วงจรแห่งชีวิต


การเกิดกับการดับนั้นเป็นสิ่งเดียวกัน ... การเกิดของสิ่งหนึ่ง ก็คือการดับของอีกสิ่งหนึ่ง..

ฤดูใบไม้ผลิ เป็นฤดูการแห่งการเกิดของวงจรชีวิตของพืชพรรณต่างๆ ก็คงคล้ายๆ กับหน้าฝนในบ้านเรา ที่พอฝนตกหลังจากหน้าแล้ง ต้นไม้ใบหญ้าต่างๆ ก็ฟื้นคืนชีวิต ผลิดอกออกใบกันขึ้นมาให้ชื่นชม เป็นการเริ่มต้นของวัฎจักรชีวิต

มาอยู่ต่างประเทศในช่วงเวลาที่ได้เห็นชีวิตเกิดขึ้นมาใหม่จากต้นไม้ที่ดูเหมือนตาย นับเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ได้สะท้อนความคิด ให้ได้เห็นการเกิดอีกครั้ง หลังจากความแห้งแล้งเสมือนตายในช่วงหน้าหนาว

อาจารย์ Lin Hui ได้กรุณาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในบันทึก ดอกไม้งามฤดูใบไม้ผลิ ว่า ดอก Magnolia ที่ดิฉันชอบมากๆ นั้น เป็นดอกไม้ในตระกูลเดียวกับดอกมณฑา ซึ่งเป็นดอกไม้ที่สำคัญในพุทธประวัติ  ดอกมณฑา เป็นดอกไม้ในตระกูลเดียวกับดอกจำปา จำปี และยี่หุบ มีกลิ่นหอม

Magnolia soulangiana หรือ Saucer Magnolia

ต้น Magnolia ออกดอกจำนวนมากในช่วงเวลาแห่งการเกิดนี้

 


ดอกไม้ทิพย์แห่งเมืองสวรรค์ที่ชื่อ มณฑา หรือ มณฑารพ นั้น ในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ว่า ก่อนที่พระพุทธองค์จะเสด็จปรินิพพาน ได้ตรัสกับพระอานนท์ว่า ...

"ดูกรอานนท์ ไม้สาละทั้งคู่ เผล็ดดอกบานสะพรั่งนอกฤดูกาล ร่วงหล่นโปรยปราย ลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา แม้ดอกมณฑารพอันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ ดอกมณฑารพเหล่านั้น ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา แม้จุณแห่งจันทน์อันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ จุณแห่งจันทน์เหล่านั้น ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา ดนตรีอันเป็นทิพย์เล่า ก็ประโคมอยู่ในอากาศ เพื่อบูชาตถาคต แม้สังคีตอันเป็นทิพย์ก็เป็นไปในอากาศเพื่อบูชาตถาคต"

"ดูกรอานนท์ ตถาคตจะชื่อว่าอันบริษัทสักการะ เคารพ นับถือ บูชา นอบน้อม ด้วยเครื่องสักการะประมาณเท่านี้หามิได้ ผู้ใดแลจะเป็นภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก หรืออุบาสิกาก็ตาม เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตามธรรมอยู่ ผู้นั้นย่อมชื่อว่าสักการะ เคารพ นับถือ บูชาตถาคต ด้วยการบูชาอย่างยอด เพราะเหตุนั้นแหละอานนท์ พวกเธอพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ประพฤติตามธรรมอยู่ดังนี้ฯ"

...

"หลังจากพระพุทธองค์เสด็จสวรรคตแล้ว พระมหากัสสปะเถระ ซึ่งอยู่ที่เมืองปาวา ได้ทราบข่าวว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับที่เมืองกุสินาราหลายวันแล้ว จึงตั้งใจจะไปเฝ้าพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์บริวาร 500 รูป ขณะที่กำลังเดินทางไปเมืองกุสินาราอยู่นั้น ได้หยุดพักหลบแสงแดดอยู่ใต้ร่มไม้ข้างทาง ได้เห็นนักบวชนอกศาสนาคนหนึ่งซึ่งมาจากเมืองกุสินารา ถือดอกมณฑารพเดินสวนทางมา พระมหากัสสปะซึ่งเวลานั้น ยังไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ก็นึกสังหรณ์ใจ เพราะดอกมณฑารพเป็นดอกไม้ทิพย์ ที่ไม่มีในโลกมนุษย์ และจะปรากฏเฉพาะตอนที่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นกับพระพุทธเจ้า เช่น ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน วันจาตุรงคสันนิบาต วันที่ทรงแสดงพระธัมมจักกัปปวัตนสูตร เป็นต้น ซึ่งเทพเทวดาจะบันดาลให้ดอกมณฑารพตกลงมาจากเทวโลก พระมหากัสสปะจึงได้สอบถามข่าวคราวของพระพุทธองค์จากนักบวชผู้นั้น ซึ่งได้รับคำตอบว่าพระพุทธเจ้าเสด็จสู่ปรินิพพานมา 7 วันแล้ว และดอกมณฑารพนี้ก็ได้มาจากสถานที่ที่พระองค์ปรินิพพานนั่นเอง..."

คัดลอกมาจาก http://www.dhammajak.net


พอไปค้นคว้าเกี่ยวกับดอกมณฑาในพุทธประวัติ ก็ทำให้ได้คิดว่า..

การเกิดกับการดับนั้นเป็นสิ่งเดียวกัน

การเกิดของสิ่งหนึ่ง ก็คือการสิ้นสุดของสิ่งหนึ่ง 

การผลิดอก ออกใบ ก็คือการสิ้นสุดของฤดูกาลแห่งความแห้งแล้ง และเช่นเดียวกัน เมื่อดอกไม้เหี่ยวเฉา หลุดร่วงลงจากต้น ก็คือการเกิดของใบอ่อนอีกครั้ง พอเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ที่เคยเป็นใบเขียวสวยงาม ก็คงจะหลุดร่วงตายจากต้นไป.. กลับเข้าสู่ฤดูหนาวอันแห้งแล้งอีกครั้ง ครบวงจรแห่งชีวิต...

ทุกวัน ทุกเวลา มีวงจรของการเกิดแก่เจ็บตายเกิดขึ้นในตัวเรา และรอบๆ ตัวเราตลอดเวลา เพียงแต่เราต้องมองให้เห็น เมื่อเห็นแล้วก็มิใช่สักแต่เห็น แต่สร้างปัญญาด้วยการทำความเข้าใจในความเป็นจริงของการเกิดดับนั้นๆ

หมายเลขบันทึก: 175078เขียนเมื่อ 4 เมษายน 2008 04:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:54 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (25)

ถูกใจครับ "การเห็นในเห็น"

เห็น แรก นั้น เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่มีประสาทสัมผัส รูปธรรมเห็นส่งผลไปถึงการรับรู้และเกิดความรู้สึก อารมณ์ ชอบ ไม่ชอบ

เห็น หลัง คือการเข้าลึกสู่วงจร วัฒจักรของสรรพสิ่ง แม้ความสวยงามที่หลากหลายและเป็นที่ปรารถนาขแงมนุษย์ทั่วไป อ้อมันเช่นนั้นเอง....

การเห็น หลัง ช่วยให้เรา มีทัศนคติที่ถูกต้องมากขึ้นต่อการ เห็น แรก

สวัสดีค่ะ

แวะมาชมดอกไม้สีชมพู และมาอ่านความเป็นจริงของสรรพสิ่งบนโลกนี้ค่ะ เพียงเราเข้าใจ เราก็จะมีความสุขกับสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่นะคะ

ขอบคุณมากค่ะ (^_^)

สวย สงบ สงัด เย็นตา เย็นใจ

เมื่อไหร่หนอจะกลับบ้านเรา

เอารูปมาฝากเยอะๆ นะอาจารย์

ธรรมะคือธรรมชาติ...ธรรมชาติคือธรรมะ...สาธุ

สวัสดีค่ะพี่บางทราย

การเกิดดับของสรรพสิ่งมีอยู่ในทุกขณะจิตในทุกเวลา เราต้องมองให้ลึกเข้าไป ไม่ติดอยู่กับเพียงเปลือกนอกเท่านั้น..

การเกิดดับนี้เป็นเครื่องเตือนให้เราเห็นถึง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ได้ตลอดเวลาเลยนะคะ

ขอบคุณที่แวะมา ลปรร ค่ะ ^ ^

สวัสดีค่ะคุณดอกไม้ที่ปลายดอย

ใช่ค่ะ..เพียงแต่เรารู้และเ้ข้าใจในธรรมชาติของสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะเห็นดอกสีชมพู เห็นใบสีเขียว หรือใบสีน้ำตาล ไม้กระทั่งไม้ที่เหมือนตาย.. เราก็ยังเห็นความงามของธรรมชาติอยู่ดี ..

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมและ ลปรร เสมอนะคะ ^ ^

สวัสดีค่ะพ่อครู

อีกไม่นานก็จะกลับบ้านเราค่ะ พ่อครู.. อีก ๓ เดือนเท่านั้น..

อยู่ที่ไหนไม่สุขใจเหมือนอยู่เมืองไทยบ้านเราค่ะ

ขอบคุณพ่อครูที่แวะมาเยี่ยมนะคะ ดีใจค่ะ ^ ^

สวัสดีค่ะ อ.พิสูจน์

ไม่ได้ไปเยี่ยมที่บันทึกนานเลยค่ะ ^ ^

เห็นด้วยจริงๆ ค่ะ ว่าสิ่งที่พระพุทธองค์ท่านสอนนั้น เป็นสิ่งที่ท่านเรียนมาจากธรรมชาติ และนำมาสอนให้พวกเรารู้จักเรียนรู้จากธรรมชาิติเช่นกัน ..

ขอบคุณอาจารย์ที่แวะมา ลปรร นะคะ ^ ^

สวัสดีค่ะ

พี่มีความรู้สึกอย่างเดียวกับอาจารย์ ตอนเห็นการเปลี่ยนแปลงของฤดุกาล

ทุกอย่างคือธรรมชาติ ไปฝืนธรรมชาติไม่ได้ค่ะ และไม่มีอะไรคงที่ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณพี่ศศินันท์

การเปลี่ยนแปลงก็คือการเกิดดับนั่นเอง เป็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดไปพร้อมๆ กัน เดี๋ยวนี้มองอะไรก็จะเห็นการเกิดดับมากขึ้น ดูแล้วก็พยายามน้อมใส่ตัว ให้เห็นการเกิดดับของสิ่งต่างๆ ในตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นในเชิงกาย หรือใจด้วยค่ะ ^ ^

ขอบคุณที่แวะมา ลปรร นะคะ

  • ตามมาจากสวนดอกไม้ ของพี่ดอกแก้วค่ะ
  • ได้พบดอกไม้สวย ในสวนสงบของอาจารย์ บานอยู่เต็มblogเลย  สวัสดีค่ะ

สวยจริงๆครับ ดอกสีชมพูกระทบแสงเเดด มองแล้วจรรโลงใจดี

ในวันนึง มีหลายชีวิตถือกำเนิดมา และอีกหลายชีวิตได้ล้มตายไป

สวัสดีค่ะคุณดอกไม้น้อย

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนะคะ ดีใจที่ได้พบกัลยาณมิตรอีกหนึ่งท่านค่ะ ไม่รู้ว่าได้แวะไปดูดอกไม้ที่บันทึกอื่นๆ แล้วหรือยัง ถ้ายังเชิญได้ที่นี่นะคะ

ดอกไม้งามฤดูใบไม้ผลิ

ดอกไม้งามฤดูใบไม้ผลิ ภาค ๒

ธรรมชาิติอันสวยงามยามฤดูใบไม้ผลิ

เทศกาลซากุระบาน ที่วอชิงตัน ดีซี

ขอบคุณที่แวะมา ลปรร ค่ะ ^ ^

สวัสดีค่ะคุณ aonjung

ช่วงนี้ดอกไม้สวยๆ มีมากเลยค่ะ ตอนนี้ทิวลิปกำลังเริ่มบาน สวยจริงๆ อะไรก็ตามที่เป็นธรรมชาิติมักมีความสวยงามซ่อนอยู่เสมอ แต่ก็เป็นธรรมชาิติอีกเช่นกันที่ความสวยงามหรือสิ่งต่างๆ ไม่มีความยั่งยืน ^ ^

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมนะคะ

ผมนำภาพการเจริญเติบโตของน้องแตงกวามาฝากครับ พวกเขาล้วนต้องมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วเขาก็จากไปเหมือนกันครับ

สวัสดีปีวันสงกรานต์ครับ

 

สวัสดีค่ะพี่ตุ๋ย

เบิร์ืดเดินเข้ามาเป็นรอบที่ 3 ด้วยความชื่นบานในใจค่ะ

และมาขอพรร่วมกับอวยพรวันสงกรานต์ค่ะ ขอให้พี่ตุ๋ยพร้อมครอบครัวมีความสุข สดชื่น สดใส เบิกบานในทุกย่างก้าวของชีวิตตลอดไปนะคะ

สวัสดีค่ะน้องกบ

ขอบคุณสำหรับภาพวงจรชีวิตน้องแตงกวานะคะ

กำลังนึกถึงเฟสของต้องแตงกวาตอนโดนคนกิน เสร็จแล้วโดนย่อยไปเป็นสารอาหารและออกมาเป็นกากอีกที จากดินสู่ดิน อิอิ ^ ^

สวัสดีวันสงกรานต์เช่นกันค่ะน้องกบ

สวัสดีค่ะคุณน้องเบิร์ด ^ ^

แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนกัน แค่นี้ก็ดีใจแล้วล่ะค่ะ ^ ^

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะคะ ขอให้น้องเบิร์ดและครอบครัวมีสุขภาพดี มีความสุขมากๆ เช่นกันนะคะ

ปีนี้เป็นสงกรานต์ที่ไม่ร้่อนจริงๆ ออกจะหนาวๆ ด้วยซ้ำ อิอิ คิดถึงรดน้ำแล้วมือเย็นเจี๊ยบเลยค่ะ ^ ^

สวัสดีข้ามหลักธรรมครับ อาจารย์กมลวัลย์ :)

  • ผมเคยเห็น "ต้นสาละ" และดอกของมันแล้วครับ ... ผมมีความรู้สึกว่า มันดูแปลกประหลาด และคิดในใจว่า นี่หรือคือ ดอกไม้ในพุทธประวัติ
  • เหมือนว่า ผมเคยถ่ายภาพได้ที่วัดพระรอด เมืองลำพูน จะมีอยู่ในวัดต้นเดียว
  • อีกที ถนนหน้าวัดใหญ่ เมืองพิษณุโลก ... บริเวณฟุตบาทริมตลิ่งที่ใกล้ ๆ ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ถามคนพิด'โลก น่าจะทราบดีครับ
  • แต่รู้สึกประทับใจกับดอกสาละมาก ๆ และคิดว่า คงมีหลักธรรมที่จะสอนได้หลายประการ ดั่งเช่นที่อาจารย์ได้เล่ามาในบันทึกธรรมนี้

ขอบคุณครับ :)

สวัสดีวันสงกรานต์ค่ะอ.วสวัตฯ

เคยเห็นดอกและต้นสาละเหมือนกันค่ะ เป็นต้นและดอกที่แปลกดีจริงๆ นะคะ อาจารย์ทำให้นึกได้ เลยไปโหลดขึ้นมาไว้ที่ gotoknow เลย

ต้นนี้ถ่ายจากวัดพระสิงห์ที่เชียงรายค่ะ ถ้าจำไม่ผิดมีสองต้น แต่ไม่แน่ใจค่ะ วันนั้นไปโชคดีกำลังมีดอกใหญ่บานพอดี ต้นก็ใหญ่มากด้วยนะคะ ทางวัดเอาไม้ค้ำไว้เลยล่ะค่ะ ดอกที่ถ่ายมานี้เป็นดอกที่ย้อยลงมาที่โคนต้นน่ะค่ะ แต่ถ้าสังเกตดูที่ต้นจะเห็นว่าออกดอกเป็นจำนวนมากเลยนะคะ ^ ^

เวลานึกถึงดอกไม้แล้วถวายเป็นพุทธบูชาทีไร ก็เกิดปิติทุกครั้งไปค่ะ

ขอบคุณอาจารย์ที่แวะมาลปรร นะคะ

สวัสดีครับ

ตามมาซึมซับความประทับใจในความเกิดและดับ

จริงทีเดียวครับ ถ้ามองเห็น ก็จะรู้

ธรรมชาติก็ยังคงเป็นเช่นนั้น ไม่เคยปิดบังมนุษย์เลยครับ

บางครั้งก็รู้ว่า เป็นเราเองที่ไม่ได้ดูอย่างตั้งใจ จึงไม่เห็น

ผมเคยอยู่ที่สวิส ก็ได้เห็นธรรมชาติ

พอไปอยู่ที่อินเดีย ก็ได้เห็นธรรมชาติ

ไม่ต่างกันเลยครับ

ในขาวมีดำ

ในดำมีขาว

เกิดธรรมสังเวชครับ

สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ

ลืมบอกไปนิดนึงค่ะว่าดอกสาละที่ถ่ายมาเป็นสาละลังกานะคะ ไม่ใช่สาละอินเดียค่ะ

สวัสดีค่ะคุณพลเดช

เห็นด้วยมากๆ เลยค่ะ ว่าบางครั้งตัวเองก็มองอะไรผิวเผินเกินไป ใช้เวลาทำความเข้าใจน้อยจนเกินไป ไม่ค่อยใส่ใจกับความเป็นจริงหรือธรรมชาิติ แต่เอาใจใส่กับเรื่องผิวเผินเปลือกนอกกันมากกว่า คงเป็นเพราะว่ามองเห็นได้ชัีด มองได้ง่าย เลยติดอยู่กับกายภาพกันไปเป็นส่วนใหญ่ มองไม่เห็นคุณค่าความเป็นจริงภายใน

แต่พอได้ฝึกฝนระยะหนึ่ง ความละเอียดในการดูก็เกิดขึ้นนะคะ พอเห็นและเข้าใจกับวงจรต่างๆ บ้างแล้ว ก็เริ่มเกิดปัญญา คราวนี้มองไปทางไหน ก็เห็นแต่สภาวะธรรมจริงๆ

อย่างที่คุณพลเดชกล่าวไว้นะคะ ในขาวมีดำ ในดำมีขาว ล้วนแล้วแต่เป็นแสงมากระทบสายตา หากแสงหมดไป หรือหลับตาลงก็ไม่มีแล้ว

สุขสันต์วันสงกรานต์เช่นกันค่ะ ^ ^ ขอบคุณที่แวะมา ลปรร นะคะ

เพิ่งจะเข้ามาอ่านค่ะ

พี่ว่าเวลาอยู่ต่างประเทศเราจะเห็นชัดเจนมากในการที่ฤดูหนึ่งสิ้นสุดลงและฤดูใหม่กำลังเริ่มขึ้น ในเมืองร้อนค่อนข้างจะไม่แตกต่างกันมากนักในแต่ละฤดู อย่างบ้านเรามีคนพูดว่ามีสามฤดู คือฤดูร้อน ฤดูร้อนมาก และฤดูร้อนที่สุด ^___^

เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นอย่างนี้ในทุกสรรพสิ่ง

วิปัสนาจารย์ท่านได้สอนให้พี่เห็นสิ่งนี้จากการเดินจงกรม เห็นวัฏจักรเลยค่ะ

ภาพดอกแมกโนเลียสวยมาก และเรื่องราวพุทธประวัติเมื่อได้อ่านอย่างมีสาระเช่นนี้ปิติสุขค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะพี่นุช

ดอกแมกโนเลียตอนนี้ร่วงไปหมดแล้วค่ะ ใบเต็มต้นเลย ^ ^

ดอกอื่นๆ มีเพิ่มขึ้นมาเยอะเลยค่ะ ไม่รู้จักทั้งนั้น ฮา..

ถ่ายรูปไว้บ้าง และพึงรำลึกเสมอถึงไตรลักษณ์ค่ะ

จริงๆ แล้วที่บ้านริมน้ำพี่นุชก็มีวงจรธรรมชาติอยู่เยอะนะคะ ทั้งน้ำขึ้น น้ำลง น้ำหลากเอย.. เห็นแล้วให้ปลงดีค่ะ (แต่เป็นการปลงแบบงดงามค่ะ ^ ^)

ขอบคุณที่แวะมาลปรร นะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท