุดมการณ์เพื่อเด็กๆ เพื่อองค์กร ...เหนื่อยตั้งแต่ก่อนปีใหม่ จนถึงวันนี้ ...วันนี้รู้สึกว่าแพ้โดยสิ้นเชิงค่ะ  จะเอางาน โดยไม่นึกถึงจิตใจคนทำงาน...วันนี้จึงตัดสินใจได้เร็วขึ้นค่ะที่จะอยู่นอกระบบราชการ 

เคารพการตัดสินใจของคุณ สายนที  ครับ :)

คนดีไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็ยังเป็นคนดีอยู่วันยังค่ำ ยังมืด ครับ

อยากให้กำลังใจ ครับ :)

      สวัสดีค่ะอาจารย์ เป็นกำลังใจให้นะคะ อยากให้ประเทศชาติมีอาจารย์อย่างท่านเยอะๆ จังเลยค่ะ

ไม่ใช่เป็นแค่ที่นั่นที่เดียว ที่อื่นก็มีค่ะ ในฐานะนักศึกษา ป.โท ก็หดหู่ไม่แพ้อาจารย์ ตัวอย่างที่เจอกับตัวเองค่ะ

1. คุณภาพของเนื้อการสอนที่ไม่สอดคล้อง กับ สาขาที่เรียน

2. คุณวุฒิของคณาจารย์ที่ดูว่าจะมีแต่ ดีกรี แต่ไม่มี จรรยาบรรณ แห่งความเป็นผู้ให้

3. เกณฑ์การคัดเลือก มาตารฐานของนักศึกษา อ่อนแรง

อาจารย์บางท่านที่สอน มักจะบ่นให้ฟังว่า เด็กสมัยนี้ก้าวร้าว ไม่ใช่แค่แสดงกับอาจารย์ แสดงกับนักศึกษาที่อาวุโสกว่าที่เรียนด้วยกันด้วย (เจอมากับตัวเอง)

ขอเป็นกำลังใจ อาจารย์เคยได้ยินเพลง "ท่าน้ำ" ของ บุษยา รังสี ไหมคะ

"เมตตา"ของอาจารย์ จะช่วย "คำจุน"คนที่เข้าถึงสิ่งที่อาจารย์มอบให้ค่ะ

นับถือ... นกกา:)

ขอบคุณมากครับ น้อง ^-^ นกกา ^-^ :) .. สำหรับกำลังใจที่มีให้ครับ :) ...

อาศัยการเรียนรู้จากคำสอนของสัมมาสัมพุทธเจ้าเรื่อง บัว 4 เหล่า น่ะครับ ... ใครต้องการความรู้ ยินดี ใครไม่ต้องการ ก็ไม่เป็นไร ครับ

เฮ้ย ครูต้อยอ่านแล้วก็ต้องร้องเฮ้ย....แบบเหนื่อยใจค่ะ

เอาไปทำไม่ตอนนี้หมา สุนัข ก็ไม่เหาซะหน่อยนะครูผู้สูงอายุ หากเรียนแล้วไม่เข้าใจ สมองมันไม่รับก็ขอแนะนำว่าปฏิบัติธรรมเถิด ไม่เกิน 7 ปี คงสามารถเข้าใจอะไรๆได้มากขึ้น และจักได้เตรียมตัวไปสู๋ภพใหม่ด้วยความสุข กันทุกๆฝ่าย

อยากรู้อะไรก็หาหนังสือมาอ่าน แล้วก็แลกเปลี่ยนความรู้กับหลายๆฝ่ายไม่ดีกว่าหรือ มีดีอะไร ก็เอาออกมาพัฒนาปัดฝุ่นให้มันทันสมัย

ให้มันใช้ประโยชน์ได้เหมาะกับสมัยจะดีกว่าไหม

ความเป็นผู้รู้และเข้าใจในวัยสูงอายุนะเป็นเรื่องประสบการณ์ที่หลอมแล้ว และให้มันเป็นชนวนช่วยจุดให้มันเกิดการต่อยอดไปก็ดีนะคะ อย่างน้อยมันก็เป็นฐานความรู้ใหม่

ก็เขียนตามความรู้สึกนะคะ อ.เสือ เขียนคำว่าเสือลงไปแล้วก็รู้สึกกลัวเสือขึ้นมาเหมือนกัน อิอิ

ไอ้เรื่องเปิดหนังสือสอบก็อย่างหนึ่ง ก็ถ้าต้องเปิดหนังสือทำข้อสอบ แล้วจะไปเรียนทำไม ก็อ่านเองที่บ้านได้นี่ ไม่ต้องเสียสตางค์ 2 ต่อ

อ่านไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องไปซื้ออ่าน ก็ไปหาไอ้ที่เขาเขียนให้อ่านแล้วเราเข้าใจ ก็จบนะ ครูตัอยคิดอย่างนี้ แล้วก็ทำอย่างนี้ สบายใจ อยากรู้ก็ถามเอาบ้าง ไม่ตอบก็ไปหาคนอื่นตอบ ไม่มีใครตอบหากยังต้องการรู้อีกก็หาเอง เท่านั้น เท่านั้นเอง ..หาไม่เจอเดี๋ยวความอยากมันทนไม่ไหวมันเบื่อก็เลิกอยากไปเอง ..

555 คุณ krutoi ... ตกลงผมเป็นอาจารย์เสือไปแล้วหรือนี่ ผมไม่ดุนะ แค่เห็นว่า เรื่องใดไม่ถูกไม่ควร ผมก็ไม่ยอม แค่นั้นเองครับ

คุณ krutoi ... เขียนได้มันมากครับ ... เขาอยากได้อะไรง่าย ๆ ไงครับ เรียนง่าย จบง่าย จ้างง่าย เสียตังค์ง่าย ...

ขอบคุณครับ :)

มีทุกวิชาชีพนะครับ ทั้งป.โท และ ป.เอก ที่มาปรึกษาผม แบบไม่อยากทำเองหนะ เข้าใจมั๊ย ตะเอง 


สู้ๆ ครับ ใครทำ ใครได้ ใครฝึกฝน คนนั้นเชี่ยวชาญ  ^^

ขอบคุณครับ อาจารย์ตี๋ ครูgisชนบท ;)...

เวรกรรมมีจริงครับ อิ อิ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท