- ขอขอบพระคุณ > สัญญาณอันตราย "ไข้เลือดออก" ระบาดหนักเข้าขั้นวิกฤติ โลกร้อน "ยุงลาย"...ร้าย! > ไทยรัฐ. 19 สิงหาคม 2551. หน้า 15.
- ขอขอบพระคุณ > นักวิจัย มช. พบยุงดื้อต่อสารเคมีฆ่าแมลง หวั่นไข้เลือดออกระบาดหนัก > [ Click ] > June 11, 2008.
ยุงลาย ร้ายเพราะโลกมันร้อน
ปีนี้ (2551) เป็นปีแห่งยุงลาย ซึ่งทำสถิติระบาดหนักจนไข้เลือดออกลามไปทั่วเอเชีย แม้ในประเทศภูเขาอย่างภูฎานก็หนีไม่พ้น ส่วนพม่า-ไทย-กัมพูชาไม่ต้องพูดถึง เพราะเสร็จเจ้ายุงลายไปนานแล้ว
|
... ปีนี้ (2551) เป็นปีแห่งยุงลาย ซึ่งทำสถิติระบาดหนักจนไข้เลือดออกลามไปทั่วเอเชีย แม้ในประเทศภูเขาอย่างภูฎานก็หนีไม่พ้น ส่วนพม่า-ไทย-กัมพูชาไม่ต้องพูดถึง เพราะเสร็จเจ้ายุงลายไปนานแล้ว ท่านอาจารย์นายแพทย์เผด็จ ศิริยะเสถียรทำการศึกษาเจ้ายุงลายพบว่า แต่ก่อนนี้มีเชื้อเฉพาะในยุงตัวเมีย ทำให้ยุงต้องกัดคนที่เป็นโรคก่อน จึงจะแพร่เชื้อได้ ... ตอนนี้ยุงลายมามาดใหม่... ตัวผู้เดิมไม่มีเชื้อกลายเป็นมีเชื้อ เลยผสมพันธุ์แบบเบ็ดเสร็จ ให้ทั้งอสุจิไปเกิดเป็นน้องยุง และให้เชื้อไข้เลือดออกพร้อมกันไปด้วยแบบ 'two-in-one' คล้ายๆ แชมพูผสมครีมนวดผมในขวดเดียวกัน ยุงลายตัวเมียเลยแพร่เชื้อได้เร็วขึ้นอีกหลายขุม ... นอกจากนั้นยุงลายตัวผู้ยังเจ้าชู้ใช้ได้... ตัวเดียวผสมตัวเมียได้หลายตัว ทำให้เชื้อแพร่ไปเร็วขึ้น ภาวะโลกร้อนมีส่วนทำให้น้องยุงยุ่งยิ่งขึ้น เนื่องจากเดิมไข่ใช้เวลาฟักตัว 7 วัน ตอนนี้ลดเวลาฟักตัวเหลือ 5 วัน กัดได้เร็วขึ้นและนานขึ้นตัวละ 2 วัน ... ยุงลายส่วนใหญ่ชอบกัดกลางวัน เพราะฉะนั้นการกางมุ้งแต่ตอนกลางคืนคงจะไม่พอ(อีกต่อไป)... กลางวันควรกางมุ้ง หรืออยู่ในห้องมุ้งลวดจึงจะปลอดภัย ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ ...
ที่มา ...
...
...
|
หมายเลขบันทึก: 202111เขียนเมื่อ 19 สิงหาคม 2008 22:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 มิถุนายน 2012 18:54 น. () สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (16)
ขอบคุณคะอาจารย์
ตอนนี้ไข้เลือดออกระบาดหนัก กำลังหาวิที่จะพิชิต ขอใช้ความรู้อาจารย์แนะนำมาไปเพิ่มเติมในมาตรการและตำแนะนำที่จะใช้ต่อไป
ประกาย
กำลังทำเรื่องปัญหาที่กระทบเพราะโลกร้อน ยุงนี่ก็อ่านเจอค่ะ แต่คุณหมออธิบายให้เข้าใจง่ายเลย ขอบพระคุณมากค่ะ ต้องป้องกันสถานเดียว หนูเคยเป็นไข้เลือดออกจนเกือบตายไปแล้ว ส่งรพ.ทันแบบเฉียดฉิว กลัวเลย เป็นตอนหลังจากไปเข้าค่ายลูกเสือ เป็นไข้อยู่สี่ห้าวันแล้วก็ไข้หาย จากนั้นก็เพ้อ ต้องหามส่งรพ. ท้องเสีย อุจจาระดำ ไม่มีแรง เดินไม่ได้ ยืนไม่อยู่ แต่จำไม่ได้ แม่เล่าให้ฟังว่าหมอบอกว่ายังโชคดีที่ส่งมาทัน ช้าอีกหน่อยอาจจะตายได้ เพราะอาการหนักมาก ไม่ต้องทำบัตร แซงคิวผ่านตลอดเพราะจะหงิกแล้ว นั่งในรถเข็นคอพับ หลังจากนั้นก็ไม่รู้สติแล้ว ส่วนตอนรักษานี่แหยงเลยค่ะ ต้องเจาะปลายนิ้วทุกวัน แค่เห็นพยาบาลเดินมาก็เอาผ้าคลุมให้มิดแล้วมุดหนีเข้าไปใต้ผ้าห่ม ตอนนั้นป.6 เอง เป็นช่วงไข้เลือดออกระบาด
มาอ่านและลงชื่อไว้ครับ
น่าคิดนะครับ
ว่าทำไม ตัวผู้ถึงมีเชื้อขึ้นมาได้
ไม่รู้ว่างานวิจัยอธิบายเรื่องนี้ว่าอย่างไร
ผมรู้สึกว่า การที่ตัวผู้มีเชื้อขึ้นมา นี่ไม่เป็นประโยชน์ต่อเผ่าพันธุ์ยุงลายเลย
หรือธรรมชาติกำลังต้องการ "แกล้ง"มนุษย์ กันแน่
สงสัยว่าเราจะไปเบียดเบียนเขามากเกินไป
ขอขอบคุณ... คุณประกาย
- ไข้เลือดออกนี่...
- ขอนแก่นแยะ ลำปางก็แยะเหมือนกันครับ
ขอขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียน
ขอขอบคุณอาจารย์ LittleJazz...
- โอ้โฮ... อาจารย์นี่ดวงแข็ง (อุปถัมภกกรรม) ดีจัง
- ถ้าผมป่วยหนักแบบนี้ และรอดได้... ผมจะหาของไปเซ่นไหว้หมอ พยาบาล และบุคลากรที่ดูแลรักษาใหญ่เลย
คุณแม่...
- คุณแม่ผมก็ได้รับความกรุณาจากทีมงานโรงพยาบาลนครพิงค์ โดยเฉพาะฝ่ายอายุรกรรม, ICU, คลังเลือด, ประชาสัมพันธ์ และห้องโทรศัพท์ดีมากๆ ครับ
- นึกถึงครั้งใดก็ขอขอบพระคุณโรงพยาบาลนครพิงค์มาจนทุกวันนี้
ขอขอบคุณ... คุณกวิน
- ขอขอบคุณมากๆ ที่แวะมาเยี่ยมเยียน
- ทำให้บล็อกมีชีวิตชีวา
บล็อก...
- บล็อกไม่เหมือนกับเว็บไซต์
- เว็บไซต์ไม่จำเป็นต้องอาศัย feedback หรือท่านผู้อ่านเข้ามาเยี่ยมเยียนก็ได้ ขอให้มีกราฟิค สีสันดีๆ มีลูกเล่นมากๆ ก็พอ
- ทว่า... สีสันของบล็อกอยู่ที่ท่านผู้อ่านครับ
ขอขอบคุณอาจารย์ pC...
- ข้อแนะนำของอาจารย์น่าสนใจมากๆ ครับ
- ผมเองก็ไม่ทราบคำตอบ
รู้แต่ว่า...
- อาจารย์ท่านหนึ่งบอกว่า คนไทยเราชอบทำวิจัยประเภท 'what' หรือหาเจ้า "อะไร" เช่น หาข้อมูล ฯลฯ
- ทว่า... คนไทยไม่ค่อยสนใจทำวิจัยประเภท 'why' หรือหาเจ้า "ทำไม" เช่น หาความเชื่อมโยงของปรากฏการณ์ เหตุผลอะไรทำนองนี้
การวิจัย...
- การวิจัยยุคใหม่มุ่งไปหา 'why' มากขึ้น
- เราอาจจะเรียกว่า การวิจัยแบบ 'what' มีลักษณะ 2D หรือ 2 มิติ
- ส่วนการวิจัยแบบ 'why' มีลักษณะ 3D หรือ 3 มิติก็ได้
ข้อคิดของอาจารย์มีคุณค่าสูงมากครับ
ขอบคุณครับ คุณหมอ
ผมกลับเข้ามาอ่านคำตอบของคุณหมอ
ได้ข้อคิดดีครับ
เห็นด้วยครับ เรื่อง "What" และ "Why"
ผลประโยชน์ของคำถามนี้ผมต้องยกให้อาจารย์ที่ปรึกษาผมครับ
ท่านเป็นคนญี่ปุ่น เวลาผมทำอะไรเสนออาจารย์
อาจารย์จะถาม Why แล้ว Why อีก ขึ้นไปอย่างน้อยสามขั้น
บางทีเราก็จนปัญญานะครับ ไม่รู้จะเอาอะไรมากมาย บางเืรื่องมันเป็นเหมือนความเข้าใจพื้นฐานของเรา (common sense) แต่แปลกที่พอถามว่า ทำไมมันจึงเป็นเช่นนั้น เรากลับตอบไม่ได้
อึดอัดกับความไ่ม่รู้ของตัวเองเหมือนกัน
แต่พอเห็นคุณหมอตอบปัญหาผม
ก็ทำให้ผมเห็นตัวเองมากขึ้นว่า ผมเริ่มติดอาจารย์ผมมาแล้ว
กับการถาม Why ไปเรื่อย ๆ นี่
รู้สึกจะมีการศึกษาวิจัยถึงความสัมพันธ์ของโลกร้อน และการเป็นไข้เลือดออกด้วยนะคะคุณหมอ
ขอขอบคุณอาจารย์ pC...
- ครูบาอาจารย์ที่ดีมากต่างจากครูบาอาจารย์ทั่วไปในมิติต่อไปนี้
ตัวอย่าง...
- ครูทั่วไปสอน 'what' > ครูที่ดีมากสอน 'what + why'
- ครูทั่วไปสอน 'dig outside' (บอกองค์ความรู้ภายนอก) > ครูที่ดีมากสอน 'dig outside+inside' (บอกองค์ความรู้ภายนอก + สอนให้เข้าใจตัวเองจากภายใน)
- ครูทั่วไปไม่สอนให้รู้ว่า ลูกศิษย์เก่ง หรือมีศักยภาพตรงไหน > ครูที่ดีมากชี้ให้เห็นถึงศักยภาพ (Be potentiator)
ขอยกความดีให้ครูบาอาจารย์ที่ดี และที่ดีมากครับ...
ขอขอบคุณ... คุณ Tuk-a-toon
- คิดว่า คงจะมีการวิจัยเชื่อมโยงทำนองนี้ครับ
สวัสดีอีกครั้งครับคุณหมอ
เนื่องด้วยเพราะบทความคุณหมอบทความนี้และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่อง การถาม Why และเรื่องครูที่ดีนั้น
ทำให้ผมเกิดแรงใจ เขียนเรื่อง
"เชื่อหรือไม่ น้ำร้อนกลายเป็นน้ำแข็งเร็วกว่าน้ำเย็น"
คุณหมอสามารถติดตามอ่านได้ที่นี่ http://gotoknow.org/blog/mind-pc/203361
ต้องขอขอบคุณคุณหมอมากครับ ที่แลกเปลี่ยนความรู้และชี้นำให้เกิดปัญญา
ขอขอบคุณอาจารย์ pC
- เดี๋ยวจะแวะไปชมครับ...
เข้ามาแวะดู
เลยอยากขอคำแนะนำจากคุณหมอ กำลังคิดหัวข้อวิจัยให้เด็กนักเรียน
เรื่องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิกับการแพร่กระจายของยุงลายบ้านพอดี
เลยอยากขอคำแนะนำ เกี่ยวกับหัวข้อวิจัยว่าเหมาะสมหรือไม่
ขอบคุณค่ะ
ขออภัยครับ...
- ให้คำตอบในเรื่องนี้ไม่ได้ ผมมีปกติไม่ฆ่าสัตว์ครับ
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น