การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน
เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เริ่มต้นจากปัญหาที่เกิดขึ้นโดยการสร้างความรู้จากกระบวนการทำงานกลุ่ม เพื่อแก้ปัญหาหรือสถานการณ์เกี่ยวกับชีวิตประจำวันที่มีความสำคัญต่อผู้เรียน มุ่งพัฒนาผู้เรียนในด้านทักษะและกระบวนการเรียนรู้ สามารถเรียนรู้โดยการชี้นำตนเอง สร้างองค์ความรู้ โดยผ่านกระบวนการคิดด้วยการแก้ปัญหา
สิ่งสำคัญในการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน คือ ปัญหา เพราะปัญหาที่ดีจะเป็นสิ่งกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจใฝ่หาความรู้ ในการเลือกศึกษาปัญหาที่มีประสิทธิภาพ จะต้องคำนึงถึงพื้นฐานความรู้ ความสามารถของผู้ของผู้เรียน ประสบการณ์ความสนใจ และภูมิหลังเพราะคนเรามีแนวโน้มที่ สนใจเรื่องใกล้ตัวมากกว่าเรื่องไกลตัว สนใจสิ่งที่มีความหมาย มีความสำคัญต่อตนเองและเป็นเรื่องที่ตนเองใคร่รู้
แนวทางการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปํญหา
1. พิจารณาหลักสูตรของสถานศึกษา โดยดูจากผลการเรียนรู้ที่คาดหวังให้เหมาะกับวิธีการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ทั้งด้านทักษะและกระบวนการ เช่น ให้ผู้เรียนเกิดทักษะกระบวนการค้นหาและแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
2. กำหนดแหล่งข้อมูล เพื่อให้ผู้เรียนนำมาแก้ปัญหา หรือค้นหาคำตอบได้ ได้แก่ ตัวผู้สอน ห้องสมุด อินเทอร์เน็ต วีดิทัศน์ บุคลากรต่างๆ และแหล่งเรียนรู้ทั้งในและนอกโรงเรียน
3. กำหนดและเขียนขอบข่ายของปัญหาที่เป็นตัวกระตุ้นให้ผู้เรียน ต้องการศึกษา ค้นหาคำตอบ
4. กำหนดกิจกรรมการจัดกระบวนการเรียนรู้ ที่ทำให้ผู้เรียนสามารถเห็นแนวทางในการค้นพบความรู้ หรือคำตอบได้ด้วยตนเอง
5. สร้างคำถาม ที่มีลักษระกระตุ้นให้ผู้เรียนสนใจงานที่กำลังทำอยู่และมองเห็นทิศทางในการทำงานต่อไป
6. กำหนดวิธีการและประเมินผล ตามสภาพจริง ประเมินทั้งทางด้านเนื้อหา ทักษะกระบวนการ และการทำงานกลุ่ม
ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้
ขั้นที่ 1 กำหนดปัญหา จัดสถานการณ์ต่างๆกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ และมองเห็นปัญหา สามารถกำหนดสิ่งที่เป็นปัญหาที่ผู้เรียนอยากรู้ อยากเรียนเกิดคามสนใจที่จะค้นหาคำตอบ
เช่น วิชาวิทยาศาสตร์ (ชีววิทยา) ม.2 เรื่องจุลินทรีย์
- แบ่งผู้เรียนเป็นกล่ม ทุกคนศึกษาและพิจารณาภาพจากแผ่นโปร่งใส 2 ภาพ
ภาพที่ 1 เป็นภาพขนมปังปกติ ภาพที่ 2 เป็นภาพขนมปังมีราขึ้น
-แล้วตั้งคำถามให้ผู้เรียนหาคำตอบว่า "การทำขนมปังต้องใช้ส่วนผสมอะไรบ้าง" และ "บนขนมปังภาพที่ 1 กับภาพที่ 2 มีอะไรที่แตกต่างกัน"
-ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันคิดวิเคราะห์ อภิปรายและนำเสนอว่า ขนมปังทั้ง 2 ภาพ มีจุลินทรีย์เจือปนอยู่หรือไม่ ถ้ามีคือจุลินทรีย์ประเภทใดบ้าง
-ผู้สอนและผู้เรียนประเมินผลการกำหนดปัญหา
ขั้นที่ 2 ทำความเข้าใจกับปัญหา ปัญหาที่ต้องการเรียนรู้ ต้องสามารถอธิบายสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับปัญหาได้ เช่น
-ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันคิด อภิปรายเกี่ยวกับจุลินทรีย์ในประเด็นต่างๆ และส่งตัวแทนกลุ่มออกมาเขียน แผนผังมโนทัศน์แสดงประเด็นหรือหัวข้อต่างๆเกี่ยวกับจุลินทรีย์ตามข้อเสนอของกลุ่ม
- ผู้เรียนร่วมกันพิจารณาและอภิปรายแผนผังมโนทัศน์ที่นำเสนอ มีประเด็นหรือหัวข้ออะไรบ้างที่ต้องการศึกษาค้นคว้า และจัดลำดับหมวดหมู่ถูกต้อง เหมาะสมหรือไม่ เช่น ความหมายของจุลินทรีย์ ประเภทของจุลินทรีย์ ประโยชน์และโทษของจุลินทรีย์
ขั้นที่ 3 ดำเนินการศึกษาค้นคว้า ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองด้วยวิธีการหลากหลาย
ขั้นที่ 4 สังเคราะห์ความรู้ ผู้เรียนนำความรู้ที่ได้ค้นคว้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
ขั้นที่ 5 สรุปและประเมินค่าหาคำตอบ ผู้เรียนแต่ละกลุ่ม สรุปผลงานของกลุ่มตนเอง และประเมินผลงานว่าข้อมูลที่ศึกษาค้นคว้ามีความเหมาะสม หรือไม่เพียงใด โดยพยายามตรวจสอบแนวคิดภายในกลุ่มของตนเองอย่างอิสระ ทุกกลุ่มช่วยกันสรุปองค์ความรู้ ในภาพรวมของปัญหาอีกครั้ง
ขั้นที่ 6 นำเสนอและประเมินผลงาน ผู้เรียนนำข้อมูลที่ได้มาจัดระบบองค์ความรู้ และนำเสนอเป็นผลงานในรูปแบบที่หลากหลาย ผู้เรียนทุกกลุ่ม ทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาร่วมกันประเมินผลงาน
ตัวอย่างที่ยกมา เหมือนของ สมศ ถ้าจะให้ดี ระบุแหล่งที่มาของเนื้อหาจะดีมากครับ
ขอบคุณ คุณหนุ่มและคุณประจักษ์มากค่ะที่เข้ามาอ่าน
ที่มา เรียบเรียงมาจาก แนวทางการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ "การจัดการเรียนเรียน"ของสมศ.2550.
หรือเข้าไปดูทั้งหมดได้ที่
Web site:http//www.onec.go.th
ช่วงปิดภาคเรียนอาจจะนำบทความทางวิชาการเกี่ยวกับ
การจัดการเรียนรู้ที่ใช้ปัญหาเป็นฐาน ที่ได้ไปศึกษาทบทวนเอกสาร ไว้มาเผยแพร่
กับเรื่องการใช้สมองเป็นฐาน ที่กำลังเป็นที่นิยม