ทำไมต้องมีHA
ก.อุดมการณ์ของชาติ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 ได้ระบุถึงอุดมการณ์ของชาติในเรื่องที่เกี่ยวกับบริการสุขภาพไว้ดังนี้:
"มาตรา 52 บุคคลย่อมมีสิทธฺเสมอกันในการรับบริการทางสาธารณสุขทีได้มาตรฐาน และผู้ยากไร้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลจากสถานบริการสาธารณสุขของรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายทั้งนี้ตามที่กฎหมายบัญญัติ
การบริการทางสาธารณสุขของรัฐต้องเป็นไปอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ โดยจะต้องส่งเสริมให้องค์กรปกครองท้องถิ่นและเอกชนมีส่วนร่วมด้วยเท่าที่จะกระทำได้
การป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตราย รัฐจะต้องจัดให้ประชาชนโดยไม่คิดมูลค่าและทันต่อเหตุการณ์ ทั้งนี้ตามที่กฎหมายบัญญัติ"
"มาตรา 82 รัฐต้องจัดและส่งเสริมการสาธารณสุขให้ประชาชนได้รับบริการที่ได้มาตราฐานและมีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง"
ข.ทิศทางการพัฒนาประเทศ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 9 ระบุลักษณะสังคมไทยที่พึงประสงค์ไว้ดังนี้:
1)สังคมคุณภาพ มุ่งให้สังคมไทยเป็นคนดี คนเก่ง,เศรษฐกิจยั่งยืน,เมือง/ชุมชนน่าอยู่,การเมืองการปกครองโปร่งใส.
2)สังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้ มุ่งใคนไทยคิดเป็นทำเป็น,เรียนรู้ตลอดชีวิต,มีนวตกรรม/ความคิดริเริ่ม,สร้างทุนทางปัญญา,สืบสานประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น.
3)สังคมสมานฉันท์ และเอื้ออาทรต่อกัน.
ระบบสุขภาพที่พึงประสงค์ของในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 9 ระบุว่า "เป็นระบบสุขภาพเชิงรุกที่มุ่งการสร้างเสริมสุขภาพดีของประชาชน,ควบคู่กับการมีหลักประกันที่อุ่นใจในการเข้าถึงบริการสุขภาพที่เอื้ออาทรและมีคุณภาพเมื่อยามจำเป็น, โดยสังคมทุกส่วนและทุกระดับมีความเพียงพอทางสุขภาพมีศักยภาพและมีส่วนร่วมในการสร้างและจัดระบบสุขภาพโดยมีการเรียนรู้และใช้ประโยชน์อย่างรู้เท่าทัน ทั้งจากภูมิปัญญาสากลและภูมิปัญญาไทย, เพื่อให้สังคมไทยดำรงอยู่อย่างพึ่งตนเองได้ และมีสุขภาวะในสังคมโลกที่มีสภาพการเชื่อมโยงและมีอิทธิพลต่อกันอย่างกว้างขวาง"
กลวิธีการพัฒนาในแผนพัฒนาสุขภาพฉบับที่ 9 ได้แก่:
-เสริมสร้างศักยภาพใหม่และความเข้มแข็งให้สังคมทุกส่วนและทุกระดับ
-การทำงานเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบสุขภาพ
-การทำงานโดยยึดปัญหาในระดับพื้นที่เป็นหลัก
-ส่งเสริมนวตกรรมด้านการสร้างเสริมสุขภาพการพัฒนาระบบบริการ การควบคุมป้องกันโรค และการคุ้มครองด้านสุขภาพ
ค.ความต้องการของสังคม
นอกเหนือจากอุดมการณ์ของชาติในรัฐธรรมมูญ รวมทั้งทิศทางการพัฒนาในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติครั้งที่ 9 แล้ว,ผู้จ่ายเงิน เช่น สำนักงานประกันสังคม กระทรวงการคลัง บริษัทประกันสุขภาพ ต่างก็ต้องการเห็นการใช้เงินเพื่อสุขภาพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ , องค์กรคุ้มครองผู้บริโภค ต้องการข้อมูลสาธารณะที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค , องค์กรวิชาชีพ ต้องการผดุงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและจริยธรรมของวิชาชีพ.
ง.สถานการณ์ของระบบบริการสุขภาพ
จะเห็นว่าสังคมมีเป้าหมายและคาดหวังที่จะเห็นคุรภาพเกิดขึ้นในระบบบริการสุขภาพ เมื่อกลับมาดูสถานการณ์ปัจจุบันของระบบบริการสุขภาพจะพบว่ามีลักษณะดังนี้:
· ความรู้
เทคโนโลยี และระบบการให้บริการ มีความซับซ้อนมากขึ้น
·
ผู้บริโภคไม่รู้ว่าโรงพยาบาลใดไว้ใจได้ ต้องอาศัยราคา
หรือสภาพภายนอกเป็นเครื่องตัดสิน ซึ่งอาจจะไม่จริง
·
บางเรื่องโรงพยาบาลก็ทำได้ดี บางเรื่องก็ยังมีปัญหา
เพราะขาดระบบตรวจสอบที่รัดกุมหรือมีคนส่วนน้อยที่ไม่รับผิดชอบ
·
มีแนวโน้มที่จะเกิดการฟ้องร้องมากขึ้น
·
ประชาชนมีความคาดหวังมากขึ้น ต้องการเห็นความโปร่งใสมากขึ้น
ในขณะที่ประชาชนและสังคมมีความคาดหวังมากขึ้น
ต้องการเห็นความโปร่งใส ความไม่
พอใจและความขัดแย้งเริ่มเพิ่มมากขึ้น
หากปล่อยให้แต่ละโรงพยาบาลพัฒนาของตนเองไปเรื่อยๆ
จะไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้ทันการณ์
จำเป็นที่จะต้องสร้างกระบวนการเพื่อให้เกิดการคิดและการทำงานอย่างเป็นระบบ
สร้างนวตกรรมและมาเรียนรู้ร่วมกัน
จึงจะสามารถตอบสนองความต้องการของสังคมได้
จ. ความคาดหวังต่อการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล
เป้าหมายของ HA คือคุรภาพบริการสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง,ใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับบริการสุขภาพของโรงพยาบาลย่อมได้รับประโยชน์ ผู้ที่ได้รับประโยชน์โดยตรงคือผู้ปฏิบัติงาน และผู้ป่วยซึ่งเป็นผู้รับผลของการปฏิบัติงาน
สิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานจะได้รับคือ
ความเสี่ยงในการทำงานลดลง
ทำงานง่ายขึ้นจากการประสานงานที่ดีขึ้นและการนำนวตกรรมต่างๆ
เข้ามาปรับปรุงวิธีการทำงาน บรรยากาศในการทำงานดีขึ้น
ได้พัฒนาศักยภาพของตนเองและมีโอกาสแสดงออก
และเกิดความภาคภูมิที่ได้ทำงานในหน่วยงานซึ่งมีระบบงานที่ดี
สิ่งที่ผู้ป่วยและญาติจะได้รับคือได้รับบริการที่มีคุณภาพ
ความเสี่ยงต่อการดูแลรักษาที่ไม่ได้มาตรฐาน
การประสบความสูญเสียหรือภาวะแทรกซ้อนลดลง
คุณภาพการดูแลรักษาดีขึ้น
ได้รับการพิทักษ์สิทธิผู้ป่วยและศักดิ์ศรีของความเป็นคนมากขึ้น
สิ่งที่สังคมจะได้รับคือมีความเชื่อมั่น
ในระบบบริการสุขภาพว่าสามารถให้ความใว้วางใจได้
สิ่งที่ผู้บริหารจะได้รับคือมีความสบายใจในการบริหาร
มีเวลาที่จะคิดพัฒนาในภาพกว้างโดยไม่ต้องเสียเวลาคอยแก้ปัญหาในแต่ละวัน
โรงพยาบาลจะเป็นองค์กรเรียนรู้
สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องสู่ความเป็นเลิศ
ทำให้องค์กรอยู่รอดและยั่งยืน
สิ่งที่องค์กรผู้จ่ายเงินจะได้รับคือการมีข้อมูลในการคัดเลือกโรงพยาบาล
หรือพิจารณาระดับการจ่ายเงินที่เหมาะสม
สิ่งที่องค์กรวิชาชีพจะได้รับคือ
มาตรฐานหรือข้อกำหนดต่างๆจะได้รับการนำไปปฏิบัติ
หากทำให้ทุกฝ่ายเห็นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นร่วมกัน
และมีความต้องการที่สอดคล้องกันมากเท่าไรจะยิ่งทำให้การพัฒนาคุณภาพเป็นไปได้ง่ายและมีความยั่งยืนมากขึ้นเท่านั้น
เท่านั้น
ฉ.
ความคาดหวังต่อการรับรองคุณภาพโรงพยาบาล
เป้าหมายของการรับรองคุณภาพโรงพยาบาลได้แก่:
1)
การกระตุ้นให้โรงพยาบาลเกิดแรงจูงใจในการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
การประกาศให้สังคมทราบจะเป็นข้อผูกมัดที่โรงพยาบาลจะต้องดำเนินการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ไม่ทำๆหยุดๆเหมือนไฟไหม้ฟาง
2) การสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม (social accountability)
ซึ่งโรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนจะต้องแสดงออก
เพื่อให้สังคมมีความมั่นใจต่อระบบบริการของโรงพยาบาล
ด้วยการยินยอมให้องค์กรภายนอก
ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจระบบการดูแลผู้ป่วยเข้าไปประเมินตามกรอบที่ตกลงร่วมกัน
3)
การให้ข้อมูลข่าวสารเพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้บริโภค
4) การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน
โดยการที่ผู้บริหารและผู้ประกอบวิชาชีพของโรงพยาบาลต่างๆ
ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและผู้ประเมินในลักษณะของอาสาสมัคร
ไม่มีความเห็น