สายน้ำเซ
ยามเมื่อแลงลงแล้ว แลล่ำลำเซ
เห็นเป็นโงเงคด ป่องทางเทียวน้ำ
แนมล่องลำเซกว้าง กลางวังใสส่อง
ลมไล่ฟองเฟือดน้ำ แนมแล้วเล่าซะออน
มีทั้งคอนทั้งแก้ง หินโง่นงามตา
ฝูงหมู่ปลาล่องลอย เลียบนะทีเทียวน้ำ
เสียงสาวลำเลาะน้ำ หาควายแคมฝั่ง
ควายหลั่งลงแมบน้ำ นอนซ้องแซ่เย็น
เซหากเป็นแปวน้ำ ไหลผ่าลงมา
ผ่าท่งนาโนนภู ผ่านกายกลางบ้าน
บางด่านกายพากพื้น ภูเพียงไกลแก่ว
น้ำหากใสเกิ่งแก้ว กินใช้สะอาดดี
(ภาพจากloeitech.ac.th/it50/auto/mana/images/changkranjpg)
มาดูศัพท์ที่น่าจะยากครับ
1. เซ : ลำน้ำใหญ่กว่าห้วย แต่เล็กกว่าแม่น้ำ ส่วนมากใช้เรียกทางประเทศลาว ในไทยจะเรียกทางจังหวัดอุบลราชธานี เช่น เซบก เซบาย เซเป็ด เมืองปากเซชื่อก็บอกที่ตั้งอยู่แล้ว เป็นต้น
2. โงเง : คด โค้ง ไม่ตรง (ไม่เหมือนโงนเงน)
3. ป่อง : ช่อง ทาง รอยแยก เช่น ป่องเยี่ยม/ป่องเอี้ยม : ช่องหน้าต่าง
4. เฟือด : น้ำกระฉอกเรียกว่าน้ำเฟีอด บางถิ่นว่าเฟียด เช่น เพิ่นหาบน้ำบ่เก่งน้ำเลยเฟียดออกจากครุถังเกือบหมด
5. แนม : มองดู 6. ซะออน สะออน : ดื่มด่ำใจ ชอบใจ
7. คอน : ร่องน้ำลึก ถ้ามีสันดอนกั้นอยู่ทำให้ร่องน้ำลึกมีสองข้าง เรียกว่า สองคอน
8. แก้ง : แนวหินที่กั้นและโผล่ขึ้นมากลางลำน้ำ แก่งก็เรียก
9. หินโง่น : หินก้อนใหญ่ ๆ คนหัวใหญ่ ๆ ก็เรียกหัวโง่น
10. ลำ : ร้อง ขับลำนำ ในที่นี้คือร้องหมอลำ
11. เลาะ : เลียบ ๆ ใกล้ ๆ เลาะน้ำ คือเดินเลียบลำน้ำ
12. แคม : ข้าง ๆ,ใกล้ ๆ (เคียม ก็ว่าได้) 13. แมบ : แนบ (แมบน้ำ : แนบน้ำ)
14. แปว : ช่อง รู 15. ท่งนา : ทุ่งนา 16. กาย : ผ่าน เลยไปข้างหน้า
17. ภูเพียง : ที่ราบสูง อย่างภาคอีสานของไทย ลาวโบราณเรียกรวม ๆ ว่า ภูเพียงโคราช
18. แก่ว : เขต แดน ถิ่น เช่น เขตแดนของคนนั้นก็เรียก แก่วของคนนั้น.. ไกลแก่ว คือ ถิ่นไกล
19. เกิ่ง : ครึ่ง กลาง เท่ากัน (ใสเกิ่งแก้ว หมายถึง ใสปานแก้ว ใสเท่ากับแก้ว)
ภาพลำเซยามเย็น(แลง) ของลาวเป็นยังไงบ้างครับ น่าภิรมย์อะไรจะปานนั้น มีทั้งความคดโค้งของลำน้ำใส มีแก่งหิน มีปลา มีสาวเลี้ยงควายเอ่ยลำกล่อมคุ้งน้ำ วรรคสุดท้ายบอกให้รู้ว่าลำเซที่ใสปานแก้วนั้น ไหลผ่านที่ราบสูงมาถึงหมู่บ้านของพวกเขาให้ผู้คนได้กินได้ใช้สะอาดดี.
ขอบคุณครับครูชา
ผมคงหลับฝันดีแน่ครับคืนนี้
ได้บทกลอน ชมลำเซ ขับกล่อม
คิดถึงลำน้ำนานที่เมืองนานครับ
สวัสดีครับ
สวัสดียามดึกครับ อ. paleeyon ครับ
ดีใจที่บทกวีลาวบทนี้จะทำให้ท่านหลับฝันดีครับ
อยากไปเห็นสิ่งที่ท่านเห็นที่เมืองนาน คงม่วนใจหลายนะครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับครูชา
ครูชาครับ ครูเชื่อใหมว่ามีสิ่งหนึ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์เผ่าพันธ์อื่น ความสุนทรีย์ ไงครับ ความสุนทรีย์มีในมนุษย์ทุกเผ่าพันธ์ไม่ว่าจะพัฒนาแล้วหรือกำลังพัฒนา ผมเห็นภาพนี้ตอบตัวเองไม่ได้ว่าเมื่อไรจะมีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของความสุนทรีย์นี้ แต่มองอีกมุมหนึ่งถ้าภาพนี้มีผมเป็นองค์ประกอบ ภาพอาจขาดความเป็นสุนทรีย์ก็เป็นได้
สวัสดีครับครูชา เปิงบ้าน
สวัสดีค่ะ คุณครูชา
อยากได้ฟ้อนต์ลาวจังค่ะ
เรียน คุณครูชา
บทกวีชิ้นนี้ไพเราะมากครับ แสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งของภาษาและผญาของคนเชื้อสายลาว น่าเสียดายที่คนไทย ทั้งเยาวชนไทยอีสานปัจจุบันและไทยภาคอื่น สนใจศึกษาน้อย จึงขาดสุนทรียะทางภาษาและวรรณคดี เพราะถ้าหากศึกษากันจริง ๆ แล้ว ภาษาลาวคือต้นเค้าและยังรักษารากศัพท์ของภาษาไทยโบราณไว้ได้มาก เช่น คำว่า "ทุกค่ำเช้าและเพลางาย" คำว่า "งาย" เขาแปลไม่ออกแล้วครับ ว่าหมายถึงอะไร ขอบคุณที่นำเรื่องดี ๆ มานำเสนอครับ
เรียน คุณครูชา
- ผมเห็นด้วยกับคุณครูครับว่า หมอลำเรื่องต่อกลอน โดยเฉพาะแถวขอนแก่นไม่ได้รักษา "ศิลป์แสดง" แบบเดิมไว้ ทั้ง "วาดลำ" "วาดฟ้อน" ดูแล้วก็น่าเป็นห่วง ว่าต่อไปถ้าไม่ศึกษาของเดิมไว้ จะหาผู้รู้มาเชื่อมหรืออธิบายไม่ได้ว่ามัน "แป่" ไปอย่างไร ยิ่งหมอลำเป็นศิลป์ด้านภาษาดั้งเดิม ถ้าไม่เป็นหลักให้กับสังคมอีสานได้ ก็ไม่รู้จะไปหา "มูลเค้า" ได้ที่ไหน ที่ยังเหลือความหวังอยู่บ้าง ก็คือ ฝั่งบ้านพี่เมืองน้องของเรา คือ ลาว ภาษาเก่า ๆ ที่คงความหมายดี ๆ ไว้ ยังพอให้เราได้สืบค้นอ้างอิงได้บ้าง อย่างที่คุณครูนำมาเสนอในที่นี้แล้ว ขอชื่นชมครับ และคืนนี้ ผมก็จะนำคณะไปทัศนศึกษาด้านดนตรีที่เวียงจันทน์ประมาณ 5-6 วัน เพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ เพราะอยู่ไทย "โดน" เดี๋ยวลืมชาติครับ (ฮา)
- ขอบคุณที่ให้เกียรตินะครับ ผมได้เข้าไปอ่านบ้างแล้ว รู้สึกว่าภาษายากมาก และเป็นเรื่องการเมืองการปกครอง ไม่ค่อยถนัด ผมก็เลยขอผ่านไปก่อน แล้วจะหาโอกาสศึกษาดูครับ
แวะมาเยี่ยมครูชา
ผมศึกษาประวัติศาสตร์ภาคอีสานเนื่องจากว่าทำไมที่นี่ถึงมีวัฒนธรรมเหมือนคนฝั่งนั้น
ในที่สุดผมก็ได้ทราบประวัติศาสตร์ที่แท้จริง มรดกอารยธรรมสองฝั่งโขง
มีความรักกันอย่างสุดซึ้ง มีวรรณกรรมฝากไว้เป็นของขวัญให้กับพวกผมรุ่นหลังได้อ่าน
น่าประทับใจมากเลยครับ
ฮักแพง