ใจพ่อ


ความรักจากใจพ่อ
           สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน
ที่เข้ามาอ่านการเขียนของผมที่ผมเล่ามาทุกเรื่อง
นี้ ไม่ได้แต่งขึ้นเองจะมาจากการเล่าจากชีวิตจริง
ของเขาทั้งสิ้น เพียงแต่ผมไม่ขอเอ่ยนามจริงหรือ
อักษรย่อ เพียงแต่ท่านผู้อ่านได้รับรู้ไว้ว่าสิ่งที่ผม
เขียนมาจากชีวิตจริงทั้งหมด บางเรื่องที่เขียนเขา
ก็อนุญาติให้บอกชื่อนามสกุลจริงได้ แต่ผมเห็นว่า
ไม่เหมาะด้วยนาๆประการบางเรื่องที่เขาเล่ามา
วันนี้ บางครั้งผมผู้เขียนก็มีน้ำตาคลอเบ้าเหมือน
กันเพราะฟังแล้วมีความรูู้้สึกว่า น่าเห็นใจ อย่าง
เรื่องที่ผมกำลังจะให้ท่านสัมผัสนี้ก็เช่นเดียวกัน
            เมื่อวานนี้เองครับเขาระบายให้ผมฟังผู้
เล่าๆ ว่าผมมีลูกหลายคน มีลูกผู้หญิงคนหนึ่ง
กับภรรยาคนแรก แล้วแยกทางกันเพราะเขาไปมี
สามีใหม่ผมก็เลี้ยงลูกสาวคนนี้ ผมก็ส่งเสีย
ให้้เรียนจนจบชั้นสูง และฝากงานให้ทำอย่างมี
หน้ามีตาทำได้ประมาณ หนึ่งปีแล้วลาออกจากงาน
ที่ทำเพื่อที่จะแต่งงาน พ่อก็จัดงานเรื่องแต่งงานให้
ตามความต้องการของลูกเรียก เงินแปดหมื่น
บาทกับทองสี่บาท ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีงาน
เรียบร้อย ส่วน เงินแปดหมื่นบาทกับทองสี่บาท
ผมไม่รับไว้เลยก็บอกลูกว่าสินสอดทองหมั้นทั้ง
หมดนี้ พ่อขอยกให้ลูกเพื่อลูกจะได้ไปทำกินกัน
เพื่ออนาคตของครอบครัวลูกเพราะต่อไปเองจะ
ต้องมีลูกมีเต้า เมื่อถึงตอนนั้นลูกเองเกิดมาจะได้
ไม่ลำบากนะลูก แล้วผมก็ได้ผ้าขาวม้ารับไหว้มา
หนึ่งผืน
             จากวันนั้นเวลาผ่านไปสามปีลูกสาวผมก็มี
ลูกสองคนในระยะเวลาสามปีที่เขาแยกครอบ
ครัวไปนั้นก็นานๆจะมาหาผมสักครั้ง แต่ทุกครั้งที่
มาไม่เคยเลยที่จะซื้อหาของติดไม้ติดมือมาให้
ผมเลยแต่เคยมีลูกเขยผมเอาเหล้ามาให้ผม สอง
ขวดที่ลูกผมมาหาก็มีแต่เรื่องเดือดร้อนแต่ที่ผม
จะเล่าให้ฟังก็มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาออกรถมาใหม่ มา
หาพ่อก็บอกว่าพ่อลูกขอยืมเงินสักสามหมื่นบาท
เถอะพ่อเพราะมีความเดือดร้อนเรื่องเงินมาก
เพราะค่างวดรถไม่ได้ผ่อนมาสามเดือนแล้วและค่า
ใช้้จ่ายทางบ้านก็ไม่พอใช้พ่อช่วยลูกด้วยเถิด พ่อ
ก็อึ้งมากที่ลูกต้องได้รับความเดือดร้อนก็บอกลูก
ไปว่าลูกใช้จ่ายอย่างไรทำไมไม่ดูแลเรื่องเงินให้ดี
ผัวเองก็รับราชการ ทำไมไม่ช่วยกันละลูกรู้ไหม
ระยะเวลาสามปีที่ลูกจากพ่อไป ลูกมาหาพ่อแต่ละ
ครั้งลูกไม่เคยซื้อหรือหิ้วของมาฝากและ เงินก็ไม่
เคยมาให้พ่อเลย และพ่อเวลานี้พ่อก็อายุมากแล้ว
และก้ยังมีลูกกับเมียใหม่อีกสองคนพ่อก็ต้องเลี้ยง
ตัวเองและครอบครัวเหมือนกัน แล้วลูกจะมาเอา
อะไรกับพ่ออีก เมื่อวันที่ลูกูแต่งงานกัน ครั้งนั้นพ่อ
ก็ไม่ได้หักเงินสินสอดทองหมั้นจากลูกเลย พ่อก็
ให้เองเอาไปทำมาหากินก่อร่างสร้างตัวแล้วเองยัง
จะมาเอาอะไรกับพ่ออีกลูกต้องเข้าใจพ่อด้วย อย่า
ว่าพ่อไม่มีน้ำใจหรือว่าพ่อไม่รักลูกไม่ได้นะ ลูก
ต้องเข้าใจพ่อด้วย ทุกวันนี้พ่อพ่อก็ประหยัด
ยอมอดอยู่ทุกวันแล้ว เอาอย่างนี้เองไปยืมเงินป้าสิ
ป้าเขามีเงินลูกสาวผมบอกว่าเคยไปเอาเงินป้าเขา
มาแล้วสามหมื่นบาทยังไม่ได้คืนให้เขาเลยและ
อย่างนี้ลูกจะไปเอาเงินเขาอีกได้อย่างไร ถ้าอย่าง
นั้นพ่อก็ช่วยไม่ได้ ผมก็เลยให้เงินเติมน้ำมันไป
หนึ่งพันบาท แต่ใจผมก็ยังนึกสงสารลูกอยู่ตลอด
เวลาแต่ถ้าผมเอาเงินที่ผมเก็บไว้แล้วให้ลูกสาวผม
ไปแล้วลูกผมกับภรรยาคนใหม่เขาจะคิดอย่างไร
        นี่คือเรื่องจริงที่เขาเล่าให้ผมฟัง ขณะที่ผู้เล่า
เล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังผมแทบเก็บความรู้สึกไม่อยู่ผม
ต้องกลั้นความรู้สึกตัวเองไว้มากๆเพราะผู้ที่เป็นพ่อ
เล่าเรื่องนี้บอกว่าผมไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง
เลยผมเพิ่งจะเล่าเรื่องนี้ให้พี่แก้ว(ชื่อผู้เขียนครับ)
ฟังเป็นคนแรก
        เพราะฉะนั้นที่ผมจับความที่เล่าให้ฟังนั้นที่น่า
สังเกตุก็คือลูกผมไม่เคยให้อะไรผมเลยหมายถึง
ว่าเวลาที่ผ่านไปไม่เคยเลยที่จะหยิบยื่นอะไรให้ผม
เลยไม่ว่าจะเป็น *เงินหรือสิ่งของ นี่หรือลูกที่ผม
เลี้ยงมา แต่พี่แก้วรู้ไหมพอลูกผมขับรถออกไป
ผมก็ต้องขับมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านเหมือนกัน
แล้วไปนั่งร้องไห้ ที่ไม่มีคนเห็นเพราะสงสารลูก
แต่ให้ผมทำอย่างไรได้ผมต้องตัดใจแต่ผมก็อด
เป็นห่วงลูกผมไม่ได้ผมนั่งร้องไห้อยู่นาน แล้ว
เหตุการต่างๆของผมก็ผ่านไปด้วยดีแล้วผมก็ขับ
รถกลับบ้าน
            เหตุผลผู้เล่าไม่ให้เงินเพราะเคยเอาไป
แล้วไม่เอามาคืนและผมก็อายุมากแล้วถ้าวันไหน
ผมป่วยขึ้นมาจะเอาเงินที่ไหนในเมื่อเขาก็ไม่เคย
ให้ผมเลย อีกอย่างหนึ่งเขาก็มีผัวคอยดูแลและรับ
ราชการด้วยลูกผม ผมก็รักแต่ผมต้องทำใจผม
หวังว่าพี่แก้วเข้าใจผมไหมที่ผมนำเรื่องครอบครัว
ผมมาเล่าให้ฟังผมก็บอกว่าที่เล่ามาทั้งหมดนี้ผม
เข้าใจแล้ว และผมจะขอนำเรื่องที่เล่าให้ผมฟังนำ
ไปเขียนทางอินเตอเนทได้ไหม ผู้เล่าบอกว่าผม
ยินดีนำให้พี่แก้วนำเรื่องของผมไปเขียนได้และที่
ผมเล่าให้พี่แก้วฟังนี้ผมสบายใจขึ้นมากเลยเพราะ
ผมเก็บเรื่องนี้ไว้นานแล้ว
                    วันนี้ผมขอจบเพียงเท่านี้ครับผมหวัง
ว่าสิ่งที่ผมได้ฟังมาแล้วนำมาถ่ายทอดให้ท่าน
ได้อ่านคงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับก็
เป็นบทเรียนและเป็นอุธาหรณได้เป็นอย่างดี ผม
ไม่มีีข้อสรุปมันมีบทสรุปอยู่ในตัวของบทความนี้
แล้วทั้งหมด
           สำหรับวันนี้สวัสดีครับ และอย่าลืมนะครับ
ถ้าท่านมีเรื่องที่จะเล่าหรือระบายความในใจของ
ท่านเองหรือมีเรื่องราวประสบการณ์ที่ผ่านมานำ
มาเล่าสู่กันฟังได้นะครับผมยินดีที่จะนำเขียนนำ
เสนอครับ
          ขอให้คุณพระคุ้มครองทุกท่านให้มีความ
สุขอย่าเจ็บอย่าจนครับ
สวัสดีครับ
จาก แก้ว สาริกา
0818255736     

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 181532เขียนเมื่อ 10 พฤษภาคม 2008 08:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ตุลาคม 2014 07:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท