ขโมยเข้าบ้านอีกแล้ว เมื่อเช้ามืดวันที่ ๑๒ นี้เอง ดิฉันเพิ่งขึ้นมาจากนครศรีธรรมราชเมื่อคืนวันที่ ๑๑ เพื่อมาประชุมที่สภาการพยาบาลในเช้าวันที่ ๑๒ ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ แต่พอตื่นเช้าจะเอาโทรศัพท์มือถือมาชาร์จแบตเตอรี่ ปรากฏว่ากระเป๋าถือที่วางอยู่บนตู้หนังสือในห้องนอนหายไป พร้อมโทรศัพท์และนาฬิกาข้อมือที่วางอยู่ข้างๆ
ตรวจสอบพบรอยเท้าคนเข้า-ออกประตูห้องจากระเบียงหน้าบ้าน ซึ่งตอนนอนไม่ได้เปิดแอร์จึงเปิดกระจกปิดไว้แต่ประตูมุ้งลวด แขกไม่ได้รับเชิญจึงเข้า-ออกได้สบาย มีรอยเท้าปีนป่ายไปยังบ้านหลังที่อยู่ติดๆ กัน
ดิฉันเป็นคนที่กลัวลืมนั่นลืมนี่ เลยเอาทุกอย่างใส่กระเป๋าถือหมด ทั้งกุญแจรถ กุญแจบ้าน ๒ ที่ กุญแจห้องทำงาน ในกระเป๋ายังมีโทรศัพท์มือถือของมหาวิทยาลัยอีก ๑ เครื่อง ที่ตอนมาคิดจะเอาเก็บไว้ที่บ้านพักที่ มวล. แต่ไม่รู้เป็นอย่างไรถือติดมาอีก รวมทั้งกล้องดิจิตอลที่พกติดตัวตลอดเวลา ในกระเป๋าสตางค์ยังมีสารพัดบัตรอีกหลายใบ เข้าใจว่าคงสูญหมด กังวลอยู่แต่รถยนต์ที่ใช้อยู่ที่นครศรีธรรมราชซึ่งมีรีโมทจะต้องไปไขกุญแจอย่างไร คุยกับเจ้าหน้าที่บริษัทรถยนต์ เราปิดระบบกันขโมยเองทำยากนะ (แต่ทำไมเวลาโจรขโมยรถทำแป๊บเดียวได้รถไปเลย)
สายๆ บ้านที่ถัดไปอีก ๒ หลัง (ทาวน์เฮาส์) แจ้งว่าพบกระเป๋าอยู่ที่ระเบียงบ้านของเขา ไปดูก็ใช่เลย กระเป๋าของเราเอง มองดูเห็นบัตรต่างๆ ที่สอดอยู่ที่กระเป๋าสตางค์อยู่ครบ ของที่หายคือเงินสด (จำนวนมากเหมือนกัน) โทรศัพท์มือถือ ๒ เครื่อง นาฬิกาข้อมือ ขโมยคงรีบมากจึงไม่เห็นกล้องดิจิตอลที่อยู่ในกระเป๋า และช่องซิปต่างๆ ไม่ได้ถูกเปิด (ถ้าเปิดก็คงไม่รูดปิดไว้หรอก)
ตามปกติเวลามีเงินสดเยอะหน่อยดิฉันจะแยกเก็บไว้ในช่องซิปของกระเป๋าถือ ไม่เอาใส่กระเป๋าสตางค์ใบเล็กทั้งหมด คราวนี้ไม่รู้คิดอย่างไรเอามาใส่กระเป๋าสตางค์ใบเล็กหมดเลย ขโมยจึงเอาไปทั้งหมดได้ง่ายๆ
ตำรวจและกองพิสูจน์หลักฐานมาทำงานกันอีกเช่นเคย แต่คงหวังอะไรไม่ได้ เพราะคุณตำรวจบอกว่า “ขโมยจับยาก ต้องเห็นหลังไวๆ จึงจะจับได้” ฟังแล้วสงสัยว่าคุณตำรวจกับชาวบ้านต่างกันตรงไหน หลักฐานลายมือลายเท้าที่เก็บๆ ไปเอาไปทำอะไรต่อ ตำรวจคิดอย่างนี้ ขโมยก็ได้ใจแน่ๆ ปกติดิฉันชอบดูสารคดีแนวฆาตกรรมสืบสวนสอบสวน จึงเชื่อว่าถ้าตำรวจไทยเอาจริงมีลายมือลายเท้าชัดเจนก็น่าจะจับขโมยได้ อยู่ที่ว่าจะทำหรือเปล่าเท่านั้น
การแจ้งตำรวจใช้เวลาไม่นาน ตำรวจจาก สน.โชคชัยก็มากันหลายคน แต่ที่ต้องรอนานเป็นชั่วโมงก็คือหน่วยเก็บหลักฐาน เห็นว่าต้องมาจากปทุมวัน เวลาตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุเจ้าของบ้านต้องทำใจกันหน่อย เพราะท่านทั้งหลายจะไม่ค่อยระมัดระวังเท่าไหร่ เที่ยววางของไปทั่วแม้แต่บนเตียงนอน เสร็จงานแล้วเราต้องทำความสะอาดกันยกใหญ่
อคติที่พบเมื่อเกิดเหตุขโมยคือทั้งตำรวจและเพื่อนบ้านจะพูดกันว่าสงสัยคนงานก่อสร้างบ้าง นักโทษที่ถูกปล่อยตัวออกมาบ้าง น่าเห็นใจคนพวกนี้เหมือนกันนะ
เสียดายเงินและข้าวของอยู่บ้าง แต่ทำใจว่าหาใหม่ได้ คนอื่นที่สูญเสียมากกว่าเราก็มี ที่เจ็บใจคือในเวลาที่ขโมยเข้าบ้านนั้นพ่อแม่ลูกอยู่บ้านกันครบทุกคน ยังโชคดีที่เขาไม่ทำร้ายเรา
ประทับใจการบริการของบัตรเดรดิตธนาคารไทยพาณิชย์ เมื่อเราโทรศัพท์ยกเลิกการใช้บัตร เขาบริการให้อย่างดี พร้อมทั้งบอกเวลาการใช้บัตรครั้งสุดท้าย จำนวนเงินที่ใช้ และยังถามอีกว่ามีบัตรของธนาคารอื่นอีกไหม บอกเบอร์โทรให้และยังโอนสายต่อให้ด้วย
บริการที่ควรปรับปรุงคือของธนาคารกรุงเทพ ที่พอยกเลิกบัตรแล้ว ถามยอดก็ไม่ได้ โอนต่อไปธนาคารอื่นก็ไม่ได้ ความจริงเคย feedback ไปแล้วเมื่อไปใช้บริการที่ธนาคาร ซึ่งต้องรอนานมากๆ ส่วนบริการของธนาคารกรุงไทยก็ยังดี ที่บอกเวลาการใช้บัตรครั้งสุดท้ายและยอดเงินให้ด้วย แต่วิธีการพูดจาแตกต่างจากของธนาคารไทยพาณิชย์ แสดงว่าเขาเน้นการบริการตามที่โฆษณาจริงๆ
โทรศัพท์หายเลยทำให้เบอร์โทรของสมาชิกทั้งหลายหายไปด้วย ใครทราบข่าวช่วยโทรมาหาหน่อยจะได้บันทึกเบอร์ไว้ใหม่ ดิฉันได้ซิมเบอร์เก่ามาแล้ว ลูกสาวมีหน้าที่ไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่และนาฬิกาเรือนใหม่ให้ บอกแม่ได้เปลี่ยนรุ่นโทรศัพท์เพราะโดนขโมยแท้ๆ ไม่เหมือนชาวบ้านเขา
วัลลา ตันตโยทัย
ผมก็ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับที่บ้านเมืองของเรายังมีคนแบบนี้
ขอบคุณคุณครูดอย คุณหมอเกรียงศักดิ์ และคุณไม่แสดงตน เขียนมาก็เป็นการให้กำลังใจแล้วค่ะ มีคนบอกว่าเวลานอนให้เตรียมไม้เตรียมของหนักๆ ไว้ใกล้ๆ ตัว ขโมยเข้ามาจะได้ฟาดเลย แต่ยังไม่กล้าค่ะ เพราะไม่รู้ว่าใครจะเป็นฝ่ายโดนฟาด !
ให้เขามาง่ายๆ ไปง่ายๆ ดีกว่านะคะ
แย่มากเลย เสียใจด้วยนะ อุตส่าห์จะช่วยลดปัญหาโลกร้อนเชียว แล้วจะโทรหาเพื่อmemเบอร์ไว้นะจ๊ะ
ขอบคุณทุกๆ คนนะคะ ความจริงได้เช็ดถูกระเป๋าทั้งข้างนอก-ข้างในนับสิบรอบแล้วหละโต้ง ได้ฟังโต้งทักแล้วเลยตัดใจเอากระเป๋า ๒ ใบนี้วางไว้เฉยๆ ใช้ใบอื่นไปก่อนดีกว่า