ไม้เมืองหนาว

วันที่ 20 พ.ย. 50  วันนี้เดินทางจากสำนักงานเกษตรจังหวัดน่าน ไปกับท่านเกษตรจังหวัด ท่านอาคม   ระเบียบโลก  และนักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 7 ว. (คุณสุจิตต์  จิวงศ์) ซึ่งท่านเคยรับตำบลงอบ ที่หมู่บ้านมณีพฤษ ซึ่งท่านเกษตรจังหวัดจะไปดูงานท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่เคยจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร การท่องเที่ยวเชิงเกษตรเป็นการท่องเที่ยวไปยังพื้นที่เกษตร หรือชุมชนเกษตร เพื่อชมความสวยงามที่อยู่บนพื้นฐานของสภาพแวดล้อมที่ชุมชนช่วยกันอนุรักษ์ไว้ตลอดจนวัฒนธรรมชองชุมชนนั้น ๆ  แต่ก็ต้องชะงักลงเพราะว่า สภาพการเดินทาง และสภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านและธรรมชาติ ซึ่งมีการทำลายธรรมชาติมาก ทำให้มณีพฤษไม่เหมือนเดิม ความงดงามที่เคยเหมือนเมื่อก่อนนั้นหายไป การจะกลับไปพัฒนาก็ต้องใช้งบประมาณมาก ชุมชนรุกเข้าพื้นที่ป่าเพื่อทำกินและมีการตัดไม้ทำลายป่าภูเขามีแต่ต้นไม้เล็ก คือ กล่ำปลี การที่จะทำให้มณีพฤษกลับมาเป็นท่องเที่ยวเชิงเกษตรต้องใช้เวลามากและทุนในการลงทุนสูง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชุมชนที่มีส่วนร่วมทำให้สภาพป่าฟื้นคืนชีพ ต้องร่วมมือกันเพื่อหาแนวทางแก้ไขให้มณีพฤษฟื้นคืนสภาพดังเดิม คือมีอากาศหนาวตลอดปี ซึ่งเป็นที่เดียวที่มีถ้ำน้ำหายเขาไปในถ้ำ  ต้องขอบคุณท่านเกษตรอำเภอทุ่งช้าง คุณสุวสันต์ นะครับที่ท่านเป็นผู้นำทางเพื่อจะพาไปดูพื้นที่ที่ท่านรับผิดชอบ และเป็นแหล่งเดียวของจังหวัดน่านที่มีการปลูกท้อ และลูกพลับ และสาลี่ ซึ่งเป็นไม้เมืองหนาว ซึ่งเราต้องนำเข้าจากต่างประเทศปีละหลายล้านบ้านนะครับ ครับเก็บมาเล่านะครับ

[หนุ่ม ร้อยเกาะ]

• เมื่อก่อน บ้านมณีพฤษ์ คือ สวิสเมืองไทยเชียวนะ
• ถ้าเป็นอย่างนั้น น่าเสียดายครับ
• ฝากความคิดถึง พี่ตุ๊ สุจิค ด้วยครับ