มีทีมงานถาม...ทำไม่กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตถึงหยุดดำเนินการ ทำอย่างไรที่จะทำให้กลุ่มนั้นอยู่อย่างยั่งยืน ผมตอบว่า"การดำรงอยู่ หรือการจากไปเป็นเรื่องของธรรมชาติ" แต่เป็นธรรมชาติที่คนสามารถเปลี่ยนแปลงให้การดำรงอยู่..ยั่งยืนได้ เมื่อคนคิดและทำต่อเนื่อง ที่กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการการผลิตหยุดดำเนินการ เพราะคนที่เกี่ยวข้องขาดการคิดและทำอย่างเป็นระบบ ปล่อยให้กลุ่มพัฒนาตามธรรมชาติ เป็นธรรมชาติที่ไม่ได้พัฒนา ก็เท่ากับว่ากลุ่มนั้นถอยหลัง
ประเด็นคำถามที่ว่า ระหว่างการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ กับการรักษากลุ่มออมทรัพย์ให้คงอยู่ ประเด็นใดยากง่ายกว่ากัน ในความคิดเห็นส่วนตัวกับประสบการณ์ที่ทำงานพัฒนากลุ่มออมทรัพย์มา เห็นว่าการสร้างกลุ่มออมทรัพย์นั้นยาก แต่การรักษาให้ยั่งยืนนั้นยากกว่า
การสร้างกลุ่มเป็นช่วงเวลาที่เปลี่ยนความคิดของคนให้เห็นพ้องต้องกัน ซึ่งใช้เวลาพอสมควรที่จะสามารถเปลี่ยนความคิดของคนหลายคนให้เป็นความคิดเดียว และร่วมกันทำกิจกรรมร่วมกันได้ แต่ถ้ามีข้อมูล สถานการณ์ และผู้นำที่ดีความสำเร็จก็เกิดขึ้นได้ง่าย
เมื่อจัดตั้งกลุ่มฯ แล้วการรักษากลุ่มให้คงอยู่นั้นยากกว่ามาก ใช้เวลาในการพัฒนาที่ยาวกว่า เป็นการพัฒนาความคิดให้เกิดทักษะในการปฏิบัติ และทำได้จริง ภายใต้ข้อจำกัดของคนที่แตกต่างกัน ต้องอาศัยการเรียนรู้และความตั่งใจที่มุ่งมั่นจึงจะสำเร็จและคงอยู่อย่างยั่งยืน การพัฒนากลุ่มฯไม่ได้อยู่ที่คนใดคนหนึ่ง และอยู่ที่คนที่เกี่ยวข้องต้องทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ
การพัฒนากลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต เป็นบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการและสมาชิกที่จะต้องร่วมกันคิด และทำตามที่คิดไว้ให้สำเร็จ กลุ่มที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินกิจการนั้น คณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์และสมาชิกจะต้องคิดอย่างต่อเนื่อง และทำตามที่คิดได้สำเร็จ หลักการคิดง่าย ๆ คือ ปัจจุบันนี้เป็นอย่างไร ปีนี้จะทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างไร
ในกระบวนการคิดนั้น ให้คิดทำให้ดีขึ้นและสามารถทำได้สำเร็จด้วยหลักการพึ่งพาตนเอง สิ่งที่คิด เมื่อคิดเสร็จให้บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร กันลืม และสามารถใช้เป็นหลักฐานในการให้การศึกษาเรียนรู้ แก่บุคคลอื่น เป็นเอกสารในการขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานอื่น ๆ เอกสารที่ได้ คือ แผนการพัฒนากลุ่มนั้นเอง
แผนที่ได้จากกระบวนการคิด เป็นแผนปฎิบัติการประจำปี ที่คณะกรรมการกลุ่มจะต้องขอความเห็นชอบและให้พันธสัญญากับสมาชิกว่า ในปีนี้คณะกรรมการกลุ่มจะดำเนินการพัฒนากลุ่มตามแผนที่กำหนดไว้ โดยมีสมาชิกเป็นผู้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ ให้แผนดังกล่าวประสบผลสำเร็จ อาจจะทำเป็น ป้ายประชาสัมพันธ์ติดไว้ที่ทำการของกลุ่ม ให้ทุกคนได้เห็น ทุกคนได้รู้ เป็นการส่งสริมการเรียนรู้ของสมาชิกคณะกรรมการและประชาชนทั่วไปที่สนใจกิจการของกลุ่ม
เวทีการคิดดังกล่าวจนถึงสิ้นสุด คือ ช่วยกันพัฒนากลุ่มตามแผนพัฒนากลุ่ม ให้ประสบผลสำเร็จตามแผนพัฒนากลุ่มที่ได้ช่วยกันคิดไว้ ซึ่งจะต้องดำเนินการตามกระบวนการโดยใช้เวทีประชาคมเป็นเครื่องมือ มีอยู่ 5 เวที ดังนี้
เวทีที่ 1 เวทีสร้างทีมงาน
เวทีที่ 2 เวทีสร้างกระบวนการคิด
เวทีที่ 3 เวทีจัดทำแผนพัฒนากลุ่ม
เวทีที่ 4 เวทีรับรอง และปฏิบัติตามแผนพัฒนากลุ่ม
เวทีที่ 5 เวทีฉลองความสำเร็จ
ในตอนที่ 1 นี้จะนำเสนอเฉพาะเวทีที่ 1 ก่อน คือเวทีสร้างทีมงาน
เวทีที่ 1 เวทีสร้างทีมงาน เวทีนี้จะต้องเริ่มที่การสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่อง การพัฒนากลุ่มออมทรัพย์ฯ กับคณะกรรมการและสมาชิกลุ่ม ต้องเป็นเวทีที่มีทั้งคณะกรรมการและสมาชิกกลุ่ม ชี้เหตุผลความจำเป็นที่จะต้องพัฒนากลุ่มให้ก้าวหน้า ไม่ใช่ประโยชน์ของคนอื่น เป็นประโยชน์กับคณะกรรมการและสมาชิกกลุ่มทั้งหมด การพัฒนาส่งผลให้กลุ่มก้าวหน้าและเข้มแข็ง เมื่อกลุ่มเข้มแข็งผลประโยชน์ก็เป็นของทุกคน โดยยกตัวอย่างกลุ่มที่ประสบผลสำเร็จ หรือก้าวหน้าในการบริหารจัดการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ว่าเขาพัฒนาอย่างไร เขาคิดอย่างไร และทำอย่างไร แล้วเราจะก้าวไปสู่จุดแห่งความภาคภูมิใจได้อย่างไร เราจะร่วมเดินทางไปสู่ความภาคภูมิในอนาคตด้วยกันหรือไม่ จากการศึกษากลุ่มที่ประสบผลสำเร็จในการบริหารจัดการกลุ่มออมทรัพย์ พบว่า คณะกรรมการและสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์มีกระบวนการคิด และทำให้กลุ่มก้าวหน้าหรือดีขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ใน 4 ด้าน 14 เรื่อง ดังนี้ 1.ด้านโครงสร้างและกระบวนการทำงาน จำนวน 5 องค์ประกอบ ดังนี้ 1.1 คณะกรรมการ 1.2 ระเบียบข้อบังคับ 1.3 สมาชิก 1.4 สถานที่ทำงาน 1.5 กระบวนการทำงาน 2.ด้านการบริหารเงินทุนและทรัพยากร จำนวน 3 องค์ประกอบ ดังนี้ 2.1 การจัดหาเงินทุนและทรัพยากร 2.2 การจัดสรรและใช้ประโยชน์จากเงินทุนและทรัพยากร 2.3 การควบคุมการใช้ประโยชน์จากเงินทุนและทรัพยากร 3.ด้านการพัฒนาขีดความสามารถขององค์กร จำนวน 3 องค์ประกอบ ดังนี้ 3.1 การพัฒนาการเรียนรู้ 3.2 การพัฒนาทุนทางสังคม 3.3 การเชื่อมโยงกับกลุ่มองค์กรอื่น 4.ด้านผลประโยชน์ต่อสมาชิกและชุมชน จำนวน 3 องค์ประกอบ ดังนี้ 4.1 การดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาของสมาชิก 4.2 การแบ่งปันผลประโยชน์ต่อสมาชิก 4.3 การจัดสวัสดิการต่อสมาชิกและชุมชน ดังนั้น ถ้ากลุ่มออมทรัพย์จะพัฒนาให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน จะต้องช่วยกันคิดช่วยกันทำ ทั้ง 4 ด้าน 14 เรื่องให้ประสบผลสำเร็จทุกปี การคิดไม่ใช่คนหนึ่งคนใดคิด ไม่ใช่ประธานคิด ไม่ใช่กรรมการคิด เราจะช่วยกันคิด เราที่ว่าก็คือ คณะกรรมการบริหารกลุ่มออมทรัพย์และสมาชิก เมื่อตั้งใจจะช่วยกันทำแล้ว วิธีการที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จมี ลำดับแรกจะต้องช่วยเข้ามาเป็นผู้เริ่มคิด คือ เข้ามาเป็นคณะทำงานผู้เริ่มต้นคิด คณะทำงานดังกล่าวนี้จะมี 14 คณะ ๆ ละ 3-5 คน แต่ละคณะประกอบด้วยคณะกรรมการ 1-2 คน ที่เหลือเป็นสมาชิก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับสภาพของกลุ่ม ออมทรัพย์ฯในขณะนั้น คณะทำงานพัฒนากลุ่มออมทรัพย์ ฯ จึงต้องมี 14 คณะ ดังนี้ 1. คณะทำงานพัฒนาคณะกรรมการ 2.คณะทำงานพัฒนาระเบียบข้อบังคับกลุ่ม 3.คณะทำงานพัฒนาสมาชิก 4.คณะทำงานพัฒนาสถานที่ทำงาน 5.คณะทำงานพัฒนากระบวนการทำงาน 6.คณะทำงานพัฒนาการจัดหาเงินทุนและทรัพยากร 7.คณะทำงานพัฒนาการจัดสรรและใช้ประโยชน์จากเงินทุนและทรัพยากร 8.คณะทำงานพัฒนาการควบคุมการใช้ประโยชน์จากเงินทุนและทรัพยากร 9.คณะทำงานพัฒนาการเรียนรู้ 10.คณะทำงานพัฒนาทุนทางสังคม 11.คณะทำงานพัฒนา การเชื่อมโยงกับกลุ่มองค์กรอื่น 12..คณะทำงานพัฒนาการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาของสมาชิก 13.คณะทำงานพัฒนาการแบ่งปันผลประโยชน์ต่อสมาชิก 14.คณะทำงานพัฒนา การจัดสวัสดิการต่อสมาชิกและชุมชน ทีมงานพัฒนากลุ่มจึงมี 14 คณะ จะเห็นว่ามาก แต่ดี ที่บอกว่าดีก็เเพราะว่านี้คือ กระบวนการมีส่วนร่วมที่ชัดเจน ที่จะสร้างความรู้สึกความเป็นเจ้าของให้เกิดขึ้นกับสมาชิกกลุ่ม ตอนต่อไปจะนำเสนอเวทีที่ 2 และ 3 ขอบคุณครับ
ไม่มีความเห็น