สุขภาพดีไม่มีขาย..อยากได้ต้องอ่าน..จ้ะ


• ตื่นนอน ชาร์จแบตให้จิตใจ ปลุกร่างกายให้กระปรี้กระเปร่า

สุขภาพดีไม่มีขาย..อยากได้ต้องอ่าน..จ้ะ  เริ่มวันใหม่อย่างสดใส


ตื่นนอน : เริ่มวินาทีแรกของวันใหม่โดยไม่อาศัยเสียงนาฬิกาปลุกที่ดังเสียดประสาท ซึ่งทำได้ด้วยการกำหนดเวลาตื่นนอนอย่างตั้งใจตั้งแต่ก่อนนอน หรือสังเกตว่าร่างกายต้องการพักผ่อนวันละกี่ชั่วโมง แล้วคำนวณเวลาเข้านอนให้ได้พอดีกับเวลาที่ต้องการตื่น แต่ถ้ายังต้องพี่งพานาฬิกาปลุก ขอให้ปลุกเป็นเสียงนกร้อง หรือเสียงเพลงจะดีกว่า
ชาร์จแบตให้จิตใจ : ด้วยการยิ้มให้กับตัวเอง ให้กับธรรมชาติยามเช้านอกหน้าต่าง อาจเปิดเพลงเบาๆ ไปด้วยก่อนเปลี่ยนไปฟังข่าวสารยามเช้า
ปลุกร่างกายให้กระปรี้กระเปร่า : แม้ว่าช่วงเช้าจะเป็นเวลาแห่งการรีบเร่ง คุณก็ยังสามารถออกกำลังกายเบาๆ ได้ เพียงใช้เวลาแค่ 10-15 นาที ระหว่างการฟังข่าว ยืดเส้นรำกระบอง เหวี่ยงแขน หรือทำโยคะท่าง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องให้เหงื่อออก แต่ถ้าพอมีเวลาก็ให้ออกกำลังให้เต็มที่ เพราะอากาศยามเช้านี่แหละดีที่สุด
อาบน้ำ : ไม่ควรพลาดการอาบน้ำในยามเช้า เพราะน้ำจะช่วยให้ทุกเซลล์ตื่นขึ้นอย่างสดชื่น มีเทคนิคการอาบด้วยการเปิดฝักบัวแรงๆ ให้น้ำตกลงบริเวณไหล่ ไหปลาร้า และต้นคอไปจนถึงกลางหลัง นอกจากนี้การอาบน้ำในช่วงเช้าเป็นเวลาที่เหมาะกับการสระผมมากที่สุด น้ำจากฝักบัวจะช่วยนวดศีรษะ ทำให้สมองปลอดโปร่งขึ้นด้วย
อาหารเช้า : ช่วยปลุกให้ระบบการเผาผลาญพลังงานตื่นขึ้น ทำให้การทำงานในช่วงเช้ามีสมาธิและทำได้เต็มที่ และเป็นแหล่งพลังงานของร่างกายตลอดทั้งวัน สำหรับบางคน ข้าวอาจเป็นอาหารเช้าที่หนักไป ในขณะที่กาแฟถ้วยเดียวนั้นไม่ถือเป็นอาหารเช้า ลองเมนูเบาๆ อย่างน้ำเต้าหู้กับแครกเกอร์โฮลวีท หรือซาลาเปาสักลูกกับน้ำผลไม้ดูสิคะ

เติมพลังกับการทำงาน
เริ่มการทำงานด้วยการจัดโต๊ะให้โล่งสะอาด เพื่อความสบายตาสบายใจ ถ้าคนที่ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ ควรพักสายตาทุก 20 นาที ด้วยการทอดสายตาไปไกลๆ เพื่อคลายกล้ามเนื้อตา และเพิ่มการใช้พลังงานหรือให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวบ้าง ด้วยการใช้วิธีการขึ้นบันไดแทนลิฟท์ หรือเดินไปหาเพื่อนแทนการโทรศัพท์
พักครี่งระหว่างวัน : กินอาหารกลางวันให้ตรงเวลา เพื่อช่วยเติมพลังงานให้กับการทำงานในช่วงบ่าย หลังกินข้าวเสร็จ เดินเล่นช้าๆ สักพักก่อนกลับเข้ามานั่งโต๊ะทำงานต่อ
ทำงานให้สบายยามบ่าย : ถ้ารู้สึกหิวในช่วงบ่ายๆ ควรกินของว่างเล็กน้อย เช่น คุกกี้ ขนมปัง กับเครื่องดื่ม ซึ่งควรเป็นชาสมุนไพร หรือน้ำผลไม้ จะดีกว่าการดื่มกาแฟ สำหรับคนที่ง่วงมากจนทนไม่ไหว การได้งีบสัก 15 นาที จะทำให้สดใสขึ้น ส่วนคนที่นั่งทำงาน ช่วงนี้อาจรู้สึกเมื่อย ควรลุกขึ้นเดินบ้างเพื่อให้เลือดและของเหลวในร่างกายเคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น

เติมพลังหลังเลิกงาน
ปิดสวิตช์ความคิดเรื่องงาน : รวมถึงปัญหาต่างๆ จงทิ้งไว้บนโต๊ะ อย่าพกงานกลับไปทำต่อที่บ้านถ้าไม่จำเป็น และแทนที่จะกลับบ้านทันทีแล้วไปผจญกับรถติด ลองเปลี่ยนเส้นทางไปหาสถานที่ออกกำลังกายใกล้ๆ ออฟฟิศ เพราะการออกกำลังกายสัก 1-2 ชั่วโมงในช่วงเย็น นอกจากจะช่วยฟิตร่างกายแล้ว ยังช่วยคลายความเครียดที่สะสมมาตลอดทั้งวันด้วย
กลับถึงบ้าน : ถ้ายังรู้สึกไม่ผ่อนคลายเต็มที่ ให้เอาเท้าแช่น้ำอุ่นสักครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้นอาจเอนหลังหลับตา ฟังเพลงเบา ๆ ก็จะช่วยให้สบายขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
อาหารเย็นควรเป็นอาหารเบา ๆ : เช่น สลัด ผักจิ้มน้ำพริก ผลไม้ หรืออาหารที่ย่อยง่าย ไม่ควรกินก่อนนอน 3 ชั่วโมง เพราะจะทำให้หลับไม่สนิทและน้ำหนักเพิ่มได้ง่าย

พักผ่อนนอนให้สบาย
ก่อนเข้านอน จุดตะเกียงน้ำมันหอม เปิดเพลงจังหวะสบายๆ เบาๆ ระหว่างนั้นก็ทาครีมบำรุงผิว หวีผมเพื่อนวดศีรษะและดูแลเส้นผม ถ้านอนไม่หลับให้ทำสมาธิ สวนมนต์ หรือดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆ เช่น ชาคาโมมายส์
สุดท้าย ทำที่นอนให้สะอาดและเปิดหน้าต่างให้ถ่ายเทสะดวก
สำหรับคนที่นอนในห้องปรับอากาศ ควรวางน้ำหนึ่งแก้วไว้กลางห้องเพื่อให้อากาศมีความชุ่มชื้นเพียงพอ เครื่องปรับอากาศก็จะไม่ดูดความชื้นจากผิวพรรณของคุณ

ถ้าคุณสังเกตและตั้งใจ เคล็ดลับดีๆ อย่างนี้ทำได้ไม่ยากเลย แล้วสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจก็จะเป็นของคุณ เย..เย..

หมายเลขบันทึก: 192528เขียนเมื่อ 6 กรกฎาคม 2008 19:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:54 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เป็นสุดยอดของกิจวัตรประจำวัน  น่าพยายามที่จะทำให้ได้ ขอบคุณ

ขอขอบคุณ คุณประจักษ์ที่กรุณามาเยี่ยมและให้กำลังใจ ขอให้สุขภาพแข็งแรงเช่นกันนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท