นวัตกรรมการจัดการสุขภาพเพื่อสังคม

   ความในใจของผู้เขียนและเป็นผู้เสนอโครงการ  รวมถึงเป็นผู้ดำเนินการจัดทำกระบวนการไปด้วยในคนเดียวกัน  โดยเนื้อหาของแนวคิดในการดำเนินการตามโครงการนี้  ผู้จัดทำมุ่งหวังให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ  โดยการส่งเสริมการออกกำลังกายสำหรับประชาชนทั้งชุมชน  พยายามอย่างยิ่งที่จะนำเสนอในรูปแบบที่เรียกว่า  นวั่ตกรรม  และใช้ชื่อว่า  " นวัตกรรมการจัดการสุขภาพเพื่อสังคม"

หลักการและเหตุผล   * การมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์เป็นความปรารถนาสูงสุดของทุกคน  ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น  คำล่าวที่ว่า  การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐย่อมเป็นสุดยอดของความปรารถนาของมนุษย์ทุกคนเช่นเดียวกัน  ในสังคมยุคโลกาวิวัฒน์ที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  แต่  ปัญหาสุขภาพโดยเฉพาะโรคที่สร้างความเจ็บป่วยอย่างเรื้อรัง  สร้างความทุกข์ทรมานแก่ประชาชนชาวไทยเป็นจำนวนไม่น้อยต่อปี  อัตราอุบัติการณ์ของโรคหัวใจ  โรคอ้วน  โรคความดันโลหิตสูง  และโรคเบาหวาน  จึงสร้างปัญหาสุขภาพให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องและยาวนาน  สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจให้กับประเทศชาติเป็นจำนวนไม่น้อยต่อนี้ 

**  จากการศึกษากระบวนการเกิดโรคเรื้อรังหลายๆโรค  มีสาเหตุมาจากการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เหมาะสม  ยกตัวอย่าง  การไม่ชอบออกกำลังกาย  การบริโภคอาหารที่มีไขมัน  การใช้ชีวิตอย่างเคร่งเครียดมากเกินไปในการทำงานและการดำรงชีวิต  การดื่มเหล้าและการสูบบุหรี่  ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เป็นปัจจัยเสี่ยงของประชาชนแบบไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคเรื้อรังตามมามากมาย

*** ในพื้นที่ตำบลโคกเพชร  รับผิดชอบ  11  หมู่บ้าน  ในปี 2551  มีผู้ป่วยเรื้อรังที่มีอาการทางกายและทางจิต  จำนวนมากโดยแยกออกเป็นผ้ป่วยเรื้อรัง  จำนวน 193  คน   ผู้พิการที่จะต้องได้รับการดูแล  จำนวน 62  คน  รวมทั้งสิ้น  255 คน กลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังการถ่ายทอดทางพันธุกรรม  จำนวน 824  คน  การสร้างนวัตกรรม  จึงต้องมีการจัดการองค์รวมรู้ความรู้โดยอาศัยการคิดอย่างเป็นระบบ  (System Thinking)  เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว  เกิดเป็นนวัตกรรมการจัดสุขภาพเพื่อสังคมโคกเพชรอย่างแท้จริง

****  ความพยายามในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนของสถานีอนามัยบ้านโคกเพชร  เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2547   ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ตำบลโคกเพชร  เริ่มมีการส่งเสริมการออกกำลังกายอย่างจริงจัง  โดยเจ้าหน้าที่ในตำบลโคกเพชร  พยายามดึงศักยภาพของคนในชุมชนออกมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด  โดยเรียนรู้ว่า  ชุมชนไม่ใช่ภาชนะว่าง