1.
แหล่งความรู้ ความรู้ที่มี
และความรู้ที่ได้
แหล่งความรู้ของกลุ่มมาจาก
2 ส่วนหลัก คือ
-
หน่วยงานราชการในจังหวัด เช่น สำนักงานพัฒนาที่ดิน และสำนักงานเกษตร
ซึ่งแม้จะมีการให้ความรู้อย่างเป็นแบบแผน (ทฤษฎี)
และสนับสนุนให้เกิดการปฎิบัติ
-
ความรู้จากการปฎิบัติ
“ความรู้ถ้ามันอยู่แค่ในตำราก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ความรู้ที่แท้อยู่ในแปลงที่เราทำนี่แหละ” ผู้ใหญ่
เทียมกล่าว
และว่ากลุ่มเน้นการทำจริงใช้แปลงทดลองเป็นเวทีการเรียนรู้ร่วมกัน
ทำให้รู้ว่าใครมี “ความรู้”อะไรดี ๆ อยู่ในตัว เราจึงได้
ครูผักหรืออาจารย์ผักชนิดต่าง ๆ ไม่ต้องไปวิ่งหาที่ไหน ที่แท้อยู่ใกล้
ๆ นี่เอง แต่ก่อนเราไม่ค่อยได้คุยกัน ต่างคนต่างทำ
จึงไม่รู้ว่าใครมีความรู้อะไร เช่น อาจารย์ข้าวโพด
อาจารย์หน่อไม้ฝรั่ง อาจารย์คะน้า อาจารย์ถั่ว
เป็นต้น
พี่อ้อย เกษตรตำบล
ที่ติดตามและเป็นพี่เลี้ยงให้กับโรงเรียนเกษตรกรแห่งนี้มาต่อเนื่อง
กล่าวว่า การ
รวมกลุ่มของโรงเรียนเกษตรกรเกิดจากสมาชิกที่เต็มใจมาเข้าร่วม
จะทำการเรียนทฤษฎี 4 ครั้ง และปฏิบัติ 4 ครั้ง
และคอยให้คำแนะนำขั้นตอนต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งการจัดการผลผลิต ปัญหาการตลาด
ดังนั้นการจะเลือกปลูกพืชชนิดใดจึงมองเรื่องการตลาดด้วย
ซึ่งพืชหลักที่มองว่ายังเป็นตลาดที่ดีโดยเฉพาะตลาดในพื้นที่ก็คือถั่วฝักยาว
ปัจจุบันตลาดได้ขยายออกไปถึงการส่งออก
โดยมีกลุ่มพ่อค้าตัวแทนติดต่อซื้อผักเกษตรอินทรีย์ของกลุ่มบ้างแล้ว
โดยมีการตรวจสอบเรื่องการปลอดสารด้วย
2.
กระบวนการกลุ่ม การทดลอง เรียนรู้ และ
จัดการความรู้
กระบวนการกลุ่มทำให้ค้นพบอาจารย์ผักนานาชนิดจากกิจกรรมกลุ่มที่ทำร่วมกัน
“ที่รู้ว่าใครเชี่ยวชาญ หรือ รู้จริงเรื่องอะไร
ก็เพราะว่าเวลามาทำแปลงร่วมกันซึ่งเรามีแผนว่าในแต่ละช่วงจะปลูกอะไร
เมื่อลงมือทำ
หากทำไม่ถูกคนที่รู้จริงเขาก็จะพูดโวยวายหรือแสดงความรู้ของตัวเองออกมา”
กระบวนการกลุ่มทำให้คนที่รู้จริงกล้าแสดงออก เมื่อผ่านการทดลอง
แล้วจึงยอมรับนับถือกันเป็นอาจารย์ไปเลย
และไม่ใช่แค่การยอมรับกันเฉพาะภายในกลุ่มสมาชิกโรงเรียนเกษตรกร
แต่ยังได้สร้างการยอมรับในตัวสมาชิกในครอบครัวอีกด้วย
“เมื่อก่อนคนที่มาทำแบบนี้ถูกหาว่า “บ้า”
มาทำอะไรเสียเวลาจะได้ผลหรือเปล่าก็ไม่รู้ ในบ้าน
ทะเลาะกันเป็นประจำ แต่เดี๋ยวนี้ในครอบครัวก็ยอมรับ
แฟนก็มาร่วมเป็นสมาชิกด้วยแล้ว” นายฉัตร
หนึ่งในสมาชิกและประธานกลุ่มย่อย กล่าว
และว่าพอมาทำกลุ่มแล้วรู้สึกเสพติดถึงเวลานัดหมายก็อยากมา มาก่อนด้วย
อยากมาเจอเพื่อน ได้มาคุย มาแลกเปลี่ยนความรู้กัน
เมื่อก่อนขับรถผ่านยังไม่คุยกัน
แต่เดี๋ยวนี้เห็นกันก็ทักทายอยากพูดคุยสอบถามกันในเรื่องต่าง ๆ
เราจึงได้ความสัมพันธ์ความสามัคคีของคนในชุมชนคืนมาอีกครั้ง
“เราไม่กลัวว่าจะมีความรู้ไม่พอ
เราเชื่อว่าสามารถหาความรู้ได้ตลอดจากการทดลองทำและจากที่นักวิชาการมาแนะนำให้
คนที่เข้ามาร่วมก็เพราะเห็นว่าทำได้จริง ทำแล้วมันดี
อย่างคนเฒ่าคนแก่ซึ่งถือว่ามีความรู้อยู่ในตัวมากผมก็อยากให้เขามาร่วมมาถ่ายทอดความรู้ให้
ก็ชวนเขามาดูและบอกว่า
อย่าปล่อยให้ความรู้มันหายไปกับกระบุงตะกร้าเลย”
ผู้ใหญ่เทียมกล่าว
และเราก็ไม่แปลกใจที่ในกลุ่มสมาชิกโรงเรียนเกษตรกรที่นี่จะมีกลุ่มของผู้สูงอายุ
( 70-82 ปี) มาร่วมกิจกรรมอย่างแข็งขัน
และถือเป็นตำราบุคคลที่สำคัญของกลุ่ม
และเพื่อไม่ให้ความรู้ที่ได้ละเหยไปมาอยู่ในตัวคนที่มาบอกกล่าวกัน
การเรียนรู้ของโรงเรียนเกษตรกรจึงมีการบันทึกเป็นหลักฐานไว้
แต่อยู่ในลักษณะไม่เป็นทางการ
เป็นการบันทึกส่วนตัวไม่ใช่สมาชิกทุกคน
ส่วนใหญ่ชอบที่จะลงมือทำและพูดคุยกันมากกว่า
เพราะเมื่อเข้าใจก็จำได้
งานที่แบ่งกันทำตามสมัครใจ |
เวทีเรียนรู้ข้างแปลง |
คุณอ้อย เกษตรตำบล พี่เลี้ยงที่ยังคงตามติด |
ไม่มีความเห็น