เมื่อวันที่ ๑๙ มี.ค. ๕๑ สภามหาวิทยาลัยมหิดล เชิญ ผศ. นพ. เอื้อพงศ์ จตุรธำรง และ รศ. นพ. ทวี เลาหการ ผู้รับผิดชอบประสานงานการจัดการเรียนการสอนหมวดวิชาศึกษาทั่วไปของ นศ. ปี ๑ จำนวน ๓,๐๐๐ คน ของมหาวิทยาลัยมหิดล มาเล่าวิธีการจัดการเรียนการสอนในส่วนหนึ่งของหมวดนี้ ซึ่งจัดเป็นปีแรก เป็นนวัตกรรมของการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาความเป็นมนุษย์ ที่น่าชื่นชมมาก
ในการออกแบบการเรียนรู้ ได้ใช้ความหมายของคำว่า “การศึกษาทั่วไป” ที่พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตโต) ให้ไว้ ว่าหมายถึง การศึกษาเพื่อยกระดับจิตใจ ศึกษาความรู้ทั่วๆ ไป เพื่อพัฒนาคนให้เป็นมนุษยที่สมบูรณ์ - เป็นบัณฑิต ในการจัดการเรียนเอาคนเป็นหลัก ไม่ใช่เอาวิชาเป็นหลัก เอาคุณภาพคนเป็นเป้าหมาย
ได้นำเอาหนังสือ ๒ เล่ม ที่แต่งโดยพระพรหมคุณาภรณ์ มาจัดพิมพ์เป็นเล่มเดียวกัน ให้ชื่อว่า “การศึกษาทั่วไปเพื่อสร้างบัณฑิต” ใช้เป็นหนังสืออ่านประกอบรายวิชานี้
จัดให้เรียนแบบปฏิสัมพันธ์ ตอนปลายเทอมมีการนำเสนอ เรียนแบบวิเคราะห์กรณี ศึกษา เรียนให้เกิดปัญญา เกิดอิสรภาพ ความสุข เรียนการนำเสนออย่างมีประสิทธิผล มีการทำโครงงานกลุ่ม และนำเสนออย่างมีประสิทธิผล
การนำเสนอในวันนี้ เสนอด้วย PowerPoint ประกอบเสียง เราจึงได้เห็นพลังที่เกิดขึ้นจากการเรียนรู้แบบใหม่ ที่เป็น case-based learning, team-based learning, การเรียนรู้โดยการทำโครงงาน, learn by presentation เป็นการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์และใช้ศักยภาพของนักศึกษาที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก
เรื่องการศึกษาทั่วไปนี้ เป็นขบวนการ หรือความเคลื่อนไหวใหญ่ของวงการอุดมศึกษาไทย ทุกมหาวิทยาลัยดำเนินการเรื่องนี้ ในแผนอุดมศึกษาระยะยาวก็มีระบุไว้ ปัญหาหลักจะอยู่ที่การจัดการ ว่าทำอย่างไรจะทำให้เกิดการเรียนรู้ที่มีชีวิตชีวา เกิดความสุข แล้วทีมของมหาวิทยาลัยมหิดลก็ได้ทดลองและค้นพบ
อ. หมอประเวศ เล่าว่า ท่านเพิ่งไปพูด keynote ให้ เครือข่ายการศึกษาทั่วไปอุดมศึกษาไทย เมื่อวันที่ ๑๘ มี.ค. ๕๑ ที่ มช. ผมลองค้นด้วย Google พบข้อมูลการประชุมนี้ดังนี้ http://www.eqd.cmu.ac.th/AcademicMeeting/Default.asp และมีเว็บไซต์ของเครือข่ายนี้ ที่ http://www.genednetwork.or.th/index.htm จึงได้เห็นภาพความเคลื่อนไหวของวงการอุดมศึกษาไทยที่น่าชื่นชม จากผลการค้นนี้พบว่า มก. มีสำนักงานจัดการศึกษาทั่วไป และมีการจัดกิจกรรมร่วมกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ อ่านได้ที่ http://www.gened.chula.ac.th/download/seminarge50.doc จุฬาฯ จัดให้มีเครือข่ายวิชาการศึกษาทั่วไป และมี เว็บไซต์ โดยเฉพาะ อ่านได้ที่http://www.gened.chula.ac.th/cms/index.php?id=73&L=1 มข. จัดให้มีสำนักวิชาศึกษาทั่วไป อ่านได้ที่ http://gotoknow.org/post/tag/การศึกษาทั่วไป สรุปว่าเพราะ สกอ. กำหนดเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี ให้ต้องมีหมวดวิชาการศึกษาทั่วไป ๓๐ หน่วยกิต มหาวิทยาลัยต่างๆ จึงลุกขึ้นมาจัดทำเรื่องนี้
เรื่องนี้ก็เหมือนเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย ที่หลักการดี แต่เวลาปฏิบัติก็ดีบ้างไม่ดีบ้าง เรื่องวิชาการศึกษาทั่วไป หัวใจอยู่ที่การปฏิบัติ หรือการจัดการเรียนรู้ให้สนุก และมหาวิทยาลัยมหิดลก็ค้นพบวิธี เข้าใจว่ามหาวิทยาลัยอื่นอีกหลายแห่งก็คงมีการค้นพบดีๆ ด้วยเช่นกัน การนำวิธีการที่ได้ผลดีมาเล่าเรื่อง ลปรร. กัน จึงมีค่ามาก
แม้ค้นพบวิธีการจัดการเรียนรู้ที่ดี นักศึกษาชอบ ก็ไม่ใช่ว่าความคึกคักของวิชานี้จะยั่งยืน เพราะมักมีปัญหาที่อาจารย์ต้องมารับภาระเพิ่ม เคล็ดลับของความยั่งยืน คือต้องจัดให้นักศึกษาก็สนุก อาจารย์ก็สนุก และ rewarding สำหรับอาจารย์ด้วย reward อย่างไร เป็นเรื่องของฝ่ายจัดการของมหาวิทยาลัย
ผมมองว่า มีโอกาสพัฒนาวิธีจัดการเรียนรู้ของหมวดวิชาศึกษาทั่วไปได้อีกมากมาย เช่นการจัดให้บูรณาการเข้ากับชีวิตประจำวันในหอพัก การจัดร่วมกับค่ายอาสาของนักศึกษา จัดร่วมกับวิชาอื่นๆ ที่เน้นเนื้อหา เป็นต้น
มหาวิทยาลัยมหิดลน่าจะนำเรื่องราววิธีการจัดการเรียนรู้ หมวดวิชาศึกษาทั่วไป ที่ประสบความสำเร็จนี้ ขึ้นเว็บ เพื่อ ลปรร. กับมหาวิทยาลัยอื่น และเพื่อบอกผู้ปกครองนักเรียนว่า หากเขาส่งลูกที่สมองดีของเขาเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยมหิดลจะจัดการเรียนรู้ที่ขยายความดีและความเก่งของลูกของเขาอย่างไร
วิจารณ์ พานิช
๒๐ มี.ค. ๕๑
ไม่มีความเห็น