การคิดอย่างสุดโต่ง....เป็นการใช้ความคิดที่ทำอะไรให้สุดสุด....ให้สุดความสามารถเท่าที่เราจะทำได้....
..ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ...ดิฉันใช้วิถีการใช้ชีวิตอย่างสุดสุดมาตลอด..ตั้งแต่เด็ก...ตอนเรียนหนังสือ ...ดิฉันก็ตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่เต็มความสามารถ...พอตอนทำงานดิฉันก็ทำอย่างดีที่สุด ....ทุกวันนี้ ดิฉันทำทุกบทบาท และหน้าที่อย่างสุดสุด ทุกๆ บทบาทและหน้าที.....ไม่ว่า ....จะเป็นหน้าที่ของลูก ...หน้าที่ของพี่...หน้าที่ของน้อง ...หน้าที่ของภรรยา...หรือหน้าที่ของหัวหน้า ต่อลูกน้อง....และหน้าที่อื่นๆ ...กับเพื่อนรอบข้าง และสังคม....
ที่ดิฉันคิดอย่างนี้ เนื่องจากดิฉันไม่ชอบการเสียใจ.....เพราะถ้าเราทำดีที่สุดในทุกๆ บทบาทและหน้าที่แล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ....เราจะไม่เสียใจเลย ....ตั้งแต่สมัยเด็กๆ แม่เคยสอนดิฉันเสมอว่า.....”.ไม่ว่าเราจะทำอะไร ให้เราทำให้เต็มที่ ....สุดความสามารถก่อน แล้วขอพรจากพระเจ้า....ซึ่งสุดแล้วแต่พระองค์จะให้เราหรือไม่ .....แล้วเราก็ไม่ต้องเสียใจเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราต้องสุดความสามารถของเราก่อนนะ”
ดิฉันพิสูจน์แล้วนะคะ...สำหรับตัวเอง...ดิฉันจำได้ว่า ไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ผ่านมาเลย ....ถ้าให้เวลาถอยกลับไป แล้วให้ดิฉันเลือกทางเดินใหม่....ดิฉันขอตอบอย่างภาคภูมิใจว่า ......ขอเลือกเหมือนเดิมคะ...เหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้.....
ขอขอบคุณมะที่ประเสริฐที่สุดและขอขอบคุณอัลลอฮฺด้วยคะ
สวัสดีครับ แวะมาทักทายครับ ตอนแรกก็อ่านไปลุ้นไปว่า ความสุขจาการใช้ชีวิตสุดโต่งเป็นอย่างไร ก็ได้ข้อสรุปว่าทำอะไรทุกครั้งต้องให้ดีที่สุด ก็จะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลัง นี่คือแนวคิดของพี่ ดีใจที่ได้รู้จัก พี่ มอ.ครับ
ขอบคุณมากคะ..ยินดีที่ได้รู้จักนะ...ใช่คะ นั่นคือแนวคิดของพี่คะ