การตระหนักว่า "ทำแล้วได้อะไร" ให้ผลดีกว่า "ทำเพื่ออะไร" หรือไม่นะ


มีหลายๆเรื่องที่เรารู้ว่าดี แต่เราไม่ทำ และหลายอย่างที่ไม่ดี แต่เราก็ยังเลิกไม่ได้

วันนี้เผอิญได้เปิดอ่านหนังสือของ WHO ที่พูดถึงการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพ ในแง่ของโรคต่างๆที่เกิดจากการดำเนินชีวิตของเราเอง ใครๆก็รู้ว่า ควรจะกินอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ครบหมู่ ออกกำลังกาย ดื่มเหล้าแต่น้อย ไม่สูบบุหรี่ แต่เราก็ยังมีอัตราของคนเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้นทั่วโลก

ทำให้คิดถึงว่า บางครั้ง การที่คนเรารู้ว่า ทำแบบนี้แล้วดี เฉยๆอาจจะไม่พอ ต้องชี้ให้เห็นว่า ทำแล้วได้อะไร ไม่ทำแล้วเสียอะไร ด้วย มีเรื่องต่างๆในชีวิตประจำวันอีกมากมายที่ถ้าเราคิดมากขึ้น มีการเตือนกันมากขึ้น เราอาจจะทำให้คนทำสิ่งที่ดีที่ถูกต้องมากขึ้นไหม แต่ต้องลงรายละเอียดให้มาก อย่าเพียงแต่ ให้หลักการ ตั้งกฎเกณฑ์

เช่น การใส่หมวกกันน้อคขี่มอร์เตอร์ไซค์ การดื่มเหล้าแล้วขับรถ หรือเรื่องใกล้ๆตัวคนห้องแล็บก็เช่น การไม่ดื่ม กินอาหารในห้องแล็บบริเวณที่มีการจัดการกับ sample การใส่ถุงมือทุกครั้งที่จับต้องสิ่งส่งตรวจ การใส่เสื้อกาวน์ การใส่รองเท้าที่ปิดมิดชิด ฯลฯ เรื่องของการดำเนินชีวิต อย่างเช่น การลดละความโกรธ การให้อภัย การปล่อยวาง

เขียนเอาไว้ เพราะเรื่องนี้ค้างอยู่ในหัวค่ะ แต่ยังรู้สึกว่าตัวเองสื่อสารไม่ได้อย่างใจเลย มีใครพูดถึงเรื่องแบบนี้ไว้ที่ไหนบ้างไหมคะ ใครรู้ช่วยบอกทีนะคะ  

หมายเลขบันทึก: 162203เขียนเมื่อ 29 มกราคม 2008 23:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 พฤษภาคม 2012 16:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ผมสังเกตว่าอะไรที่ไม่เกิดผลตอนนั้นเลย อาทิเช่น กินเหล้า สูบบุหรี่ คนจะมีข้ออ้างที่ยังจะทำต่อไปอีกทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ดีครับ

ส่วนอะไรที่มีโอกาสจะไม่เกิด ไม่ว่าจะกี่เปอร์เซนต์ก็ตาม เราก็จะใช้เปอร์เซนต์เหล่านั้นมาเป็นเหตุผลที่จะไม่ทำ ทั้งๆ ที่หากเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว แม้มีโอกาสน้อย ก็จะหนักหนาสาหัส อาทิเช่น การใส่หมวกกันนอค เป็นต้นครับ 

สวัสดีครับ

            ผมว่าอุปสรรคที่สำคัญ คือ ความเคยชินครับ

           และก็อีกอย่าง   ทำอะไรตามใจ  คือ  ไทยแท้   ครับ

                 (คงอ้างไม่ขึ้นหรอกนะครับ เป็นนิสัยส่วนตัวมากกว่า)

 

                                 ขอบคุณครับ

สวัสดีครับพี่โอ๋

           การดื่มเหล้าแบบที่ อ.ธวัชชัยว่า  แนะนำให้เด็ดยอดมันเทศที่ยังมียางของยอดมันติดอยู่นะครับ แล้วจุ่มลงในเหล้าครับ รับรองว่าได้ผลแน่นอนครับ  อันนี้ผลชัดเจนเลยหล่ะครับ ว่ากันว่าได้ผลชัดเจน เพราะมันจะเป็นยาเบื่อไปเลยครับ เลือดเป็นพิษแล้วก็จบเกมส์

           ผมว่าเรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องแปลกและขัดแย้งครับ แต่มองกันอีกทีการแพทย์จะพัฒนาได้ก็เพราะเชื้อโรคมากนี่หล่ะครับ ดังนั้นทางการแพทย์ต้องขอบพระคุณคนสูบบุหรี่ ไม่งั้นเราจะไม่พบกับโรคมะเร็งปอด ทางการแพทย์ก็จะรับรู้ว่าเกิดจากอะไร  ดื่มเหล้าตับแข็ง ก็เช่นเดียวกัน

           ดังนั้น เราอาจจะต้องให้ใบประกาศเกียรติคุณกับผู้ป่วยทุกท่านที่เจตนาป่วยเพื่อให้การแพทย์พัฒนาขึ้นนะครับ คือมีข้อดีปนด้อยอยู่ในตัวเสมอ  ลองดูซิครับ เวลาใครเสียชีวิตด้วยโรคเหล่านี้ ลองให้ใบปริญญาก็น่าจะดีครับ แล้วขอรับบริจาคศพก็ได้ครับ นำไปศึกษาต่อครับ อาจจะเป็นบุญกุศลให้กับนักศึกษาไว้ศึกษากันต่อไป เพื่อให้กรณีต่างๆ ครบถ้วน

พี่สบายดีนะครับผม เข้ามาทักทายแบบนี้นะครับ ยิ้มๆ ครับ 

สบายดีค่ะ คุณเม้ง ยุ่งกายมากกว่าเพราะมีเวลาน้อยกว่างานที่อยากทำน่ะค่ะ

ขอบคุณ อ.ธวัชชัย อ. small man และคุณน้องเม้งมากค่ะที่มาแลกเปลี่ยน เห็นผลแล็บบ่อยๆทุกวันแล้วอยากเอามาชี้ให้คนเห็นและระวังกันมากๆน่ะค่ะ รู้สึกว่าเราต้องตามแก้ปัญหาที่ควรจะทำให้มันลดลงได้อย่างมากด้วยการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนเราเองเท่านั้น แสนง่ายแต่ไม่มีใครค่อยนึกถึง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท