เมื่อคืนจำวัดใกล้ีสี่นาฬิกาแล้ว ตื่นมาด้วยเสียงปลุกจากโทรทัศน์ตามเวลา 05.50 น. ซึ่งปกติผู้เขียนจะตั้งเวลาเปิดโทรทัศน์เป็นนาฬิกาปลุกไปด้วย... ก็ตื่นมาล้างหน้าออกบิณฑบาตประมาณหกโมงเช้า...
เดินผ่านหน้าร้านโจ๊ก ก็มีเด็กหนุ่มเดินออกมาจากร้านพลางร้องเรียก พระอาจารย์ ! เงยหน้าขึ้นมองก็รู้สึกคุ้นหน้า คล้ายกับลูกศิษย์ที่เป็นเณรที่เคยสอนเมื่อสิบกว่าปีก่อน แต่ก็จำรายละเอียดไม่ได้... เค้าดึงกระเป๋าตังออกมาแล้วล้วงตังใบแดงมาหนึ่งใบ ผู้เขียนก็ยื่นย่ามให้ เค้าก็ใส่ลงในย่าม... ถามว่า ได้เมียยัง ? เค้าก็บอกว่า ยังไม่ได้.... (ปกติเวลาบิณฑบาตไม่เจอเหตุการณ์ทำนองนี้)
โดยปกติ... เมื่อกลับจากบิณฑบาต ผู้เขียนก็จะฉันข้าว ล้างบาตรล้างจาน แล้วก็ปิดประตูด้านนอก เข้าห้องปิดประตูด้านใน เปิดเน็ตหรือเปิดโทรทัศน์ดูข่าวนิดหน่อย... สักพักหนึ่งรู้สึกง่วงก็จะจำวัด (นอน) ไปตื่นหรือลุกขึ้นอีกครั้งก็ได้เวลาเพล จะฉันกาแฟกับขนมนิดหน่อยทีเหลือจากตอนเช้า หรือวันไหนตั้งใจไม่ฉันก็อาจนอนผ่านเพลไปเลย... แต่เช้าวันนี้ ไฟฟ้าดับ จึงเปิดเน็ตหรือเปิดโทรทัศน์ก็ไม่ได้ จึงล้มตัวลงนอนเลย แต่ก็ยังไม่รู้สึกง่วง เริ่มรู้สึกว่าผิดปกติจากความเป็นไปตอนเช้าของทุกๆ วัน... ก็นอนท่องบทขัดเล่นๆ พลางก็นึกว่าจะข่มตาหลับหรือจะทำอะไรดี ก็นอนคิดอะไรไปเรื่อยๆ ทำท่าเคลิ้ม...
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ทำให้ต้องลุกจากเตียงเพราะโทรศัพท์เสียบสายอยู่่่ไกล... ดูเบอร์เข้า ไม่มีชื่อ แต่จำเลขสามตัวสุดท้ายได้ 191 เพราะเช้าวันก่อนโทรมาแล้ว... พอกดรับ ทางโน้นก็กดยกเลิก จึงโทรกลับไป มีเสียงเทศน์รอสายเลียนแบบเสียงพระอาจารย์พยอมว่า... โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ไม่โกรธดีกว่า จะได้ไม่บ้าไม่โง่ ไม่โกรธยามเช้า ไม่...... (จำได้ไม่หมด แต่เริ่มต้นทำนองนี้แหละ เวียนกลับไปกลับมา) ก็รู้สึกเคืองๆ ปนขำๆ นิดหน่อย สงสัยว่า ใครหนา ! โทรมาล้ออีกแล้ว...
เบอร์เลขท้าย 191 นี้ ผู้เขียนจำไม่ได้ว่าเบอร์ใคร แต่รู้ว่าเป็นเบอร์ใครที่คุ้นเคยคนหนึ่ง เพราะวันก่อนไปงานไหนแล้วก็จำไม่ได้ เค้าบอกว่าโทรมาหลายครั้งแล้ว และบอกว่าเลขท้าย 191 เมื่อตรวจสอบก็เจอ แล้วเค้าก็บอกว่าเบอร์นี้แหละ แต่ผู้เขียนก็ไม่ได้จารึกชื่อไว้ว่าของใคร ยุ่งๆ ก็ลืม... เช้าเมื่อ ๒-๓ วันก่อน เบอร์นี้โทรมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งก็เหมือนกับวันนี้ กล่าวคือ พอกดรับ เค้าก็กดวางสาย เมื่อโทรกลับไปก็ได้ยินเสียงเทศน์รอสายว่า โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า.... แต่วันก่อนนั้น ผู้เขียนไม่รู้สึกว่าพวกจะโทรมาล้อตอนเช้า...
กลับมานอนอีก แต่ประสาทตื่นเสียแล้ว เพราะรู้สึกเคืองๆ ขำๆ จากเสียงเทศน์รอสาย... จึงลุกขึ้นเปิดประตูห้องออกมา จะทำอะไรดี ? ถามใจตัวเอง... อันที่จริงสิ่งที่จะทำก็มีมากมาย เช่น จัดหนังสือ กวาดห้อง เก็บจีวรไปแช่... แต่ผู้เขียนขี้เกียจ จึงหยิบกระป๋องใส่ยาเส้นและใบจากที่ยังไม่ได้ลอกอีกหนึ่งใบ เดินไปยังกุฏิด้านหน้าวัด ไปเล่นหมากรุกกระดานหนึ่งพร้อมลอกใบจากไปด้วย... ซึ่งกุฏิด้านหน้าวัดนั้น ปกติผู้เขียนจะไปตอนบ่าย ในวันที่อากาศร้อนจัดๆ โดยพาใบจากไปนั่งลอกและหัดหมากรุกให้พระใหม่ หลบร้อนอยู่ที่นั้น... แต่วันนี้ ไปตอนเช้า จึงเป็นเรื่องไม่ปกติเช่นกัน...
เล่นหมากรุกได้กระดานหนึ่ง พอดีไฟฟ้าติดขึ้นมา จึงเดินกลับมาเปิดเน็ต เขียนอนุทินบ่นเรื่องนี้ แต่บ่นไปได้ไม่กิ่บรรทัด เห็นว่าเรื่องค่อนข้างยาว.... นโยบายผู้บริหาร GoToKnow ว่าเรื่องยาวๆ ให้ไปเขียนในบันทึก ผู้เขียนทำตามนโยบาย จึงคัดลอกจากอนุทินแล้วก็นำมาบ่นต่อที่นี้ โดยใช้ชื่อเรื่องว่า...
บทขัด คือ บทส่วดมนต์ที่เป็นคำนำของบทสวดมนต์ต่างๆ นั่นเอง... งานทั่วๆ ไปมักไม่ใช้บทขัด แต่ถ้างานใหญ่ๆ หรืองานสำคัญๆ ก็อาจใช้บทขัด... ตอนนี้ หลวงพี่เพิ่งทบทวนบทขัดธรรมนิยามสูตร และบทขัดธรรมจักกัปปวัตตนสูตร... ว่างๆ ก็ท่องเล่น (พระร้องเพลงไม่ได้ เซ็งๆ เบื่อๆ ก็ท่องสวดมนต์เล่นๆ )
จะนำเรื่องบทขัดไปเล่าในบล็อกเล่าเรื่องพิธีกรรมอีกครั้ง... อาจารย์ค่อยติดตามก็แล้วกัน...
เจริญพร
นมัสการพระคุณเจ้า
/ใด้ปัญญาเรื่องบทขัดมาอีกเรื่อง
ว่าแต่ว่าไม่ลำบากใจ เรื่องใบจากมั้งหรือคับ
/มีนิทานเรื่อง ลอกใบจาก แต่มิอาจนำมาถวาย
/ เขาแบ่งนักดูดยาใว้ 3 ประเภท
/ 1 ประเภท ก มีครบทั้งใบจาก ยาเส้น ไม้ขีด (ไฟเช็ค)
/ 2 ประเภค ค มีอย่างหนึ่งอย่างได เช่น มีใบจาก หรือมีไม้ขีด
/ 3 ประเภค ข แบบว่า ขอใบจากท่อน ยาหีด ไม้ขีดกัน ฮ่าฮ่า ฮ่า///
สำนวนนิยม ท้ายปิด นั้น เค้าจะแหลงตอนที่ใครบางคนกำลังลอกใบจากว่า...
ส่วนการจัดประเภทนักดูดนั้น อาจขยายได้ถึง 5 ประเภท กล่าวคื
เจริญพร
ปกติ บ่ได้ ผิดจริง
ธรรมดา เป็นไป ใช่แกล้ง
แปรเปลี่ยน เป็นเพียงให้ วงเวียน เปลี่ยนกรรม
ขัดเคือง เรื่องของมาร ยั่วเย้า เฝ้าตรอง
กราบ 3 หน
ปกติกันอยู่แล้ว วันวัน
เงินอัฐทำบุญกัน ใส่ไถ้
ยืนเดินนั่งนอนฉัน เวียนอยู่
ปกติแม้พระไซร้ บ่นได้เป็นธรรม
แต่โยมคุณหมอมาช้าไป อารมณ์ที่เขียนตามบันทึกนี้ อาตมาลืมไปแล้ว...
อันที่จริง ความหงุดหงิด จัดเป็นโทสเจตสิกระดับอ่อนๆ ภาษาในวัดน่าจะใช้ว่า ปฏิฆะ หมายถึง ความที่จิตกระทบกระทั้งต่ออารมณ์ ... โทสเจตสิก นี้ ถ้าระดับแก่กล้ายิ่งขึ้นก็จะเป็นความโกรธ...
เจริญพร