บันทึกเรื่อง "การเขียน" เดินทางผ่านมาเรื่อย ๆ ทีละน้อย ๆ
ประเด็นตอนนี้คือ "การเขียน" ช่างไม่ต่างอะไรกับ "การปฏิบัติธรรม" เชื่อหรือไม่ครับ
เมื่อเครื่องติดก็จะไม่มีผู้เขียน ไม่มีกระดาษ ไม่มีปากกา ไม่มีความคิด มีเพียงการเขียนที่กำลังเขียน อย่างอื่นล้วนมลายหายสูญไปหมด ไม่มีเธอหรือฉันที่กำลังเขียน ไม่มีใครเป็นผู้ตัดสินหรือโอดครวญว่า สิ่งที่เรากำลังเขียนนั้นดีพอหรือไม่ มีเพียงการเขียน การรับรู้ การยอมรับ และการปล่อยวางความคิดที่หลั่งไหลผ่านตัวคุณไปตามความเป็นจริงเท่านั้น
การเขียนสอนเราให้เข้าถึงศักดิ์ศรีแห่งการซื่อสัตย์ต่อตนเองและการยอมรับความจริงได้ดีไม่ต่างจากการฝึการยอมรับชีวิตในปัจจุบันขณะ ตามหลัก "ตถตา" ซึ่งแปลว่า "มันเป็นเช่นนั้นเอง" อันเป็นหนทางสู่การปลดปล่อยอัตตาตันตนทางพุทธศาสนา
นาตาลี โกลด์เบิร์ก อาจารย์เซนและผู้เขียนหนังสือ เชื่อในหัวใจ เขียนให้ถึงแก่น ปลดปล่อยนักเขียนในตัวคุณให้เป็นอิสระ กล่าวว่า
"หากคุณแสดงบางสิ่งบางอย่างออกมาโดยปราศจากอัตตา สิ่งนั้นจะเปี่ยมไปด้วยพลัง เพราะมันแสดงถึงวิถีอันจริงแท้ของสรรพสิ่ง ดังนั้นจงปล่อยวางทุกอย่างขณะที่เขียน และลองเริ่มต้นแบบง่าย ๆ ใช้คำพูดธรรมดาสะท้อนสิ่งที่อยู่ภายในใจคุณออกมา การเริ่มต้นอาจไม่ราบรื่น แต่จงปล่อยให้ตัวเองเงอะงะ เพราะการเขียนคือการกำลังเปลื้องผ้าตัวเอง กำลังตีแผ่ชีวิตตัวเอง ไม่ใช่ในแบบที่อัตตาของคุณอยากจะแสดงออก แต่ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง และเพราะเหตุนี้เองทำให้ฉันมองการเขียนเป็นเรื่องทางศาสนาที่จะกะเทาะเปลือกคุณออก และทำให้จิตใจของคุณที่มีต่อโลกอันอบอุ่นใบนี้อ่อนโยนขึ้น"
"ทุกครั้งที่ฉันเขียน ฉันจะรู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้น คล้ายกับได้ย่อยสลายความรู้สึกของตัวเองออกมาอย่างเป็นระเบียบลงในกระดาษ แล้วก็สามารถจบกับเรื่องนั้น ๆ ได้ การเขียนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งต่อการพัฒนาจิตวิญญาณของเรา เปรียบเสมือนการทำความเข้าใจชีวิต เป็นการปลุกให้ตัวเองมาสติ การหยิบปากกาขึ้นมาและจดจ่ออยู่กับตัวเองชั่วระยะเวลาหนึ่งเพื่อเขียนสิ่งที่รู้สึกออกมาเป็นตัวอักษร ขั้นตอนเหล่านี้ไม่ต่างอะไรจากการฝึกสมาธิเลยสักนิดเดียว"
กระบวนการเขียนจะสอนเราถึงเรื่องของสติปชัญญะ เราจะเจริญสติควบคู่ไปกับการเขียนโดยอัตโนมัติ เพราะการเขียนเป็นการอยู่กับปัจจุบันขณะ เป็นการตามดู ตามรู้ และพิจารณาสถาวะจิตของเราอย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้ การปฏิบัติธรรมตามแบบเซนและการเขียนจึงทำงานสอดประสานกันเป็นอย่างดี เพราะทั้งการปฏิบัติธรรมและการเขียน คือ การทำงานกับจิต ยิ่งเราเข้าใจจิตของเรามากเท่าไร เราก็ยิ่งทำทั้งสองอย่างได้ดีขึ้นเท่านั้น
...................................................................................................................................
กระบวนการเขียน คือ การปฎิบัติธรรม ด้วยความสัตย์จริง ครับ
ขอบคุณครับ :)
....................................................................................................................................
แหล่งอ้างอิง
ฐิติขวัญ เหลี่ยมศิริวัฒนา. "สมุดชีวิต การเขียนเพื่อพัฒนาชีวิตและปลดปล่อยจิตวิญญาณ", Secret. 1, 13 (10 มกราคม 2552) : 44 - 47.
.....................................................................................................................................
ขอบคุณค่ะ อาจารย์
ขอบคุณคำที่แนะนำ
กำลังพยายามอยู๋ค่ะ
การเขียน เป็นการฝึกตนเอง ในการเรียบเรียงความรู้สึกนึกคิด
เรียบเรียงความคิด จัดระบบความคิด
ให้เกิดความคิดที่หลากหลาย
ขอบคุณค่ะ
มีความสุข เสมอๆนะคะ
สวัสดีค่ะอาจารย์ Wasawat Deemarn
ขอบคุณครับ คุณ krutoi :) ... สู้ ๆ ครับ
ขอบคุณครับ คุณ @..สายธาร..@ :) ...
สวัสดีครับ คุณพยาบาล สีตะวัน :)
การเขียนสอนเราให้เข้าถึงศักดิ์ศรีแห่งการซื่อสัตย์ต่อตนเองและการยอมรับความจริงได้ดีไม่ต่างจากการฝึการยอมรับชีวิตในปัจจุบันขณะ ตามหลัก "ตถตา" ซึ่งแปลว่า "มันเป็นเช่นนั้นเอง" อันเป็นหนทางสู่การปลดปล่อยอัตตาตันตนทางพุทธศาสนา
ขอบคุณครับ :)
สวัสดีค่ะ
มาอ่านรอบที่สองค่ะ
ยิ่งอ่านก็ยิ่งชอบและเห็นด้วยมากขึ้นค่ะ
สำหรับตัวเองแล้ว เมื่อได้เขียน...ทำให้พบว่า เราได้รู้จัก ตัวตน ของเราในแง่มุม ที่เราไม่ค่อยเคยเห็น แปลกใจ ดีใจ ตกใจในความเป็นตัวเองด้วยในบางครั้งค่ะ
และเป็นข้อคิดที่ดีค่ะ .... จงปล่อยให้การเขียนสอนเราเรื่องชีวิต และให้ชีวิตสอนเราเรื่องการเขียน...
(^___^)
ขอบคุณมากครับที่คุณ คนไม่มีราก ได้ทิ้งร่องรอยไว้ให้ชื่นใจ
การเขียน ทำให้รู้จักตัวตนในมุมมองที่ตัวเองก็ไม่ได้ทราบว่า เรามีศักยภาพ นะครับ :)
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ปฏิบัติธรรมค่ะ
เพราะกิเลส ยังเยอะ อยู่ อิ อิ
...
มีแต่ จับภาพ ล้วนๆ ค่ะ อิ อิ
เป็นกำลังใจให้ อ. เสือ
ปฏิบัติธรรม แทน แล้วกันนะคะ
....
ว่างๆ มาปฏิบัติธรรม ที่ทะเลบ้างก็ได้ค่ะ :)
ผมเองก็ "คนห่างวัด" ไม่น้อยครับ คุณ poo :)
ยังไม่พร้อมที่จะปฏิบัติธรรมอันเป็นเรื่องเป็นราว
อาจจะมีอคติ หรือรู้จักตนเองมากพอแล้วก็ได้ครับ
เคยเห็นเพื่อนไปปฏิบัติธรรมที่เหมือนกับแค่หนีปัญหาไปชั่วคราว
กลับมาก็ต้องเผชิญปัญหาเดิมอยู่ แถมยังไม่เปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง
ผมเลือก "ปฏิบัติธรรม" ในชีวิตจริงก่อนแล้วกันนะครับ :)
๕ ๕ เหมียนเดิม ๆ เลย อ.เสือเรา
...
เอ หรือปูเขียน สื่อสารผิดอีกแล้ว
ก็ อ. บันทึก การเขียน คือ การปฏิบัติธรรม
ปูหมายถึง ปูไม่ค่อยได้ เขียนบันทึกเท่าไหร่ค่ะ
ช่วงนี้ ....
...
คนละรุ่น ๆ ต่างวัย กัน จรีงๆ ด้วย อิ อิ :)
แต่ไงก็ เห็นด้วยกับ
"ปฏิบัติธรรม" ในชีวิตจริง
เพราะ ธรรมะ คือ ธรรมชาติ จากตัวเอง
....
ไปทะเล กัน ไหมคะ ... มีภูเขาด้วยหนา
ตามอ่านตั้งแต่บันทึกแรกค่ะ ไม่มีเวลามาทิ้งรอยเลย แต่ขอบคุณที่นำเรื่องดีมาถ่ายทอดค่ะ การเขียนคือการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่ง อันนี้ได้ใจจริงๆ เพราะเมื่อไร ๆ ก็ไม่เห็นใครพูดเรื่องเขียนเท่าเรื่องอ่านเรื่องทำงานเลย
อ้าว พี่หม่อม ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี อ่านตั้งแต่แรกแล้วเหรอครับ :)
ขอบคุณครับ ...
สวัสดีครับ
ขอบคุณครับ สำหรับสิ่งดีๆ ที่นำมาแบ่งปัน
ชอบมากครับ สำหรับประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับ "การเขียนเพื่อพัฒนาจิตวิญญาณ"
จะขอน้อมรับไปปฏิบัติดูครับ
ขอบคุณครับ คุณ ณภัทร๙ .. ยินดีนัก ๆ ครับ
จงปลอ่ยให้การเขียนสอนเราเรื่องชีวิต
และปลอ่ยให้ชีวิตสอนเราเรื่องการเขียน
จงปลอ่ยให้สองสิ่งนี้หลั่งไหลไปสู่กันและกัน
ขอบคุณบันทึกดีๆค่ะ
ขอบคุณครับ ;)...
ยินดีครับ คุณแสงฯ แสงแห่งความดี... ;)...