วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ทั้งวันผมต้องนั่งอยู่ที่วิทยาลัยอิสลามศึกษา มอ.ปัตตานี แต่ที่ต่างจากสองวันที่ผ่านมาคือ วันนี้ไม่ต้องพูดมาก เนื่องจากเป็นการนำเสนอโครงการวิจัยให้ท่านคณะกรรมการพิจารณา ซึ่งผมได้รับโอกาสดีๆ ในการเป็นหัวหน้าวิจัยหนึ่งเรื่องจากโครงการชุดของวอศ. ซึ่งมี ผศ.ดร.อิบราเฮ็ม ณรงค์รักษาเขตเป็นหัวหน้าชุด
งานวันนี้เริ่มต้นจากโครงการของ อ.เฮ็ม เองครับ มีประเด็นที่น่าสนใจมากจากการนำเสนอของอาจารย์ แต่ดูเหมือนคณะกรรมการจะไม่สนใจจะคิดต่อ เพราะเขามีบล็อกทางความคิดประการหนึ่งที่ผมเห็นจากการแสดงความคิดเห็นของคณะกรรมการ ท่านอาจารย์เสนอไว้ ซึ่งผมขอนำเสนอโดยสรุปด้วยภาษาของผมดังนี้ครับ
"มีรายงานผลการวิจัย และข้อคิดเห็นอย่างเป็นทางการมากมายว่า การสอนในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามที่ให้นักเรียนเรียนทั้งสามัญและศาสนาเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณภาพการศึกษาในพื้นที่นี้ตกต่ำ ทำให้นักเรียนเรียนหนักกว่านักเรียนที่อื่น ระบบการจัดการศึกษาแบบนี้ไม่ดี แต่เชื่อหรือไม่ ว่าปัจจุบันโรงเรียนมัธยมของรัฐเอกก็พยายามจะดำเนินการจัดการศึกษาแบบเดียวกับโรงเรียนเอกชนฯ อันเนื่องจากเป็นสิ่งที่สังคมที่นี้ต้องการ คำถามคือ ถ้าการจัดการศึกษาแบบนี้เป็นปัญหา ทำไมโรงเรียนรัฐต้องเดินมาแนวทางนี้อีก และทำไมจึงปฏิเสธการค้นหาแนวทางใหม่ที่ดีกว่านี้ แนวทางใหม่คือ การบูรณาการแบบสมบูรณ์ระหว่างเนื้อหาวิชา"
คนทั่วไปมักนิยามคำว่า อิสลามศึกษา ว่าเป็นเรื่องของความรู้ทางด้านศาสนาอย่างเดียว ซึ่งนั่นแหละครับที่เป็นความผิดพลาด และทำให้เราย่ำอยู่ในโคลนตมตลอดมา
อ.ยูโซ๊ะ ตาเละ พยายามนำเสนอในที่ประชุมว่า มุมมองนี้เป็นปัญหาสำหรับการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ และมุมมองนี้ไม่ได้รับการยอมรับในการจัดการศึกษาของโลกมุสลิม
การบูรณาการเนื้อหาวิชา โดยต้องเริ่มจากการพัฒนาหลักสูตรใหม่ เพราะหลักสูตรคือแม่แบบของการจัดการศึกษา หากไม่เปลี่ยนหรือไม่พัฒนาหลักสูตรใหม่ที่นำเสนอภาพของการบูรณาการที่ชัดเจน การจัดการศึกษาสำหรับโรงเรียนเอกชนฯ ก็คงไปไหนไม่ไกลกว่านี้แล้วครับ
คณะกรรมการท่านแสดงความคิด (ซึ่งผมว่าเป็นเค้าลางความล้มเหลว) ว่า หลักสูตรนี้พัฒนาเสร็จก็คงไม่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการครับ
ถ้าในมุมมองผม ผมมองแย้งกับความคิดเห็นนี้ครับ ถ้าการพัฒนาหลักสูตรนี้โดยใช้เกณฑ์ของกระทรวงเป็นฐาน และสอดคล้องทุกประการ จะมีสาเหตุอะไรที่กระทรวงจะไม่รับรองอีกครับ
นั่นงานวิจัยของอาจารย์เฮ็มครับ ส่วนงานวิจัยผม มีข้อเสนอแนะว่า มีผู้ที่ร่วมในการประชุมครั้งนี้ คือ ดร.นินาวัลย์ (แต่หัวหน้าโครงการคือ รศ.ดร.ชุมศักดิ์) ทำไปแล้วคล้ายๆ กัน เสร็จประชุมผมเลยได้ไฟล์วิจัยชิ้นนี้มา ซึ่งเมื่อเอามาอ่านดู ผมก็พบขอเดาว่า ผมยังทำได้อีกครับด้วยเหตุผลที่ว่า น่าจะเป็นคนละแนวกัน คำตอบของผมน่าจะได้ต่างจากของ ดร.นินาวัลย์ อย่างน้อยสุด ถึงแม้ว่าในวิจัยชิ้นนั้นจะระบุว่า นำหลักการของศาสนาอิสลามมาเป็นฐาน แต่ที่ผมอ่านไปทั้งเล่มผมยังไม่เจอหลักการจัดการศึกษาในอิสลามและหลักการจัดการเพื่อสร้างคุณภาพมาใช้เป็นกลไกในการออกแบบงานวิจัยเลย (เจอแต่ในชื่อวิจัย และความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการศึกษาในอิสลาม มิใช่หลักการจัดการศึกษาและหลักการบริหารจัดการในอิสลามเลย) อีกประการหนึ่ง การปรุงอาหารไม่จำเป็นต้องใช้สูตรเดียวกัน ผมว่าบางทีสูตรผมอาจจะอร่อยและถูกใจลูกค้ามากกว่าก็ได้ ใครจะไปรู้ คนทำงานวิจัยคนแรกไม่ได้หมายถึงว่าจะถูกต้องเสมอไป และคนถัดไปก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีสิทธิทำซ้ำอีก เห็นด้วยมัยครับ
แก้ไขเพิ่มเติมครับ นำรูปของการประชุมวันที่สองมาให้ชมกัน
มาเยี่ยม...คุณจารุวัจน์
การพิจารณาให้งบ ฯ
บางทีขึ้นอยู่กับคณะกรรมการพิจารณา ถ้าเขาเห็นด้วยก็ผ่านนะครับ
ขอบคุณครับอาจารย์ umi ที่แวะมาเยี่ยม
รอบนี้นำเสนอหลักการและวิธีการวิจัยครับ ยังไม่พิจารณางบประมาณ แต่เบื้องต้นโครงการในชุดของวอศ. (ที่ผมได้ร่วมด้วย) น่าจะไม่มีปัญหาอะไรครับ ปรับนิดหน่อย
สวัสดีค่ะ อ.จารุวัจน์
ขอบคุณครับอาจารย์ขจิตและอ้อยควั้นที่แวะมาเยี่ยม
เรื่องของหลักสูตรบูรณาการในพื้นที่นี้ คงเป็นหนังยาวครับอาจารย์
ดีใจและตื่นเต้นครับที่อาจารย์ในเครือข่ายนักวิจัย สกว.เรามี blogใช้เทคโนโลยีมาร่วมกันถกความรู้กันครับ ก่อนอื่นต้องขอกล่าวความในใจก่อนนะครับว่าที่ได้เจออาจารย์เสนอความคิดเห็นในวงประชุมในครั้งแรกๆ ทางเราก็ทึ่งและปลื้มในตัวอาจารย์ไม่น้อยและดีใจที่จะได้ร่วมงานกัน ผมได้อ่านข้อความข้างบนแล้วครับจริงๆแล้วมีอะไรที่ยังไม่เข้าใจกันในบางอย่างเลยอยากขอโอกาสแสดงความเห็นร่วมกันนิดหน่อย
1. "มีรายงานผลการวิจัย และข้อคิดเห็นอย่างเป็นทางการมากมายว่า การสอนในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามที่ให้นักเรียนเรียนทั้งสามัญและศาสนาเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณภาพการศึกษาในพื้นที่นี้ตกต่ำ..." อ
อันนี้ผมบอกได้เลยครับว่าไม่เป็นความจริง แต่ถ้าเด็กต้องเรียนหนักอันนี้เป็นปัญหาที่เราต้องช่วยกันแก้ครับแต่ผลการเรียนตกต่ำเพราะการเรียนศาสนานี่เท่าที่ เราทำงานวิจัยกับครูที่ภาคใต้มายังไม่พบนะครับ แต่ในทางกลับกันเด็กกลับมีผลการเรียนที่ดีขึ้นอีกด้วย (ถามอาจารย์อาไซน่าดูได้ครับ) 2.ความคิดเห็นของอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิก็เป็นเพียงความคิดเห็นครับ เป็นการรับข้อมูลหลายๆด้านที่จะทำให้งานวิจัยคมขึ้นชัดขึ้น สุดท้ายอยู่ที่ตัวงานวิจัยเองว่าจะออกแบบอย่างไร ตอบคำถามงานวิจัยได้หรือไม่ และที่สำคัญอาจารย์ผู้ทำวิจัยเองเป็นผู้ที่คลุกคลีอยู่กับพื้นที่มากที่สุดนั่นหมายถึงเป็นผู้ที่รู้มากที่สุดในเรื่องนี้ก็ว่าได้ 3.จากประสบการณ์นะครับ งานวิจัยหลายๆชิ้นที่เคยทำมาก็ยึดข้อมูลทางวิชาการกับความเป็นจริงในพื้นที่เป็นหลักเราไม่เคยยึดประเพณีนิยมของกระทรวงใดๆครับ สุดท้ายความจริงและข้อมูลความรู้จากงานวิจัยจะเป็นตัวบอกเองครับว่าเรามาถูกทางหรือไม่ และผมคิดว่างานของอาจารย์หลายๆท่านที่เสนอมาจะเป็นนวัตกรรมทางการศึกษาที่ดีครับ สุดท้ายนี้ยังยืนยันเหมือนเดิมครับว่าเราดีใจที่มีอาจารย์เข้ามาร่วมกันทำงานเพื่อการศึกษาเพื่อบ้านของเราครับ ขอเป็นกำลังใจในการทำงานของอาจารย์นะครับ *ขอโทษครับที่ยาวไปนิด ทีมวิจัยสถาบันรามจิตติขอบคุณมากครับคุณสรรชัย ผมมองว่า หลายครั้งที่อิสลามศึกษาถูกมองเป็นจำเลยครับ อะไรไม่ดีก็โทษอิสลามศึกษาแล้วกัน และการนำอิสลามศึกษามาสู่ห้องเรียนปัจจุบันก็ไม่ใช่เพราะอิสลามศึกษาคือคำตอบ แต่เป็นเพราะนำมาเพียงเพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับบางจุดประสงค์
ผมยินดีเช่นกันครับที่ได้ร่วมงานนี้ครับ