พรุ่งนี้...ปีหน้า (Vitamin Story 2)


ในวันหนึ่งของฤดูร้อนอันอบอ้าว มีแมลงเม่าตัวหนึ่งกำลังเล่นกับตั๊กแตนอย่างสนุกสนานในท้องนา ระหว่างที่เล่นกันอย่างเพลิดเพลิน ตั๊กแตนหันไปเห็นว่าพระอาทิตย์กำลังเลื่อนลับขอบฟ้า

ตั๊กแตนไม่อยากเล่นต่อแล้ว จึงพูดว่า

"นี่ วันนี้เราเล่นกันแค่นี้นะ แล้วพรุ่งนี้เราค่อยมาเล่นกันใหม่!"

แมลงเม่าเอียงคอสงสัย

"อะไรนะ พรุ่งนี้งั้นเหรอ... พรุ่งนี้คืออะไร

วันนี้เป็นวันสุดท้ายไม่ใช่เหรอ แล้วพรุ่งนี้คืออะไรกัน"

"พรุ่งนี้ก็คือวันที่มาหลังจากพระอาทิตย์ตก และมีดาวเป็นประกายระยิบระยับบนท้องฟ้าน่ะสิ ในเวลากลางคืน สัตว์ทั้งหลายจะหลับใหล พอพระอาทิตย์ขึ้นอีกครั้ง สัตว์ทั้งหลายก็จะตื่นจากการหลับ นั่นละคือวันพรุ่งนี้"

แต่ไม่ว่าตั๊กแตนจะอธิบายยังไง แมลงเม่าก็ไม่เข้าใจ เพราะว่าแมลงเม่ามีชีวิตอยู่ได้แค่วันเดียวเท่านั้น

วันต่อมาตั๊กแตนพยายามมองหาแมลงเม่า แต่ก็หาไม่เจอ ตั๊กแตนจึงไปเล่นอย่างสนุกสนานกับกบ ซึ่งเป็นเพื่อนใหม่ ทั้งสองเล่นกันอย่างเพลิดเพลินตลอดฤดูร้อน เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงที่มีสายลมเย็น ๆ พัดโชยมาเยือน แม้ว่าจะอดทนเล่นต่อไป แต่อากาศก็เย็นลง ๆ จนตั๊กแตนและกบทนเล่นต่อไปอีกไม่ได้ กบจึงพูดกับตั๊กแตนว่า

"ตั๊กแตน อากาศเริ่มหนาวแล้วละ ไว้เรามาเล่นกันต่อปีหน้านะ!"

ตั๊กแตนเกาหัวก่อนถามกลับไปว่า

"ปีหน้าคืออะไรเหรอ"

กบไม่เข้าใจว่าทำไมตั๊กแตนถึงถามอย่างนั้น แต่กบก็อธิบายให้ฟังว่า

"ถ้าเวลาผ่านไปอีกหน่อย ทั้งโลกนี้จะถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาว น้ำจะกลายเป็นน้ำแข็ง แล้วฉันก็จะเข้าไปนอนอยู่ใต้ดิน พอถึงฤดูใบไม้ผลิอันอบอุ่น ฉันจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง นั่นแหละคือปีหน้า"

แต่ตั๊กแตนไม่เข้าใจที่กบพูดเลยแม้แต่น้อย พอหนึ่งปีผ่านไป กบก็ไม่ได้เจอกับตั๊กแตนอีกเลย

 


วิตามินบำรุงใจ

 

แมลงเม่าไม่เข้าใจว่าวันพรุ่งนี้คืออะไร ส่วนตั๊กแตนก็ไม่เข้าใจว่าปีหน้าคืออะไร ดังนั้น พวกมันจึงไม่เชื่อว่า วันพรุ่งนี้และปีหน้ามีอยู่จริง

แมลงเม่าเชื่อในเวลาปัจจุบัน ที่เรียกว่า "ตอนนี้"

ส่วนตั๊กแตนก็เชื่อในเวลาปัจจุบัน ที่เรียกว่า "ปีนี้"

คนส่วนมากชอบอ้างถึง "พรุ่งนี้" หรือ "อีกเดี๋ยว"

แต่คำว่า "พรุ่งนี้" หรือ "อีกเดี๋ยว" นั้น เป็นคำโกหกที่ฟังดูดีมาก

ชัฟเฟอร์ นักเขียนท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า

"ชีวิตของคนเราผ่านไปอย่างรวดเร็ว อีกไม่นานชีวิตก็จะหายไป ถ้าเรามัวแต่เสียใจ ทะเลาะกันหรือโกรธกัน เวลาอันมีค่าของชีวิตที่เรียกว่า "ปัจจุบัน" จะหายไปอย่างไร้ประโยชน์ เวลา "ปัจจุบัน" ดำเนินอยู่ได้ไม่นานนักหรอก"

ดังนั้น ถ้าเรามัวแต่พูดว่า "พรุ่งนี้" หรือ "อีกเดี๋ยว" ซ้ำ ๆ

เผลอแวบเดียว เวลาที่เรียกว่า "ผู้ใหญ่" จะเดินทางมาหาเรา

พอถึงตอนนั้น เราก็จะมานั่งเสียใจกับคำว่า "พรุ่งนี้" หรือ "อีกเดี๋ยว" ที่เราได้อ้างไป

จงทำเวลา "ปัจจุบัน" ให้เป็นเหมือนเพื่อนสนิทที่สุดของเรา

จงทำให้มันเป็นเสมือนสิ่งสำคัญที่เราหวงแหนที่สุด

ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะว่าเพื่อนที่ชื่อ "ปัจจุบัน" เป็นเพื่อนที่ให้ของขวัญอันล้ำค่าแก่เรามากที่สุดอย่างไรละ

 

 


แหล่งอ้างอิง

ปาร์ก, ซอง ซอล.  เรื่องเล่าดี ๆ เติมเต็มหัวใจ = Vitamin Story 2.  กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2551.

 

หมายเลขบันทึก: 230336เขียนเมื่อ 18 ธันวาคม 2008 09:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

สวัสดีตอนเช้าค่ะอาจารย์Wasawat Deemarn

  • อ่านแล้วก็มีรอยยิ้มน้อย ๆ ในใจ ..
  • ได้แง่คิดดีค่ะ
  • ชีวิตควรอยู่กับปัจจุบันใช่ไหมค่ะ
  • ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
  • ...ไปร่วมประชุมล่ะ..คนไทยไร้พุง
  • มีความสุขทุกวันนะคะ

ขอบคุณที่มาเยี่ยมบันทึกเป็นคนแรกครับ คุณพยาบาล สีตะวัน :)

รับพร จากท่าน ผอ. นายประจักษ์ :)

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๒ ครับ

สวัสดีครับ แวะมาส่งความสุขในช่วงปีใหม่

ขอให้มีความสุขทั้งกายและใจครับ

สวัสดีปีใหม่ 2552 เช่นกันครับ เสธ. Col.boonyarit :)

ขอให้เสธ. และครอบครัวมีความสุขมาก ๆ ครับ

สวัสดีครับสงบและเย็นทุกครั้งที่เข้ามาอ่านเลยครับ ^^ ปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธ์ที่อาจารย์นับถืออำนวยพรให้อาจารย์และคนที่อาจารย์รักมีความสุขมากมายก่ายกองครับ ^^

ขอบคุณมากครับ คุณ U-and-ME :)

ขอให้พรนั้นกลับคืนสู่ผู้อวยพร ได้รับสิ่งดี ๆ ที่สุดในชีวิตเลยนะครับ :)

สวัสดียามเช้าครับ คุณ ครูปู :)

มาดผู้บริหารเจง ๆ ครับ

ขอบคุณครับ :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท