นี่น่าจะเป็นวิธีเข้าถึงความสุขของตนเองหลังการเกษียณอายุราชการกระมัง


      เมื่อวันที่ 30 ต.ค.- 2 พ.ย. ผมได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดบางไผ่ พระอารามหลวง  เป็นการฝึกสติปัฏฐาน 4  คือ รูป  เวทนา  จิต และ ธรรม  ตามรูปแบบของคุณแม่สิริ  กลินชัย  ซึ่งเน้นการฝึกสติในชีวิตประจำวัน  และที่มีการฝึกอย่างเข้มข้นคือ  การกราบพระ  การเดินจงกรม  และการนั่ง
           การกราบพระ ถือว่าคุณแม่สิริท่านคิดค้นวิธีการกราบที่สวยที่สุด  แต่เสียดายที่สุขภาพผมไม่เอื้ออำนวย  การปฏิบัติส่วนใหญ่จึงนั่งที่เก้าอี้  ซึ่งวิทยากรก็ยืดหยุ่นให้ 
          การเดินจงกรม  คุณแม่สิริ  ท่านมีลำดับขั้นตอนการฝึกเป็น  6 ขั้น (ภายหลังท่านเพิ่มขั้นที่ 7 อีก)  กล่าวคือ
ขั้น  1   คือ  ขวาย่างหนอ  ซ้ายย่างหนอ
ขั้น 2   คือ  ยกหนอ  เหยียบหนอ
ขั้น 3  คือ  ยกหนอ  ย่างหนอ  เหยียบหนอ
ขั้น 4  คือ  ยกส้นหนอ  ยกหนอ  ย่างหนอ  เหยียบหนอ
ขั้น 5  คือ  ยกส้นหนอ  ย่างหนอ  ลงหนอ  ถูกหนอ
ขั้น 6  คือ  ยกส้นหนอ  ยกหนอ  ย่างหนอ  ลงหนอ  ถูกหนอ  กดหนอ 
ขั้น 7  คือ  เพิ่มการเอาใจใส่กำหนดรู้ตามความเป็นจริงในทุกขั้นตอน
        ช่วงรอยต่อระหว่างการเดินจะมีอีก  เช่น  หยุดหนอ   ยืนหนอ   อยากกลับหนอ  กลับหนอ  เป็นต้น  ซึ่งเป็นการฝึกจิตให้ตามเท่าทันอากัปกิริยาทุกขั้นตอนอย่างละเอียด
         การนั่ง  ใช้อุบายดูความรู้สึกที่หน้าท้อง  ด้วยคำว่า 
ยุบหนอ  พองหนอ   ตรงนี้ค่อนข้างเป็นปัญหากับผมมากในระยะแรก  เพราะผมเคยฝึกแบบ พุทโธกว่าจะปรับได้ใช้เวลานานทีเดียว  เพราะจับความรู้สึกไม่เห็นชัดเหมือนลมหายใจ  แต่เมื่อพยายามปรับก็เริ่มเข้าที่   ที่เห็นชัดคือเวลานอนจะเห็นยุบหนอ  พองหนอชัดมาก  และหลังปฏิบัติจะนอนหลับสบายทีเดียว  ทำให้สุขภาพกาย  สุขภายใจดีกว่าแต่ก่อนมากทีเดียว 
        ทุกวันนี้ผมให้เวลากับการปฏิบัติเช่นนี้  ควบคู่กับการออกกำลังกายทุกวัน โดยตั้งใจว่าจะปฏิบัติให้ต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
         ซึ่งน่าจะเป็นวิธีเข้าถึงความสุขของผมหลังการเกษียณอายุราชการกระมัง

หมายเลขบันทึก: 222150เขียนเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2008 11:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 เมษายน 2012 09:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีค่ะอาจารย์

  • เป็นเช่นเดียวกับอาจารย์ค่ะ
  • เคยฝึกพุทโธ มาก่อน  พอไปฝึกกับพระคุณเจ้าชาวพม่ารูปหนึ่ง แบบยุบหนอ  พองหนอ..รู้สึกมีปัญหาว่าการผ่อนลมหายใจไม่ได้จังหวะค่ะ
  • นานมาก  ประมาณวันที่ 8-9 จึงจะได้  เคยไปฝึกครั้งแรก 11 วันค่ะ
  • ขอให้อาจารย์มีความสุขนะคะ

เรียนครูคิมที่นับถือ

-ขอบคุณครับ...คงขึ้นอยู่กับบุญบารมี และกรรมเก่าด้วย

-ผมส่งหนังสือ "KM เล่มจิ๋ว" ไปให้ตามที่อยู่

642/48 ถนนมิตรภาพ

อำเภอ: อำเภอเมือง

จังหวัด: พิษณุโลก

รหัสไปรษณีย์: 65000

ปรากฏว่าไปรษณีย์ตีกลับ ถ้าอย่างไรช่วยแจ้งที่อยู่ให้ใหม่นะครับ...

การปฏิบัติธรรม ไม่ใช่รูปแบบ

เรามักเข้าใจผิดกันอย่างมาก ในเรื่องของการปฏิบัติธรรม ไม่เข้าใจว่า ปฏิบัติไปเพื่ออะไร แค่ปฏิบัติตามๆกันเท่านั้น เลยได้แต่ความสงบแต่ไม่ได้ปัญญา

สมาธิ แปลว่า ตั้งใจ(มั่น) เมื่อไหร่ก็ตาม ที่คุณมีความตั้งใจกระทำอะไรๆ นั่นก็เป็น "สมาธิ" ทั้งสิ้น

เมื่อใจตั้งมั่นอยู่กับสิ่งๆหนึ่งเรื่องๆหนึ่ง จิตใจของคุณก็สงบจากเรื่องอื่นๆ นั่นก็คือ สมถะ

เรื่องอื่นๆที่เป็นจุดประสงค์ของการปฏิบัติให้สงบลง ก็คือ เรื่องที่ทำให้เราเป็นทุกข์

ความปลอดพ้น ปลอดโปร่ง ของจิตใจ ก็คือ ปัญญาก็จิต

(เพราะในขณะนั้น จิตสามารถ ปล่อยวาง สละ ทอดทิ้ง ไม่อาลัยใยดี หลุดพ้น จากความทุกข์)

อย่าไปยึดติด อยู่กับรูปแบบ แต่ให้ดูว่า ในขณะที่รู้ การยก ย่าง เหยียบอยู่นั้น "จิต" เป็นอย่างไร

หลักการมีอยู่ว่า ไม่มี ๒ ความคิด ในขณะเดียวกัน

เมื่ออยู่กับการรู้ - ก็ไม่มีความคิด

ความทุกข์ ความอยาก ตัณหา เกิดได้เพราะ ความคิด

เมื่อไม่มีความคิด ก็ไม่มีทุกข์..

การปฏิบัติธรรม ไม่ใช่รูปแบบ

เรามักเข้าใจผิดกันอย่างมาก ในเรื่องของการปฏิบัติธรรม ไม่เข้าใจว่า ปฏิบัติไปเพื่ออะไร แค่ปฏิบัติตามๆกันเท่านั้น เลยได้แต่ความสงบแต่ไม่ได้ปัญญา

สมาธิ แปลว่า ตั้งใจ(มั่น) เมื่อไหร่ก็ตาม ที่คุณมีความตั้งใจกระทำอะไรๆ นั่นก็เป็น "สมาธิ" ทั้งสิ้น

เมื่อใจตั้งมั่นอยู่กับสิ่งๆหนึ่งเรื่องๆหนึ่ง จิตใจของคุณก็สงบจากเรื่องอื่นๆ นั่นก็คือ สมถะ

เรื่องอื่นๆที่เป็นจุดประสงค์ของการปฏิบัติให้สงบลง ก็คือ เรื่องที่ทำให้เราเป็นทุกข์

ความปลอดพ้น ปลอดโปร่ง ของจิตใจ ก็คือ ปัญญาของจิต

(เพราะในขณะนั้น จิตสามารถ ปล่อยวาง สละ ทอดทิ้ง ไม่อาลัยใยดี หลุดพ้น จากความทุกข์)

อย่าไปยึดติด อยู่กับรูปแบบ แต่ให้ดูว่า ในขณะที่รู้ การยก ย่าง เหยียบอยู่นั้น "จิต" เป็นอย่างไร

หลักการมีอยู่ว่า ไม่มี ๒ ความคิด ในขณะเดียวกัน

เมื่ออยู่กับการรู้ - ก็ไม่มีความคิด

ความทุกข์ ความอยาก ตัณหา เกิดได้เพราะ ความคิด

เมื่อไม่มีความคิด ก็ไม่มีทุกข์..

สาธุ เป็นบุญแล้วที่เข้ามาเยี่ยมอาจารย์ วันนี้ วันลอยกระทง ครูต้อยP

-สวัสดีค่ะ

-ตามพ่อบ้านไปดูเขาลอยกระทง พอ พ่อบ้านขึ้นเวทีทำหน้าที่กรรมการประกวดร้องเพลงของวัดใหญ่บ้านบ่อ

-ครูต้อยก็ไปกราบพระประธานที่หน้าโบสถ์เก่า เดินจงกลม 1 รอบ

- คนเยอะที่หน้าโบสถ์ เลยเดินมาหลังโบสถ์ เงียบดี อีกทั้งสงบด้วยเป็นที่เก็บกระดูกของผู้จากไป ใครบ้างไม่รู้จัก ไม่นานเราก็เป็นแบบนี้

-ตรงนี้ท่าจะเหมาะ ไม่เปลี่ยวและไม่พลุกพล่าน ต้นโพธิ์ใหญ๋ 2 ต้น เป็นระยะที่ ห่างพอเดินไปกลับได้เหมาะสม  ยืนสงบดูลมหายใจ ลมพัดเอื่อยๆ มากับลมหนาว

- รับรู้แล้วอธิษฐานจิตขออนุญาตสงบใจเดินจงกลมสัก 3 รอบ จบด้วยการแผ่เมตตา เย็น สบาย เบา ก่อนไปกราบลาพระประธาน 

-ร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันนะคะ

-ยังได้อ่านบทความธรรมะของ P ถือว่าวันนี้รับมงคลชีวิตก่อนไปสวดมนต์ไหว้พระเข้านอน

-ขอบคุณค่ะ

-อนุโมทนาบุญกับครูต้อยด้วยครับ

-กราบขอบพระคุณในคำสอนของพระอาจารย์ ชาคโรภิกขุ เป็นอย่างสูงครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท