Learning Organization กฟภ.พิษณุโลก

แรงบันดาลใจในการเรียนรู้ ทำให้ชีวิตมีค่าและไม่หยุดนิ่ง

ความรู้ส่วนภูมิภาคมีมาเกือบ 50 ปีแล้ว ผมชื่นชมการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมาตลอด และได้มีโอกาสมาร่วมหลายครั้ง  ผมมีหน้าที่มาประสานความรู้ให้ท่านผนึกกำลังกันในการทำ Workshop แล้วนำไปแก้ปัญหาเสนอความคิดใหม่ๆ

 

ในวันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาส ไปพบ และแลกเปลี่ยนความรู้ กับ ชาว กฟภ. ภาคเหนือเขต 2 ซึ่งประกอบด้วยจังหวัด พิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย แพร่ น่าน ตาก อุตรดิตถ์ และ กำแพงเพชร  ณ โรงแรมท็อปแลนด์ ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น และประทับใจ ต้องขอขอบคุณที่ทุกท่านมีความตั้งใจที่จะใฝ่หาความรู้

ผมหวังว่าลูกศิษย์ ชาว กฟภ. ทุกเขต จะเข้ามาร่วม Share ความรู้นะครับขอบคุณครับ

ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

ศ.ดร.จีระ และผู้บริหารของ กฟภ.

ผู้เข้าสัมนาร่วมแสดงความคิดเห็น

ผู้เข้าสัมนาร่วมแสดงความคิดเห็น

 

บรรยากาศการทำ workshop กลุ่มย่อย

การเรียนรู้ทำให้คนรู้จักคิด และดูตัวตนของตนเอง ว่าตัวตนที่แท้จริงของตนอยู่ ณ.จุดใด พร้อมที่จะทำอะไร เพื่อใคร และจะปฏิบัติอย่างไร เพื่อให้ทุกจุดหมายหรือเป้าหมายที่คิดเอาไว้ อย่างมีเหตุผล

นายชีพวุฒิ เนตรนาค

การไฟฟ้าสาขาย่อยอุ้มผาง

 

จากการประชุม ได้รับความรู้ และได้แรงบันดาลใจ จากท่านอาจารย์ดร.จีระ มาก เพราะทำให้เรามองอะไรก้าวไกล มีความใฝ่รู้ ที่จะค้นหา และแก้ปัญหา พัฒนาองค์กรให้เป็นเลิศ และให้ผู้รับการอบรมได้แสดงออก และแสดงความคิดเห็นเพื่อจะประยุกต์ให้ใช้กับองค์กร กฟภ.

นายสมชาย สัมมามิตร

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอบางกระทุ่ม

จ.พิษณุโลก

การจัดโครงการ L.O.A. ของ กฟภ.ในพื้นที่สังกัด กฟน.2 ถือว่าเป็นการจุดประกายแนวความคิด ในการที่จะพัฒนา กฟภ. ก้าวเข้าสู่ LOA อย่างแท้จริง

ขอให้ กฟภ.มีการ monitor หลังการอบรมอย่างต่อเนื่องและจริงจัง

นายถนัดกิจ น่วมอินทร์

ผจก.กฟส.คขล.จ.กำแพงเพชร

ขอบคุณอาจารย์ที่ช่วยจุดประกายการเรียนรู้ เส้นทางเรียนรู้ แนวความคิด การทำงานเป็นทีม การสร้างนวัตกรรมจากการเรียนรู้ คุณค่าและคุณประโยชน์จากการเรียนรู้ ศีลธรรม จริยธรรม ในการทำงานอย่างมีความสุข เข้าใจวัฒนธรรมในการเรียนรู้ สามารถไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันเพิ่มมูลค่า ให้ความสำคัญกับลูกค้า

นายไพฑูรย์ พันธุ์เอี่ยม

เพื่อพัฒนาให้ การไฟฟ้าฯ เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ต้องเริ่มจาก รายงาน(ตาราง) ข้อมูลด้านไฟฟ้า ให้ใช้ภาษาอังกฤษ จะทำให้บุคลากร เกิดความตื่นตัว และหันมาสนใจภาษาอังกฤษมากขึ้น

เป็นการสร้างแรงจูงใจ ให้พนักงานเกิดความสนใจภาษาอังกฤษ

[email protected]

ในการอบรมหลักสูตรองค์กรแห่งการเรียนรู้ ที่ท่านอาจารย์จีระ ได้บรรยายทำให้กระผมได้มีแรงบันดาลใจ ที่จะใฝ่หาความรู้ เพื่อที่จะได้พัฒนาองค์กรให้มีความเจริญก้าวหน้าต่อไป

นายมงคล แตงกล่อม

หัวหน้าแผนก การไฟฟ้าอ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์

เท่าที่ฟังบรรยายมานั้น ผมคิดว่าบางอย่างใหญ่เกินความสามารถ ต้องพึ่งพาหน่วยงานอื่น หรือคนอื่น ซึ่งผมคาดว่าจะสำเร็จได้จะต้องใช้เวลานาน ดังนั้น ในส่วนที่ผมจะดำเนินการน่าจะเริ่มจากจุดเล็กๆ โดยพึ่งพาตนเอง ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และการดำเนินการดังกล่าวต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน รวมถึงตัวเองด้วย เมื่อสำเร็จจากจุดเล็กๆ หลายจุด เมื่อนำมารวมกัน ก็น่าจะสำเร็จทั้งองค์กร

นายสมหมาย ศรีบัวจับ

เรียน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

จากการสัมมนา องค์กรแห่งการเรียนรู้ ได้มีแรงบันดาลใจอยากให้ได้ศึกษาเรียนรู้ในด้านต่างๆ เช่น การพูด - การเขียนภาษาอังกฤษ เพื่อให้เป็นประโยชน์ ต่อ กฟภ. ในอนาคตต่อไป และได้จินตนาการต่อองค์กร อยากเห็น กฟภ. เป็นองค์กรที่สังคมรู้จัก ยอมรับ ถึงการบริหาร, การบริการ และประทับใจตลอดไป

นางพงษ์ลดา ดอยลอบ

นบท.ระดับ 9

กฟจ.แพร่

เรียน ท่านอาจารย์

สำหรับการอบรมในวันนี้ สิ่งที่กระผมได้รับพอสรุปได้ดังนี้

1.แรงบันดาลใจ

2.ความมุ่งมั่น

3.มีคยวามสุขในการทำงาน  เมื่อเราเป็นคนมีคุณภาพ ทำอะไรก็มักจะประสบความสำเร็จ เมื่องานสำเร็จความสุขก็ตามมาเช่นกัน

อาจารย์ครับ เมื่อท่านมามีส่วนในการที่จะพัฒนา กฟภ. ด้วยความตั้งใจและมุ่งมั่น ผมขอฝากเกี่ยวกับการคัดเลือกหรือแต่งตั้งผู้บริหารทุกระดับของ กฟภ. ขอให้ช่วยลดระบบเส้นสาย หรือ ระบบอุปถัมภ์ลงบ้าง เพราะบางครั้ง ผู้ท่ได้รับการแต่งตั้ง ให้เป็นผู้บังคับบัญชาจากระบบอุปถัมภ์ จะขาดความรู้ ความสามารถไม่ตรงกับสายงาน จึงทำให้การพัฒนาและแก้ปัญหาเกิดความล่าช้า ไม่เป็นที่ประทับใจของประชาชน

วันนี้รู้สึกประทับใจ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ มากที่ท่านได้มาจุดประกายและให้ความรู้ในเรื่อง "องค์กรแห่งการเรียนรู้" ทำให้บุคลากรของ กฟภ. ได้รับแนวทางท่จะสร้าง "องค์กรแห่งการเรียนรู้" ในหน่วยงาน และองค์กรของตนเอง ในอนาคต เพื่อเป็นการกระตุ้นให้บุคลากรในหน่วยงาน มีความคิด ความรู้ การร่วมมือได้ทันต่อเหตุการณ์ในปัจจุบันมากขึ้น และทำให้เราได้รู้จักตัวเองมากขึ้น อยู่ในสังคมปัจจุบันได้อย่างดี

เรียน อาจารย์ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

การได้มาเรียนในวันนี้ ทำให้ได้

1.ความรู้เพิ่มขึ้น

2.มีแรงบันดาลใจ

3.กระตุ้นให้ต้องเพิ่มเติมความรู้หรือหาความรู้อย่างต่อเนื่อง

สิ่งที่ต้องการ

1. ต้องการให้อาจารย์ใส่(เพิ่มข้อมูล) ข้อมูลในการรักองค์กรให้มากกว่ารักตัวเอง หรือ ครึ่งหนึ่ง จะทำให้องค์กรเจริญ ก้าวหน้า มั่นคง มากกว่าที่เป็น

นางสุธิดา เพ็ญสุภา

ผชน.8 กวป.(น.2) พล.

ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

ทราบว่า ความแน่นอน คือความไม่แน่นอน

ทราบว่า ควรหาช่องทางสร้างมูลค่าเพิ่ม value added ให้กับตัวเอง และกฟภ.

ได้รับ -แรงจูงใจและสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อพัฒนาตัวเองและองค์กร

-การเผชิญปัญหา ควรได้รับการแก้ไข โดยอาศัยความรู้ตนเอง และทีมงาน

-เห็น ความสำคัญกับการเรียนรู้ LOA

นายวัฒนะ ธรรมสอน

 

ขอขอบคุณ ศ.ดร.จีระ ที่ช่วยปลุกระดมความคิด และสร้างแรงบันดาลใจตลอดจนเข้าใจในองค์กร การเรียนรู้มากขึ้น เพื่อการพัฒนาตนเอง และเกิดประสิทธิภาพแก่องค์กร

[ศ.ดร. จีระ หงส์ลดารมภ์]

จากการดูเทปแล้ว มีข้อสรุปได้ดังนี้

กลุ่ม 6.1 กระตุ้นตัวเองและพนักงานใน กฟภ. ค้นหาตนเอง ว่ามีความชอบอะไร แรงบันดาลใจที่ทำให้ตัวเอง จะทำให้เกิดความสำเร็จ ในชีวิตการทำงาน เมื่อค้นหาตนเองแล้ว ต้องวิเคราะห์เป็น แล้วพัฒนาองค์กรให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ด้วยความเต็มใจ จะส่งผลให้มีความสุขในการทำงาน สำหรับภาษาอังกฤษนั้น จากรายการมองให้เห็นว่า เป็นส่วนหนึ่งที่ใช้ประกอบการพัฒนาตนเอง หรือพนักงาน ให้เตรียมพร้อม ให้องค์กร กฟภ.เป็นองค์กรชั้นนำ ซึ่งกลุ่มมองว่า มิใช่ภาษาอังกฤษอย่างเดียว ทุกอย่างที่เป็นวิธีการที่พัฒนาให้ตัวเองและกฟภ. เจริญก้าวหน้านั้น ต้องควรศึกษาอย่างแท้จริง และต้องทำอย่างต่อเนื่อง ตลอดเวลา เพื่อให้กฟภ. เป็นองค์กรการเรียนรู้ชั้นนำต่อไปในอนาคต

กลุ่ม 6.2 ควรมีการศึกษาภาษาอังกฤษให้มากขึ้น เนื่องจากในตำราหรือ ในอินเตอร์เน็ต ก็ใช้แต่ภาษาอังกฤษ ถ้าพนักงานมีความรู้ภาษาอังกฤษมากขึ้น จะพัฒนาให้ กฟภ. เจริญก้าวหน้าไปได้ ในการที่จะพัฒนา กฟภ. ให้เป็นองค์กรชั้นนำของโลก พนักงานต้องตั้งแรงบันดาลใจให้สูง และทำให้ได้ เมื่อมีพร้อมทั้งภาษาอังกฤษ และ มีแรงบันดาลใจที่จะมุ่งมั่นพัฒนา แล้ว ความสุขในการทำงาน และความสำเร็จก็จะตามมา

กลุ่ม 2.2 ปัจจุบันสถานการณ์มีแรงกดดัน เพราะต้องติดต่อกับหน่วยงานภายนอกมากขึ้น กฟภ. เป็นรัฐวิสาหกิจเล็กๆ ในประเทศ แต่ต่อไปก็ต้องขยายออกไปใหญ่ขึ้น ดังนั้น จึงต้องปรับปรุงเพื่อความอยู่รอดขององค์กร

กลุ่ม 2.1 ภาษาอังกฤษ กับ กฟภ. ยังถือว่า เป็นจุดอ่อน เมื่อออกไปประชุมตามหน่วยงานต่างๆ หลายครั้ง จะรู้ได้ว่า ถ้าต้องรับข้อมูลที่เป็นภาษาอังกฤษ มักจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ จึงจะต้องมีการพัฒนา ปรับปรุงขึ้น เพื่อว่าในอนาคตหากเราต้องติดต่อ กับต่างประเทศ เช่นไปดูงาน ในยุโรป ทำอย่างไร เราถึงจะดูดความรู้จากเขามาใช้ได้ หากเราไม่มีความแตกฉานในเรื่องภาษาอังกฤษอย่างถูกต้อง ทำไมเราถึงต้องศึกษาภาษาอังกฤษ เพื่อเป็นสะพานก้าวไปสู่โลกกว้าง ที่เราจะสามารถนำหลักปฏิบัติหรือทฤษฎีใหม่ๆ ที่ถูกต้องมาใช้กับเราได้

กลุ่ม 4.2 ดูจากเทปแล้ว ดร.บุญชัย มีแนวคิดที่สามารถเอามาเป็นแบบอย่างได้ มีความมุ่งหวัง จึงไปศึกษาต่อ เมื่อคิดอยากเป็นอะไร ก็หาทางให้ตัวเอง ไปเรียนในทางนั้น มีความรู้แบบข้ามศาสตร์ ถึงแม้จะได้ใช้น้อยแต่ก็ควรเรียน แม้เพียงเล็กน้อย ก็ยังดี เพราะมาจากแรงบันดาลใจ ทำให้เกิดการเรียนรู้ต่อเนื่อง ในศาสตร์อื่นๆ ต่อไป เรียนหนังสือจากแบบอย่าง คนเราต้องมีเป้าหมายชีวิต มีปณิธาน การบ้าคลั่งความสำเร็จทำให้เราก้าวหน้า การเรียนรู้ตลอดชีวิต สร้างความสุขให้เราได้ มากมาย

กลุ่ม 4.1 ภาษาอังกฤษ ในหน่วยงานบางคนคิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ จะได้ใช้เมื่อไหร่ ตอนไหน แต่ความจริงเราได้สัมผัสทุกวัน ถ้าเราจะเรียนรู้ตรงนี้ จะทำให้เกิดแรงบันดาลใจขึ้นอยู่กับผุ้บังคับบัญชา ว่า จะกระตุ้น หรือจูงใจให้อยากศึกษาภาษาอังกฤษมากแค่ไหน ควรจะมีแรงจูงใจให้พนักงานอยากรู้ อยากเรียน เช่นเพื่อให้ใช้คอมพิวเตอร์ใน สำนักงานได้อย่างชำนาญ เช่น ระบบ SAP ก็เป็นภาษาอังกฤษ แรงบันดาลใจเมื่อมี ก็จะผลักดันและค้นหาตัวเองให้เจอ จะทำให้แนวคิดพัฒนาไปเรื่อยๆ เปิดโอกาสให้พนักงานทุกระดับให้พัฒนาตัวเองขึ้น

กลุ่ม 3.1 ภาษาอังกฤษมีความสำคัญ ในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ใน International ควรศึกษาด้วยตัวเองในระดับที่ตนทำได้ เช่น อ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ คุยกับชาวต่างชาติ ใช้ internet หรือ ใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อทางอีเมล์ องค์กรควรจัดหลักสูตรสนับสนุนเรื่องเงินให้พนักงานอบรม แยกตามระดับต่างๆ(ซึ่งมีพื้นฐานความรู้ไม่เท่ากัน) การใช้หน้าจอคอมพิวเตอร์ควรเป็นภาษาอังกฤษ แรงบันดาลใจ เมื่อต้องการเก่งภาษา ก็ต้องตั้งเป้าหมายเบื้องต้นเช่น คยุกับชาวต่างชาติบ้าง หรือ ขั้นสูงเช่น ลองสอบโทเฟลให้ได้ ถ้ามีแรงบันดาลใจในการทำงาน ก็จะทำให้ทำงานได้อย่างมีความสุข ทรัพยากรมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับการไฟฟ้ามีน้อยมาก อย่าให้ภาษาอังกฤษเป็นอุปสรรคต่อการสื่อสารกับโลก

กลุ่ม 1.1 ดูเทปแล้วจุดประกายว่า You are what you think. จุดประกายว่า คุณบุญชัย เมื่อมีอาจารย์ชมเรื่องภาษาก็ไปเรียนเพิ่ม ทำให้รู้ว่าตนเอง ทำอะไรได้ ก็ทำ และพัฒนาสูงขึ้นไปได้เรื่อยๆ ในองค์กรมีกรอบบังคับทำให้พนักงานไม่สามารถเรียนรู้ ได้อย่างต่อเนื่อง ผู้นำต้องผลักดัน ให้เกิดการพัฒนา การเป็นสังคมการเรียนรู้ ต้องคิดเป็น สิ่งสำคัญที่สุดคือ ทุนทางปัญญา การเรียนยุคใหม่ คือ ทำให้ความรู้มีมูลค่าเพิ่ม

โครงการสร้างความตระหนักองค์กรการเรียนรู้ ทำให้รู้จักคิดและดูตัวตนของตนเองว่า ที่แท้จริงตนเองอยู่จุดไหน พร้อมที่จะทำอะไร เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายที่หวัง

นายสมควร มีศาสตร์

กฟภ.อ.วังเจ้า

ตรวจสอบตนเองว่าชอบสิ่งไหนแท้จริง แล้วเริ่มศึกษาปฏิบัติสิ่งนั้นให้ได้ผลเป็นรูปธรรม มีความสุข เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้กับตนเอง และองค์กร

สมชาย รักษา...

กลุ่ม 2.2

วันนี้ที่ได้มารับการอบรมกับท่านอาจารย์ ทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจอย่างมากเพื่อที่จะนำไปพัฒนาศักยภาพของผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดีที่สุด

นายวีระเชน มิตรสิทธิ์

กลุ่ม 2.2

จากการที่ได้อบรมโครงการสร้างความตระหนักองค์กรแห่งการเรียนรู้ ทำให้ได้รับความรู้เกี่ยวกับแนวการคิดแผนใหม่ เช่นการมองข้ามศาสตร์ รู้จักการคิด การวิเคราะห์ การแก้ปัญหา ทำให้ได้รับความรู้มากขึ้น สามารถนำไปปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างกำลังใจให้ตนเองที่จะฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ได้ โดยยึดหลัก "ศักยภาพ ของคน อยู่ที่แรงบันดาลใจ"

จงค้นหาตัวเองให้เจอ และจงสร้างพลังให้กับตัวเอง

นายศุภเกษม

 

ในการอบรม LOA จาก ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์นั้นได้รับความรู้ในการสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ โดยจะนำความรู้ไปสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกน้องและเพื่อนๆ ที่ไม่ได้เข้าอบรมในครั้งนี้ต่อไป

นายอวยชัย ตระกูลพิทักษ์

 

จากการอบรม โครงการสร้างความตระหนักองค์กรแห่งการเรียนรู้

1.จะนำความรู้ความเข้าใจในการอบรม LOA ครั้งนี้ ไปพัฒนาองค์กรให้มีระดับสูง

2.มีแรงบันดาลใจที่จะพยายามหาความรู้เพิ่มเติม

3.ประทับใจอาจารย์ผู้บรรยาย

นายบุญเชิด มีเนตรขำ

 

จากการอบรมได้รับความรู้นำไปประยุกต์ใช้ในหน่วยงานของ กฟภ. ให้ก้าวหน้าไปในทิศทางเดียวกัน และนำพาบุคลากรไปให้ทันต่อโลกที่ก้าวไปทุกนาที และได้แรงบันดาลใจแห่งการเรียนรู้ด้วย

-ศักยภาพของคนอยู่ที่แรงบันดาลใจ

-การเรียนรู้เหมือนสร้างสมบัติมหาศาล

-สร้างคน ,สร้างงาน เหมือนสร้างทุนเพิ่ม

นายพรเทพ สมัยสมบัติ

 

ตามที่ข้าพเจ้าได้เข้ารับความรู้ในเรื่องของ "องค์กรแห่งการเรียนรู้" รู้สึกว่ามีประโยชน์มากโดยประเด็นหลักของการเรียนรู้ คือ การเปิดใจรับ ความคิดทุกความคิด ของทุกคน และนำความคิดนั้นมาปรับปรุงงาน เพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มในการทำงาน แต่สิ่งที่คิดว่าน่าจะกระตุ้นในการให้โอกาสกับพนักงานทุกระดับ ที่สามารถพัฒนาการเรียนรู้ ได้มีโอกาสได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้บริหารได้อย่างเท่าเทียมกัน ปัจจุบัน การแต่งตั้งผู้บริหาร ของ กฟภ.ตั้งแต่ระดับต้น ใช้วิธีแล้วแต่ผู้บริหารจะเสนอ ไม่มีการสอบวัดความรู้เหมือนหน่วยงานอื่น(เช่นการสอบของ ก.พ.เป็นต้น) ทำให้พนักงานที่มีความสามารถขาดโอกาสในการแข่งขัน และไม่คิดจะพัฒนางานให้ดียิ่งขึ้น และไม่เกิดแรงจูงใจในการพัฒนาตนเอง ซึ่งมีผลทำให้ ขาดการแข่งขันที่เป็นธรรม และได้คนมีความสามารถส่วนใหญ่ มาบริหารงานต่อไป

นายพิทยา โรจน์ทนงชัย

กฟจ.พิษณุโลก

สิ่งที่ได้รับในโอกาสนี้ ความจริงแล้วเป็นสิ่งที่คิดอยู่ในใจและเริ่มดำเนินการไปบ้างแล้ว คือ เรื่องของแรงบันดาลใจในการปรับปรุงการทำงานในส่วนที่รับผิดชอบ รู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้น ในการที่จะเดินหน้า แก้ไข ปรับปรุง และ พัฒนา งานในหน้าที่รวมถึงบุคลากรที่อยู่ในความดูแลด้วย ทั้งนี้ มีพื้นฐานอยู่บนความคาดหวังในความสำเร็จ ซึ่งจะนำพาความสุขในการทำงาน ที่สำคัญ ความคาดหวังนี้ จะเป็นแรงผลักดันให้ต่อสู้กับปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น ไม่ท้อถอย จนกว่าจะพบกับความสำเร็จที่ตั้งเป้าหมายไว้

กฤติกา จุฬาพงศิริ

 

เรียน ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

-Learning Organization Awareness เป็นหลักสูตรที่ดีมาก

-อาจารย์เป็นวิทยากรมืออาชีพจริงๆ ครับ

-อยากให้อาจารย์ เข้าถึงโครงสร้างองค์กรฯ ของ กฟภ. มากกว่านี้

ขอแสดงความนับถือ

วิวัฒน์ ฤทธิวงศ์

 

สรุป องค์กรแห่งการเรียนรู้จะประสบความสำเร็จ

-ต้องค้นเป้าหมายของแต่ละบุคคลให้พบ

-เพื่อสำรวจตัวเองว่าต้องการอะไร จะได้ศึกษาพัฒนาปรับปรุงตัวเองให้บรรลุเป้าหมาย ตามวัตถุประสงค์ขององค์กร

-ต้องมีความรักในองค์กร

- ในขณะเดียวกันต้องรับผิดชอบต่อสังคม และดูแลสิ่งแวดล้อม

สิทธิโชค อินทร์ปาน กลุ่ม 2.1

 

[ศ.ดร. จีระ หงส์ลดารมภ์]

Workshop 1 เปรียบเทียบทฤษฎี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทฤษฎี 2R และ Peter Senge

กลุ่ม 1.1

ทำโครงการ CRV Customer Relation Valued เป็นกิจกรรมเพื่อนำไปสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ให้ความรู้ด้านการใช้ไฟฟ้า สู่ลูกค้าโดยใช้หลักการ

                – ความพอเพียง

-  ความรู้ด้านการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด มีประสิทธิภาพจริง

-  การทำงานเป็นทีม ซึ่งมีความรู้หลากหลาย ทั้งด้านวิศวการ บัญชี การตลาด และการท่องเที่ยว

-  คิดอย่างมีเหตุผล และเป็นระบบ

แนวคิดการดำเนินงาน

- สร้างสัมพันธ์ภาพที่ดีกับลูกค้า เช่นการเยี่ยมเยียนลูกค้ารายเดิม และให้ความรู้ทางด้านการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า ประหยัด พอเพียง โดยใช้ความรู้จากทีมงาน รวมทั้งแสวงหาทางเลือกในการใช้พลังงานรูปแบบใหม่

- สร้างมูลค่าเพิ่ม ให้กับ กฟภ. วัฒนธรรมของภาคเหนือ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวมาก ดังนั้น เราจะใช้ข้อได้เปรียบ จะนำไฟฟ้าสู่ที่ท่องเที่ยวได้อย่างไร เชิญชวนนักท่องเที่ยว มาใช้บริการ เมื่อมีคน ก็ต้องมีการใช้พลังงานที่จะทำให้ กฟภ. ได้รับรายได้ เพิ่มค่า

- สร้างเครือข่าย ความรู้ ผ่าน website เพื่อเข้าถึงลูกค้าโดยตรง

กลุ่ม 1.2

L.O. ที่ดี ควรมีอะไร อย่างไร ที่สมควรได้บรรจุเข้าในองค์กร จะทำอย่างไร ให้องค์กรเป็น องค์กรแห่งความรักและเชื่อถือ ให้บุคลากรฝากความรู้ที่ตัวเองมีไว้ให้แก่องค์กร

1. ให้มองเรื่อง โลกาภิวัตน์ ว่าทุกวันนี้โลกมีการปรับเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง ควรศึกษารายละเอียด

2. มองเรื่องศักยภาพขององค์กร เช่นองค์กรของเราเป็นองค์กรที่มีศักยภาพขนาดไหน มีจุดอ่อน    จุดแข็งอะไรบ้าง ควรปรับปรุงตรงไหน ให้มีการพัฒนาคน ต้องสร้างมูลค่าเพิ่ม ควรมี team learning มีความคิดสร้างสรรค์ มีวิธีการเรียน ที่ทำให้มีส่วนร่วมคิดวิเคราะห์เป็น เน้น ประเด็น จาก Training เป็น Learning

3.มองเรื่อง วงการธุรกิจ ว่ามีการปรับเปลี่ยน หมุนเวียน ผกผันอยู่ตลอดเวลา องค์กรที่ดีต้องจับตามองความเปลี่ยนแปลง ในวงการธุรกิจอย่างใกล้ชิด มองในแง่ความอยู่รอดและแข่งขัน

4. มองความเปลี่ยนแปลง ที่มีผลกระทบต่อองค์กร หรือ มีความเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น

5. มองเรื่อง ผลลัพธ์ ที่สมควรได้ หรือ การสูญเสีย (มูลค่าเพิ่ม)

6. มองเรื่อง ผลที่เป็นทางตรง กับ ทางอ้อม ที่เราควรตั้งเป็นแนวทางปฏิบัติ โดยศึกษาจากข้อมูล

7. มองเรื่อง การติดตามผล มีอะไรที่ทำได้ หรือ ไม่ได้

8. ภาพรวมขององค์กรในอนาคตที่เราจะได้ เป็นอย่างไร à ตั้งเป็นมาตรฐานได้อย่างมั่นใจ , มีอนาคตที่แน่นอน และเป็นองค์กรที่มีแต่ความรัก

กลุ่ม 2.1 การตระหนักเรื่อง L.O.  ต้องยอมรับว่า กฟภ. มีผลจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในและภายนอก

การเปลี่ยนแปลงภายใน ได้แก่ โครงสร้างองค์กร วัฒนธรรม ทรัพยากร ผ่านการหล่อหลอมด้วยระบบเจ้าขุนมูลนาย บุคลากร ใช้ OJT (on the job training) ควรเปลี่ยนเป็น OJL (on the job learning) เพื่อแก้จุดอ่อน

การเปลี่ยนแปลงภายนอกได้แก่ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง

กลุ่ม 3.2  วิธีการที่เหมาะสมในการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ในเขต น.2

ใช้ทฤษฎีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นหลัก เพื่อเชื่อมกับ องค์กรแห่งการเรียนรู้

ทำอะไร à จะดำเนินการให้เกิดการเรียนรู้ในกลุ่มสมาชิก โดยกระจายเหมือนจิ๊กซอว์ กระจายออกไปให้ทั่วถึง ดำเนินการให้เกิดการเรียนรู้ข้ามศาสตร์ ตรงประเด็น และมองความจริง

ทำอย่างไร à กำหนดวิธีการ มีการพบปะ เช่น แลกเปลี่ยนความรู้ , จัดประชุม     ทำเวปไซต์ เก็บข้อมูลความรู้ และฝากปัญหาไว้เพื่อให้คนที่รู้มาตอบ 

ทำเพื่อใคร à เพื่อสมาชิกในองค์กร และเพื่อองค์กรเอง

ทำแล้วได้อะไร à ได้ความเชื่อมั่น ทั้งแก่ตัวเอง พนักงาน เพิ่มความรู้ข้ามศาสตร์ สมาชิกมีความสามัคคี มีความรู้ ความมั่นใจในการทำงาน พนักงานจะมีความสุข องค์กรก็จะมีประสิทธิภาพ

กลุ่ม 5.2

ปัญหาการละเมิดสิทธิ์การใช้กระแสไฟฟ้า

เกิดจาก 1. ผู้ใช้ไฟฟ้าลักลอบใช้กระแสไฟฟ้า

2. บทลงโทษของ กฟภ. ไม่ทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้าเกรงกลัว เพราะความคุ้มค่าของการลักลอบใช้ไฟฟ้า เมื่อเปรียบเทียบจะถูกกว่าค่าไฟฟ้าที่ใช้จริง

3. ปัญหาผู้มีอิทธิพล

4. บรรยากาศของสถานที่ตั้งมิเตอร์ อยู่ในที่ลับตา การคมนาคมไม่สะดวก

5. ระบบจำหน่ายไฟ เข้าไปอยู่ในพื้นที่ของผู้ใช้ ซึ่งยากแก่การเข้าตรวจสอบ

6. ขาดการประชาสัมพันธ์ ในเรื่องชุมชนแห่งการเรียนรู้

ผลจากการเรียนรู้ ทำให้มีแนวทางแก้ไขปัญหาดังนี้

ใช้ทฤษฎี Peter Senge 1. การทำงานเป็นทีม ร่วมกันระหว่าง ฝ่ายบัญชี , ช่าง และ ผู้จดหน่วยไฟฟ้า ให้มาประชุมร่วมกัน จะได้รู้ข้อเท็จจริง

2.       นำพนักงานบัญชีและ พนักงานช่าง และตัวแทนผู้จดหน่วยไฟฟ้า มาอบรม เรียนรู้ วิธีการตรวจสอบ มิเตอร์ ที่มีการละเมิดสิทธิ์

3.       ถ้าปล่อยให้ผู้ใช้ไฟมีการลักลอบละเมิดการใช้ไฟมากขึ้น จะทำให้ กฟภ. มีจำนวนหน่วยไฟ สูญเสีย และ ประสบการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นต้องปลูกฝังให้พนักงานรักองค์กร และช่วยกันตรวจสอบ

กลุ่ม 6.1

ในแนวความคิดของกลุ่ม สรุปว่า จะนำทฤษฎีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาพัฒนาให้ กฟภ. เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ คือ นำ รู้ – รัก – สามัคคี , คุณธรรมและจริยธรรม

รู้ à -ขณะนี้ แต่ละแผนก ก็รู้กันเองในแผนก แต่เราควรจะรู้ให้จริง และรู้ข้ามแผนก ซึ่งเป็นความรู้ข้ามศาสตร์ ถ้าต่างคนต่างทำ จะทำให้มีข้อขัดแย้ง องค์กรก็จะไม่พัฒนา

รัก à ต้องปลูกฝังให้พนักงานรักองค์กรมากขึ้น

สรุป

กฟภ. เป็นองค์กรที่รับผิดชอบคนทั่วประเทศ หากขาดการประสานระหว่าง ส่วนกลาง กับภูมิภาคก็จะเปรียบเหมือน ร่างกาย หัวโต แต่แขนขาลีบ ทุกคนอยากให้กฟภ. ประสบความสำเร็จ แต่มีแต่แนวคิด ไม่มีการทำ ไม่มีใจให้ ดังนั้น จึงควรปรับให้หัวเล็กลง เพิ่มแขนขาให้มากขึ้น เพิ่มคนที่มีความรู้ ความสามารถสู่ภูมิภาค องค์กรต้องรู้ว่า ทำอะไร สุดท้ายก็จะได้ร่างกายที่แข็งแรง