ศูนย์ประชุมด่านเจดีย์สามองค์และโรงเรียนลูกกวาด


ศูนย์ประชุมด่านเจดีย์สามองค์และโรงเรียนลูกกวาด

            วันอาทิตย์ตอนเย็นๆของทุกสัปดาห์บ้านผมจะออกไปกินข้าวกันข้างนอก ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากความขี้เกียจทำกับข้าวกินเอง เมื่อวานตอนเย็นก็เช่นเดียวกัน ผมทราบมาจากเพื่อนรุ่นพี่ว่า มีร้านอาหารเปิดใหม่อยู่ข้างหลังมหาวิทยาลัยของเรา ร้านนี้เป็นสาขาของร้านทะเลไทยที่หาดใหญ่ในครับ เขามาเปิดแถวถนนปุณกัณฑ์นี่เอง หากเราขับรถเข้ามาในถนนนี้ ผ่านประตูร้อยแปดอันจอแจ ล่วงมาจนถึงประตูร้อยเก้าไปอีกราวหนึ่งถึงสองร้อยเมตร มองไปทางด้านขวามือก็จะถึงร้านอาหารร้านนี้

            ทำเลที่ตั้งงดงาม วิวทิวทัศน์ด้านหน้าร้านก็งามงด เป็นจริงเช่นไร เดี๋ยวจะสาธยายให้ฟังนะครับ

            เมื่อเราขับรถจนเกือบถึงประตูร้อยเก้า ก็จะเริ่มเห็นอาคารขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตระหง่านในเขตรั้วสีบลู เอ้ย..เขตรั้วของมหาวิทยาลัย นั่นคือกลุ่มอาคารศูนย์ประชุมแห่งใหม่ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ที่กำลังจะเปิดใช้ในเดือนสองเดือนนี้ รูปทรงงดงามเกินจะบรรยาย ผมเคยขับรถเข้ามหาวิทยาลัยตอนกลางคืน ได้เห็นเขาเปิดไฟสีเหลืองอร่ามไปทั่วทั้งบริเวณหอประชุม สวยงามจริงๆนะครับ นี่ถ้ามองไปยังทิวทัศน์โดยรวม เราก็จะเห็นเขาคอหงส์ตั้งทะมึนอยู่เป็นฉากหลัง (ต้องทะมึน เพราะเป็นเวลากลางคืนครับ ถ้ากลางวันก็คงเป็น ตั้งตระหง่านกระมัง) อีกทั้งยังมองเห็นยอดเจดีย์โลหะที่ตั้งอยู่บนยอดเขาลูกเล็กเปิดไปสว่างจ้าคล้ายต้นคริสต์มาสประกอบเป็นฉากหลังด้วยแล้ว ก็คงต้องบอกว่า สวยงามเกินบรรยายเลยเชียว

            ขณะที่นั่งทานอาหารด้วยกันกับครอบครัวอยู่นั้น ก็ได้มีโอกาสพินิจพิเคราะห์อาคารของศูนย์ประชุมไปด้วย  ก็จะเห็นว่า มีอาคารใหญ่สองหลังแยกออกจากกัน ระหว่างกลางจะมีลักษณะคล้ายอนุสาวรีย์ยอดแหลมคั่นอยู่ ไม่รู้เหมือนกันว่ามันมีไว้ทำไม แต่ที่แน่ๆ มันทำให้กลุ่มอาคารเหล่านี้ดูเด่นเป็นสง่ามากขึ้นอย่างกลมกลืน

            แต่ที่ผมติดตาสะกิดใจมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นซุ้มประตูของศูนย์ประชุม ที่ทำเอาไว้ใหญ่โต ดูเด่นเห็นมาแต่ไกล มันมีด้วยกันสามแท่ง ลักษณะเป็นซุ้มประตูทรงสูง ยอดแหลมคล้ายยอดเจดีย์ มองไปมองมา มันน่าจะเด่นกว่าอาคารหอประชุมเสียอีกนะเนี่ย อย่ากระนั้นเลย เพื่อง่ายต่อความจำและน่าสนใจ ผมจึงเรียกศูนย์ประชุมอันเป็นที่รักยิ่งแห่งนี้ว่า ศูนย์ประชุมด่านเจดีย์สามองค์ เป็นอย่างไรครับ มองเห็นภาพไหม

            เอาเป็นว่าผมชอบก็ละกัน เสียอยู่อย่างหนึ่งซึ่งหลายคนอาจจะเห็นตรงกับผมก็คือ อาณาเขตอันกว้างขวางของศูนย์ประชุมด่านเจดีย์สามองค์แห่งนี้หาต้นไม้ให้ร่มเงาไม่ได้เลยสักต้น นี่ผมยังแอบคิดไปไกลถึงตอนที่ต้องใช้งานจริงๆ เช่นงานรับปริญญา เราคงได้เห็นบัณฑิตเป็นลมเพราะความร้อนบ้างเป็นแน่แท้ แต่ก็นี่แหละครับเมืองไทยบ้านเรา จะสร้างอะไรกันสักที ก็โค่นต้นไม้กันให้ราบคาบ เมื่อสร้างเสร็จก็วิ่งไปหาต้นไม้มาปลูกกันใหม่ เสียเงินกันอีกมากมายก่ายกองกับการซื้อต้นไม้ใหญ่มาปลูก รากแก้วก็หามีไม่ แพงก็แพงระยับ อันนี้ผมก็ยังคงไม่เคยเข้าใจสักครั้งว่า ตกลงตัดต้นไม้ไปทำไม ตอบ..ตัดเพื่อซื้อหรือครับ ผมอาจจะผิดก็ได้น๊า

            ขับรถเลยไปอีกนิด เรียกว่ารั้วติดกัน ท่านก็จะได้เห็นกลุ่มอาคารที่มีรูปทรงทันสมัย สีสันสดใส สลับซับซ้อน (ไม่ซ่อนเงื่อน) นั่นก็คือโรงเรียนมอ.วิทยานุสรณ์ อันเป็นที่รักของกระผมอีกที่หนึ่ง โรงเรียนแห่งนี้สร้างขึ้นมาด้วยลักษณะรูปทรงที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นโรงเรียนมัธยมที่ทันสมัยที่สุดในภาคใต้ (อันนี้กระผมลงความเห็นด้วยตัวเองนะครับ) และลักษณะรูปทรงของโรงเรียนก็ทันสมัยไม่แพ้ชื่อเสียง ความโค้งมนทำได้เรียบง่ายดูกลมกลืน แต่นั่นก็ไม่น่าเตะตาเท่ากับสีของโรงเรียนที่ทาสลับสีสดสดปานลูกกวาด สมกับที่เคยได้ยินเพื่อนๆเล่าให้ฟัง ว่าลูกสาวเขาเรียกโรงเรียนนี้ว่า โรงเรียนลูกกวาด นับว่าเป็นโรงเรียนที่ไม่เหมาะกับเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลและ ระดับประถมเป็นอย่างยิ่ง เพราะนั่นอาจจะทำให้ลูกท่านฟันผุได้ครับ ฮา.....

 

หมายเลขบันทึก: 183266เขียนเมื่อ 19 พฤษภาคม 2008 17:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 พฤษภาคม 2012 21:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

ฮาๆๆๆ ศูนย์ประชุมได้ชื่อเล่นแล้ว บันทึกนี้เป็นบันทึกประวัติศาสตร์เลยนะครับ  เหมือนสมัยรุ่นเราเคยสงสัยว่าทำไมโรงช้างเรียกว่าโรงช้างครับ ต่อไปเด็กรุ่นหลังมาถามว่าทำไมศูนย์ประชุมเรียกว่าศูนย์ประชุมเจดีย์สามองค์ผมก็จะชี้มาที่บันทึกนี้ครับ

นึกว่า มาสร้างไว้ที่เมืองกาญจน์

สวัสดีครับ

ตามอ่านมาก็หลายบันทึก

ขี้เหนียวรูปจังเลย อิๆๆๆ

ล้อเล่นนะครับ...

นึกว่าไปประชุมที่เมืองกาญจน์ เลยตามมาอ่าน อิอิ

สวัสดีครับพ่อต้นไม้

สบายดีนะครับ ได้ข่าวว่าลูกน่ารัก อย่าลืมพาลงมาเดินเล่นสูดอากาศดีๆบ้างนะครับ

เรื่องด่านเจดีย์สามองค์นี่ ถ้าผมจำไม่ผิด รู้สึกเหมือนกับว่า อาจารย์เต็มศักดิ์เป็นผู้เอ่ยขึ้นมาเมื่อครั้งที่อาจารย์ขจิตมาเยี่ยมหาดใหญ่ครับ วันนั้นหลังจากที่เราสังสรรค์กัน ก็ยกโขยงไปหาน้องต้นไม้ไงครับ จำได้ไหม

สวัสดีครับ drrakpong และท่านอัยการ

ถูกผมหลอกเข้าให้แล้วครับ

คุณธวัชชัยครับ

เรื่องรูปนี่เป็นยาขมครับ เพราะว่าเครื่องมันเป็นเต่า Vista ครับ กว่าจะทำรูปได้ซักทีนี่เล่นเอาเหนื่อย

สมาชิกชาวม.อ.ท่านใดมีภาพ ก็ขออนุโมทนาโพสต์เข้ามาช่วยผมหน่อยครับ

คลิกเข้ามาดูนึกว่าอาจารย์ไปประชุมที่พม่า เออที่ด่านเจดีย์ 3 องค์ เขาสร้างเป็นหอประชุมแล้วเหรอ พออ่านแล้วเห็นภาพเจดีย์ 3 องค์ ยอดแหลมสี่ทองเหลืองอร่ามเด่นมาเลย กับโรงเรียนลูกกวาด แม้จะถูกหลอก แต่ก็เห็นด้วย จริง จริง เลยอ่ะ

สวัสดีครับคุณวราภรณ์

ช่วงนี้ไปพม่าไม่ได้ครับ

อยู่หาดใหญ่ตลอดดดดด

สวัสดีครับคุณหมอ

ไม่ได้เข้ามาพูดคุยด้วยตั้งนาน แต่เปิดblogอ่านดูทุกวันครับ

เห็นด้วยกับคุณหมอเป็นอย่างยิ่งครับว่าบ้านเราชอบตัดไม้ใหญ่ก่อนงานก่อสร้างเสร็จแล้วก็ไปซื้อไม้ใหญ่มาตกแต่งประดับบารมี จริงๆแล้ว มอ.มีต้นไม้ใหญ่สวยๆ เพียบเลย ขอเพียงแค่ พวกสถาปนิก วิศวกร และช่างก่อสร้างยอมเสียเวลาและเงินเพิ่มอีกเล็กน้อย ซึ่งผมมองว่าต้องถูกกว่าซื้อใหม่แง่ๆ เราก็น่าจะได้สถาปัตยกรรมที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นครับ

โรงเรียนลูกกวาดก็เหมือนกันดูสดใสด้วยสีสันแต่ขาดสีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อมครับ

คุณหมอได้ข่าวของคุณหมอหน่องมั๊งมั๊ยครับ ตอบมาทางemailผมก็ได้ครับ

สวัสดีครับพี่หนึ่ง

หายไปนานเลยนะครับพี่ เมื่อวานไปรับลูก กะว่าจะทักทายพี่เสียหน่อย แต่ผมรีบออกมาเพราะยุ่งที่โรงพยาบาล เลยเรียกไม่ทัน

เรื่องต้นไม้ พี่ไปเที่ยวต่างประเทศ (ที่เจริญแล้ว) บ่อย น่าจะเห็นด้วยนะครับพี่ ว่าบ้านเรา ชอบตัด บ้านเพื่อนชอบปลูก ต้นไม้บางต้นตะไคร่ขึ้นครื้มเชียว

ตอนนี้พี่ไปดูที่โรงพยาบาลบ้านผมสิ ตัดกันมันส์ไปเลย เขาบอกว่า รากจะไปไชตูดตึก ไปไชบ่อขยะ

ตอนนี้กำลังจะสร้างตึกอุบัติเหตุใหม่ที่หน้าห้างตราดอกบัว ตัดไปจนเหี้ยนแล้วครับ ย้ำนะครับ เหี้ยน

เห็นด้วยกับคุณหมอทุกประการเลยครับเรื่องต้นไม้ ข้ออ้างเรื่องรากต้นไม้จะไปไชตูดตึกนั้นฟังดูดี แต่ถ้าคิดให้ดีๆ ก็ไม่สมเหตุสมผลซักเท่าไร ทำไมเมืองนอกเค้ามีได้ และทีเห็นชัดๆ ก็ใน มอ.นั้นแหละ ตรงตึกผู้ป่วยเก่านั้นหละครับ ต้นไม้ต้นเบ้อเริ่มเลย

ผมว่าพวกผู้รับเหมากับวิศวกรตลอดจนถึงสถาปนิกขี้เกียจมากกว่า คุณคิดแบบเผื่อโน้นเผื่อนี้ได้ตั้งเยอะแยะ กับที่จะเผื่อการทำงานหลีกเหลี่ยงการตัดไม้ใหญ่ทำไมทำไม่ได้ไม่เข้าใจ

ผมว่าถ้าเราสามารถคิดต้นทุนเรื่องเวลาที่ต้นไม้กว่าจะโตเป็นไม้ต้นใหญ่ได้พวกเต้าก็คงไม่กล้าตัดแน่นอน เพราะมันต้องคูณ 2 เลยครับ ต่อที่หนึ่งคือระยะเวลาที่ต้นดั้งเดิมใช้ไป ต่อที่สองคือเวลาที่ต้นใหม่ต้องใช้ แค่นี้ก็บวมแล้วครับ

เห็นด้วยเลยคร๊าบบบบบ พี่หนึ่ง

เอาเว็บมาฝากจ้ะ http://www.psuicc.com/ เผื่อคนอ่านจะได้เห็นภาพด่านเจดีย์สามองค์ :)

ขอบคุณครับแม่ลูกจัน

ชัดเจ๊น ชัดเจน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท