บทเรียนของแม่..จากละครเรื่อง บัลลังก์เมฆ


บัลลังก์เมฆ เดอะมิสิคัล

วันที่ 28 ตุลาคม 2550 ดิฉันมีโอกาสได้ไปดูละครเวทีครั้งแรกในชีวิต  ที่ Rachalai

โรงละครที่นี่ จะค่อนข้างออกแนวสูง ทำให้เราสามารถมองดูการแสดงได้ชัดเจน ไม่มีการบังตากันให้รำคาญ..แต่ต้องระวังคนที่กลัวความสูง ต้องซื้อบัตรราคาแพง จะได้นั่งในที่ไม่สูงมากนัก

บัลลังก์เมฆ เป็นบทประพันธ์ของ ยุทธนา มุกดาสนิทและวาณิช  จรุงกิจอนันต์  สินจัย เปล่งพานิช เป็นตัวละครที่เดินเรื่อง ในบทปานรุ้ง

ผู้หญิง..สาวสวยรวย  ที่มีชีวิตผกผัน มีแฟนเป็นทหารเรือ คือ..วาสุเทพ แต่เธอเบื่อจึงไปแต่งงานกับผู้ชายเสเพล ชื่อ.. ชูนาม   มีลูกชาย 1 คน ชื่อ..ปานเทพ แต่เพราะความเสเพลของสามี ทำให้ล้มละลาย แม่เธอก็เสียชีวิต

เกื้อ..ผู้ชายที่รักจริงกับปานรุ้ง ถึงแม้จะเป็นคนขับรถ เขาก็รับปานรุ้งไปดูแลและมีลูกชาย 1 คน ชื่อ ปรก ซึ่งแม่ไม่ค่อยสนใจ รักน้อยที่สุด

เธอ..ก็ตั้งปณิธานว่าจะเลี้ยงลูกให้ดี ไม่ให้เป็นเหมือนเธอ เธอจึงทุ่มเททุกอย่าง ส่งลูกเรียนโรงเรียนฝรั่ง ถึงแม้จะอยู่ในภาวะยากจน ทำให้อยู่กับเกื้อต่อไม่ได้

ต่อมาปานรุ้งกลับมาคบกับ วาสุเทพ ซึ่งเขามีภรรยาอยู่แล้ว มีลูกชาย 1 คน  และปานรุ้งเห็นว่าชีวิต ทั้ง ลูกชาย 2 คน จะไม่ได้ดี จึงมาอยู่กับวาสุเทพ  ทำให้ภรรยาของวาสุเทพ เคียดแค้น

ปานรุ้ง..มีลูกชายและลูกสาวกับวาสุเทพ อีก 2 คน ชื่อ..ปกรณ์และปานวาด  ปานรุ้งรักและตามใจมาก

ต่อมาปานรุ้งส่ง ปานเทพ ไปเรียนเมืองนอก เพราะไม่อยากให้พบกับพ่อชูนาม ซึ่งเป็นคนไม่ดี ต่อมาก็ทำให้แม่เสียใจ เพราะเลือกกลับไปหาพ่อ และทำให้แม่เจ็บ สุดทายต้องหนีไปเพราะกลับมาขอเงินแม่และแย่งปืนกันกับน้อง ยองเฉี่ยวมาโดนแม่ แต่แม่ก็ให้เงินลูกหนีไป

ลูกชายคนที่ 2 ลูกชายคนขับรถ แต่รู้อยู่เป็นคนดี อยู่ในกรอบของแม่มากที่สุด เป็นคอยห่วงใยแม่เสมอ

ลูกคนที่ 3 ปกรณ์ เป็นลูกคนสุดท้องที่แม่รัก ทนุถนอม คอยห่วงใย แต่ไปหลงรักผู้หญิง แต่แม่ก็ให้แต่งงานกัน ตอนหลังเข้าใจผิดกัน จนตัวเองยิงตัวตาย ทำให้แม่เสียใจที่สุด ปานรุ้งก็รับหลานซึ่งเป็นลูกปกรณ์ มาเลี้ยง

ลูกสาว ปานวาด ถูกเลี้ยงแบบตามใจ จนตอนหลังเป็นเด็กเกเร ไม่เรียนหนังสือ ติดยาเสพติด และไปชอบกับ..ลูกชายของวาสุเทพกับภรรยาเก่า  ซึ่งเป็นพี่น้องกัน ทำให้เสียใจ.. จนจะเป็นบ้า

จากบทเรียนของ..ปานรุ้ง

ทำให้เรียนรู้ว่าการเลี้ยงลูก ที่บังคับให้ลูกเป็นไปตามที่เราต้องการ ถึงแม้จะปารถนาดี แต่ก็ทำให้เกิดปัญหาได้

หลังจบเราก็ถามลูกสาวเราว่า ได้บทเรียนอะไร จากการดูละครครั้งนี้

ลูกคนเล็กตอบว่า ให้เชื่อแม่..ได้เป็นบางเรื่อง

ส่วนบทเรียนที่ดิฉันได้รับ.. กรรมเห็นทันตาและกรรม..ติดจรวดจริงๆ

คำสำคัญ (Tags): #ละครชีวิต
หมายเลขบันทึก: 143180เขียนเมื่อ 31 ตุลาคม 2007 06:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ความรักของแม่ เป็นสิ่งที่ดี

ควรให้ลูกตัดสินใจ และต้องคอยแนะนำในสิ่งที่ดี

แต่ละคร เรื่องนี้..ทำให้เห็นว่าพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม   ก็มีผลต่อลูกเหมือนกันค่ะ

สวัสดีค่ะ ไม่ได้ดูละครเรื่องนี้ค่ะ ตอนคนชวนก็ไม่ว่างอะไรทำนองนี้แหละค่ะ เห็นเขาว่าแสดงที่รัชดาลัยนี่เวทีปรับปรุงดีกว่าแสดงที่ศูนย์วัฒนธรรมนะคะ

ดีใจที่คุณอุบลได้ไปชม เดินทางมาไกลนะคะ

สวัสดีค่ะ 

ราณีก็ได้ไปดูเหมิอนกันค่ะ สะเทือนอารมณ์มากเลยค่ะ ชอบมาก ๆ นักแสดงทุกท่านแสดงดีมาก ๆ เลย  ราณีต้องน้ำตาไหลเลยค่ะ  คิดถึงแม่จริง ๆ ทำให้ได้แง่คิดหลาย ๆ ด้าน  เสียดายที่รัชดาลัยเธียร์เตอร์ทีนั่งแคบมาก และที่ยืดขาไม่มี นั่ง 2  ชั่วโมงเมื่อยมาก ๆ ค่ะ แต่ที่ศูนย์วัฒนธรรมที่นั่งกว้างกว่า  นอกนั้งที่นี่ดีหมด สวยด้วยค่ะ

P สวัสดีค่ะ

เป็นครั้งแรกค่ะ....ที่ได้ชมละครเวที

พอดีได้เข้ามาทำธุระที่กรุงเทพฯค่ะ

เขาทำได้ดีมากค่ะ

ได้ข้อคิดมากมาย

P  สวสดีค่ะ

ได้บทเรียนของแม่...มากมาย

ทำให้เรากลับมาคิด และปรับใช้กับตัวเองได้

เวทีค่อนข้างชัน  แต่ก็มองเห็นเวทีได้ดีนะคะ

สนุกมากเลยๆๆเลยค่ะ  แอบร้องไห้ด้วย  ถ้ามีอีกคงจะไม่พลาดแน่ๆๆ

สวัสดีค่ะคุณแพต

วันหลัง ถ้ามีละครอีก อย่าลืมชวนไปดูกันอีกนะจ๊ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท