จุด.จุด.จุด. ด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ 2


เริ่มต้นจากหน่วยเล็กๆ....แล้วขยายต่อไปทั้งองค์กร

วันที่สองของการประชุม

ก็เริ่มต้นด้วยการทำสมาธิ สะกดลมหายใจเข้าออก (บรรยากาศของห้องประชุมนั้นก็จัดเก้าอี้เป็นตัวยู แอร์เย็นมากคล้ายเดิมตามสไตล์ห้องประชุมในรร.ใหญ่ๆทั่วไป) แล้ว ให้แบ่งกลุ่มเล็กๆ กลุ่มละ 4คน โดยนั่งหันหน้าเข้าหากัน หัวเข่าชนกันเลย แล้วก็ให้ทุกคนเล่าเรื่องที่ประทับใจในการให้การดูแลผู้ป่วยด้วยความรัก กติกาก็คือ คนที่เริ่มพูดต้องยกมือ  ผู้ฟังต้องตั้งใจฟัง เมื่อจบต้องบอกว่าจบ ในกลุ่มของเราก็มีการเล่าถึงการทำมรณสติ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับญาติของผู้เล่า ซึ่งเนื้อหาค่อนข้างสะเทือนอารมณ์ หลังจากนั้นก็มีการย้ายกลุ่ม แล้วก็มาแลกเปลี่ยนกันว่าสิ่งที่เราได้ฟังมานั้นสรุปได้อะไรบ้าง

  • การดูแลผู้ป่วยนั้นก็ต้องปฎิบัติตามมาตรฐาน แต่อาจจะไม่ได้ในครั้งแรก (อ้างอิงจากเรื่อง โอพีดีเบาหวาน ผู้ป่วยคุมน้ำตาลไม่ได้เลย มีข้อบ่งชี้ที่จะต้องให้ ยาฉีดอินซูลิน แต่ผู้ป่วยไม่ยอมท่าเดียว บอกว่าคนแถวบ้านเคยฉีดยานี้แล้วเสียชีวิต แกก็เลยกลัว เมื่อบอกหลายครั้งแล้วไม่ยอมใช้ยาฉีด แพทย์ก็เลยบอกว่าวันหลังก็ไม่ต้องให้ตรวจแล้วเพราะดื้อมากๆ สุดท้ายพยาบาลผู้ดูแลก็เลยลองเข้าไปถามพูดคุยแล้วอธิบายซ้ำๆ สุดท้ายแกก็ยอมใช้ยาฉีด ก็เลยสรุปว่า การรักษานั้นต้องให้ได้ตามมาตรฐานแต่อาจจะไม่ได้ในครั้งแรก)
  • ความเสียสละเป็นห้วใจสำคัญ
  • ยังมีอื่นๆอีกมากมายที่ไม่สามารถเล่าได้ทั้งหมด

สุดท้ายก็แจกกระดาษเอ4คนละ 2 ใบแล้วให้เขียนว่า สิ่งที่จะเอากลับไปทำมีอะไรบ้าง

  • ก็มีคนเขียนได้ดีมากๆ ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง ก้สามารถเขียนได้เยอะมากๆ คล้ายไดอารี่เลย น่าทึ่งมากๆ
  • มีการยกตัวอย่างเรื่องเล่าที่ประทับใจ ที่จำได้ ก็มีเรื่อง "กระเป๋าของฉัน" เป็นเรื่องจากคุณออย ศูนย์โรคมะเร็ง ..........โดยเริ่มที่ว่า ตอนแรกนั้นคุณออยไม่ได้เริ่มที่จะเป็นพยาบาล โดยส่วนตัวแล้วอยากเป็น ผู้ที่มีกิจการเป็นของตนเองสักอย่าง แต่ด้วยที่คุณแม่ของคุณออยนั้นอยากให้ลูกสาวเป็นพยาบาลมากๆ ก็เลยเป็นเหตุให้ต้องมาทำงานวิชาชีพพยาบาล ...มีคุณป้าคนหนึ่งเป็นมะเร็งเต้านม แล้วระหว่างการรักษานั้น   คุณยายตาบอด  เวลามารับคีโมก็จะมีคุณลุงมาด้วย โดยวันนึงคุณออยก็เห็นว่ากระเป๋าที่คุณลุงถึอมานั้นเก่ามากๆ ไม่สามารถถึอได้ตามที่ควรเป็น ต้องใช้วิธีลากเอา คุณออยเห็นดังนั้นก็เลยคิดว่าตัวเองมีกระเป๋าอยู่หลายใบ ก็เลยบอกคุณลุงว่า จะไปเอาของตนเองมาให้ หลังจากนั้นทุกครั้งที่คุณลุงกับคุณป้ามาก็จะเห็นถือกระเป๋าใบที่คุณออยให้มาด้วยเสมอ แล้วมาวันหนึ่งก็เห็นคุณป้ามาคนเดียว ก็เลยถามคุณป้าว่าคุณลุงไปไหน คุณป้าบอกว่าคุณลุงไปแล้ว ไปอยู่กับคนอื่น ดังนั้นคุณป้าก็ไม่สามารถมารับยาได้ตามนัดเนื่องจากแกอยู่คนเดียว ทำให้บางครั้งต้องส่งยาไปให้คุณป้าทางไปรษณีย์ แม้ว่ามันจะไม่ถูกต้องก็ตามแต่ด้วยความที่คุณป้ามาลำบากก็เลยต้องช่วยๆกันไป แล้วมาวันหนึ่ง คุณป้าก็มารับยาเช่นเคย แต่คราวนี้มีคุณลุงมาด้วย ก็เลยถามไปว่าลุงไปไหนมา ลุงก็ตอบว่า แกไปอยู่กับคนอื่น แกก็เอากระเป๋าไปด้วย เมื่อแกเห็นกระเป๋าใบนั้น ทำให้แกรู้สึกผิดมากๆ ที่ขนาดคนอื่นแท้ๆยังมีน้ำใจมากกว่า คิดได้ดันนี้แกก็เลยกลับมาหาคุณป้า แล้วคุณออยก็เหลือบไปเห็นที่กระเป๋าว่าป้ายที่ติดมากับกระเป๋ายังไม่ได้เอาออกเลยตั้งแต่ที่ให้ไปครั้งแรกดูก็มีลายมือเขียนที่ฉลากเป็นลายมือที่เขียนไม่สวยนักเพราะคุณป้าแกเขียนเอง เขียนว่า "กระเป๋าคุณออย" เมื่อเห็นดังนี้ก็ปลื้มใจมาก ก็คิดว่านี่แหละ เรามีแบรนด์เป็นของตัวเองแล้ว
  • จะเห็นได้ว่ายังมีสิ่งสวยงามที่ให้เราได้ยิน ได้เห็นตลอดมา
  • มีวิธีไหนที่ทำให้เราทำงานคุณภาพด้วยหัวใจ ไม่ใช่เครื่องจักร

 

หมายเลขบันทึก: 191444เขียนเมื่อ 30 มิถุนายน 2008 19:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  • สวัสดีครับ
  • ผมขอสักสองใบได้มั้ยครับ กระเป๋า
  • เผื่อจะทำให้ใครบางคนกลับมา อะจึ่ย..
  • ต้องเรียกว่า"กระเป๋าเรียกลุง" แต่แหม!! ไปอยู่กับใครมาเนี่ยคุณลุงจ๋า

อ่านแล้วปลื้มแทนค่ะ

คิดถึงคุณแม่หลังคลอดคนหนึ่ง เล่าให้ฟังว่าใช้ชื่อเราไปตั้งให้ลูก

ตอนนั้นเขิน ๆ นะ แต่ตอนนี้แอบยิ้มเล็ก ๆ ในใจ มีความสุขค่ะ (*___*)

ในที่สุดแม้จะเป็นแค่กระเป๋า แต่มันก็สามารถเรียกความสุขทั้งมวลกลับมาได้อีกครั้ง

คนเราทำผิดได้ แต่...ไม่ควรทำผิดในเรื่องเดิมแบบซ้ำซากจริงไหมคะหมอ

กระเป๋าคุณออย...มีแจกอีกไหม..เผื่อหัวใจความเป็นมนุษย์จะได้ไม่มีจุด จุด จุด

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท