ระยะนี้จะได้รับคำขอปรึกษาเรื่อง ตื่นกลางดึก นอนต่อไม่หลับ ค่อนข้างจะบ่อย
ส่วนมากคนที่ถามมักจะเป็นผู้หญิงค่ะ ก็เพราะทำงานในสายสุขภาพสตรี
แต่ก็คิดว่า เรื่องตื่นกลางดึก คงไม่ได้เกิดกับผู้หญิงเท่านั้น (มั้ง)
ยิ่งในระยะนี้อากาศร้อน หลายๆคนก็อาจจะตื่นเพราะเหงื่อท่วมตัว เหนียวตัว แต่หลายๆคนก็มีปัญหาว่า ตื่นเอง แล้วก็มักจะเป็นช่วงตีสี่ ที่จะนอนต่อก็จะเพลินไปทำงานไม่ทัน จะลุกก็รู้สึกว่ายังนอนไม่อิ่ม
การตื่นกลางดึกมีผลเสียกับสุขภาพเป็นที่ทราบกันอยู่
แต่ก็มีคนจำนวนมากที่ต้องเผชิญกับภาวะนี้จนต้องอาศัยยานอนหลับซึ่งไม่เป็นผลดีกับสุขภาพแน่นอน
ความจริงสาเหตุการตื่นกลางดึกมีมากมาย ตั้งแต่ภาวะของโรค เช่นการเป็นหอบหืด โรคหัวใจ การมีความผิดปกติในการหายใจ ฯลฯ
แต่ที่ค้นข้อมูลมาในผู้หญิงวัยกลางคนที่อายุสี่สิบปีขึ้นไปแล้ว การตื่นกลางดึกมักจะสัมพันธ์กับภาวะฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย โดยที่มักจะเกิดเพราะเมตาบอริซึม ทำให้เกิดอาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออก และตื่นขึ้นมาเหงื่อท่วมตัว
งานวิจัยจำนวนมาก บอกว่า อาการดังกล่าวจะเพิ่มรุนแรงเมื่อมีความเครียดร่วมด้วย
ก็สำหรับท่านที่เป็นผู้หญิงเมื่อพอจะทราบว่าตัวเองเริ่มเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน เรื่องการตื่นกลางดึก ก็อาจจะป้องกันได้อยู่ค่ะ
จากผลที่เคยไปสัมภาษณ์คนทำงานในตำแหน่งบริหารที่ไม่มีปัญหาตื่นกลางดึกทั้งๆที่เข้าสู่วัยทองแล้ว ก็พบว่า เธอเหล่านั้นมีวิธีปฏิบัติดังนี้ค่ะ
ออกกำลังกายทุกวัน อย่างไม่ได้ก็ให้ได้เดินหรือบริหารร่างกายวันละ 10-20 นาที
สวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน หลายคนท่องคาถาชินบัญชร หลายคนนั่งสมาธิก่อนนอน
มื้อเย็นรับประทานผลไม้แทนการรับประทานอาหารหนักๆ
เตรียมสิ่งที่ต้องทำของวันพรุ่ง เช่นชุดที่จะสวม เอกสารที่ต้องใช้ และบันทึกสิ่งที่จะทำให้เรียบร้อยก่อนเข้านอน
เข้านอนก่อนเที่ยงคืน
จะเห็นนะคะว่า การปฏิบัติก็ไม่ได้ใช้ยานอนหลับและไม่ได้ยากจนเกินไปแลดูแล้วก็เป็นการปฏิบัติเพื่อสุขภาพที่ดีด้วย
หวังว่า ไม่มีใครที่ต้องตื่นกลางดึกตีสามตีสี่ กำลังอ่านบันทึกนี้อยู่นะคะ :-)
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย จันทรรัตน์ เจริญสันติ ใน women's health
นอกจากอิทธิพลของ hormone ที่เชื่อกันว่ามีผลต่อการตื่นกลางดึกแล้ว ในทางจิตเวช การตื่นกลางดึก หรือ การนอนที่ผิดไปจากเดิมยัง เป็นลางบอกเหตุของความเจ็บป่วยทางจิตเวชได้มากมายด้วยเช่นกัน
เช่น โรควิตกกังวล มักมาด้วย ตื่นกลางดึก หลับยาก ฝันร้าย
โรคซึมเศร้า มาด้วย นอนไม่หลับ หลับได้เล็กน้อยก็ตื่น แล้วไม่หลับอีก หรือ หลับๆตื่นๆ
โรคอารมณ์แปรปรวนมาด้วย นอนน้อยก็สดชื่น ต่นเช้ากว่าปกติโดยไม่อ่อนเพลีย
หรือโรคจิตมาด้วย ไม่ยอมนอน เดินไปมา พูดคนเดียว
จะเห็นได้ว่า การนอนที่เปลี่ยนไปอาจหมายถึงการเปลี่ยนชีวิตเลยก็ได้นะคะ