>20< อ่านอย่างไรถึงจะไม่ง่วง
รักการอ่าน
หลาย ๆ ท่านคิดในใจ "นั่นนะสิอ่านอย่างไรถึงจะไม่ง่วง ลองแวะเข้ามาดูหน่อยซิคงจะบอกเคล็ดลับแน่ ๆ" เข้าทางหละท่านที่แวะเข้ามาแล้วช่วยเสนอเคล็ดไม่ลับไว้ด้วยนะคะ ฮ่าๆๆๆ เผื่อท่านต่อไปจะได้มาอ่านเป็นการร่วมด้วยช่วยกันไงคะ แหะ ๆ บันทึกนี้ขอแค่เปิดประเด็น เพราะวันนี้ผู้เขียนประสบปัญหาอ่านหนังสือแล้วง่วงค่ะ การอ่านหนังสือทำให้คนง่วงนอนจริงหรือทำให้นึกถึงคำพูดต่างๆ ที่เคยได้ยินมา 
มีคนเคยบอกว่าถ้านอนไม่หลับให้หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านแล้วจะหลับทำให้หลับง่ายขึ้น
มีคนเคยบอกอีกว่าถ้าช่วงสอบใครอ่านหนังสือแล้วง่วง.........วิธีแก้ง่วงที่ดีที่สุดก็คือ...............การนอน ฮ่า ๆๆๆ อันนี้ใครเคยทำบ้าง ทำบ่อยไม่ดีนะคะ
คนที่เป็นหนอนหนังสืออ่านอย่างไรคะถึงไม่ง่วง
เกิดความสงสัยขึ้นมาทันที่ทำไมเด็กไทยถึงไม่ชอบอ่านหนังสือ เลยลองเข้าไปหาอ่านดู เห็นสถิติตรงนี้
ที่โรงเรียนผู้เขียนมีโครงการรักการอ่านค่ะ มีกิจกรรมที่หลากหลายมาก นำภาพตัวอย่างบางกิจกรรมมาให้ดู
กิจกรรมหยุดทุกงาน อ่านทุกคน วันละ 5 นาที หน้าเสาธง
จะทำอย่างไรคะให้คนไทยอ่านหนังสือกันให้มาก ๆ
ขอบคุณค่ะ
ความเห็น (29)
- ตามมาอ่านโครงการเยี่ยมมากๆๆขอบอก
- ดีใจที่มีโครงการแบบนี้ครับผม
- ขอบคุณครับ
- ไม่นอนอ่านหนังสือ
- ช้อทโน๊ตไปด้วย อ่านไปด้วย
- เมื่อเริ่มง่วงให้เดินอ่าน
- พักสายตาเป็นระยะๆ
- หาของรสเปรี้ยวมากินด้วย
- หาเพื่อนอ่าน
- ได้ประมาณนี้ค่ะ
- อิอิ..หมู่นี้ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือ
- อ่านแต่บล็อกคะ...แล้วมันจะเสียสายตามั้ยนี่
- แต่บล็อกนี่พัฒนาสมองกว่าอ่านหนังสืออีกนะคะ
- เพราะ G2K มีการบ้านให้ไปคิดเรื่อยๆ แถมแตกยอดออกไปได้ด้วยละ
สวัสดีครับ คุณครูรักษ์
- อ่านออกเสียงดังๆ อย่าอ่านในใจ
- หรือไม่ก็ให้คนข้างๆ อ่านให้ฟังครับ..อิอิ
อิคิวซัง...
- ขอบคุณคุณ
มากค่ะ - จัดหนังสือแต่ละชั้นให้เหมาะกับวัย
- และสับเปลี่ยนหนังสือทุกอาทิตย์
- เด็กตั้งใจอ่านดีมากค่ะ
- เพราะครูบอกว่าอ่านเสร็จแล้วบันทึกส่งครูด้วยนะ
- เด็ก ๆ บอกไม่ตั้งใจไม่ได้แล้ว ฮ่าๆๆๆ
- ป้าแดง
- สงสัยจะจริงวันนี้รักษ์นอนอ่านทั้งวัน
- แต่ไม่จบซักที ยิ่งมีเพื่อนยิ่งชวนกันคุย
- เลยปิดห้องอยู่คนเดียว ฮ่าๆๆ ความง่วงจึงตามมา สงสัยต้องเดินอ่าน
- ขอบคุณป้าแดงค่ะ
- คุณนารี
ค่ะ - อยากให้อ่านหนังสือสนุกเหมือนอ่านบล็อกจังเนอะ
- บล็อกได้ความรู้ดีมากแต่มันไม่มีในข้อสอบอะ
- ขอบคุณค่ะ
- ขอบคุณคุณสะมะนึกะค่ะ
- การอ่านออกเสียงดัง ๆ ดีนะคะจะทำให้อ่านหนังสือคล่องด้วย
- แต่เสียดายที่ใช้ได้กับบางสถานที่เท่านั้นค่ะ
- แป๊ว!!! คนข้าง ๆ ไม่มีค่ะ มีแต่คนข้างหลังยังคอย ฮา..
- สำหรับครูอ้อย อ่านแบบ จดไปด้วยค่ะ
- จดหัวข้อ และอธิบายได้ตามหัวข้อนั้นในภายหลัง
แต่ตอนนี้ ทำไม่ได้แบบนั้นแล้วค่ะ....เก่ามากแล้วค่ะ..อิอิ
- ครูอ้อยคะ
- สมัยเรียนก็จะโน๊ตย่อไว้อ่านค่ะ
- สมัยนี้ขีดย่อไว้อ่านค่ะ
- สมัยหน้าเป็นไปตามวาระค่ะ
- มีคนข้างบนท่านแนะนำไว้ครูอ้อยเคยใช้วิธีนี้ไหมคะ
- ให้คนข้าง ๆ อ่านให้ฟัง อิอิ
ขอบคุณครับที่มาเยือน
ภรรยากลับมาแล้ว ลูกสวาวกลับ 18 ตุลา
19 ว่าจะไปของานอาจารย์ขจิต พร้อมลูกสาวและเพื่อน ๆ ลูกสาว
มาเที่ยวปายไหมครับ ยินดีต้อนรับ มาเที่ยวสวนกระท้อนนะครับ
หายเหงาแล้วครับ มีเพื่อน ๆมาเยือนเยอะเลย
ขอบคุณครับ
- สวัสดีค่ะพี่
- ดีใจที่หายเหงา
- คนเมืองปายน่ารักจังเลย
- ขอบคุณนะคะที่ชวน
- ไว้มีโอกาสจะไปชมสวนกระท้อนค่ะ
สวัสดีครับครูรักษ์
- ทุกอย่างก็ต้องมีพัก เช่นพักสายตาเถิดหนาคนดี....
- ผมอ่านหนังสือแค่วันละ สอง-สามชั่วโมง แต่นั่งเขียนแผนการสอนเทอมหน้าวันละห้าชั่วโมงก็มี
- วันนี้มันเหนื่อยจึงร้องไห้ คิคิ ใครไม่อยากร้องเมื่อมันสุดทนไหว
- เหนื่อยก็พัก หนักก้วาง วุ่นก็ไม่ว่าง งั้นถ้ารู้ว่าเหนื่อยก็พักแต่ต้องได้สักวันละ 1-3 ชั่วดมง ถ้าง่วงอ่านแล้วจำไม่ได้จะอ่านต่อทำไม
- ผมชอบอ่านแบบเขียนหัวใจสำคัญหรือหัวข้อสำคัญ จากนั้นก็อ่านไปที่รายละเอียด....
- ศิลปะการอ่านอยู่ที่ว่า อ่านแล้วให้เข้าใจว่าเราอ่านอะไร ใครทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร อย่างไร แยกออกได้เท่าไหร่ อะไรนำมาใช้ได้ อะไรเป็นความรู้ทั่วไป
- ฮือๆๆๆ ถึงเวลาร้องไห้แล้วไปก่อน จะร้องไห้ต่อไปสักระยะ (หัวเราะทีหลังดังกว่า...)
สวัสดีครับ
พักผ่อนให้เพียงพอ ตื่นนอนแล้วอ่านหนังสือ
อย่าอ่านหนังสือ ตอนอ่อนเพลีย
อ่านเรื่องที่ชอบ
ตำราเรียน อย่านอนอ่าน
อย่าอ่าน หลังทานอาหารอิ่ม แอร์เย็น
ประมาณนี้ ครับ
- การอ่านหนังสือคือ..ยานอนหลับ.....
- ง่วงมากต้องนอนหลับค่ะ....ตื่นมา..อาบน้ำ....สดชื่นแล้วอ่านต่อ
- จดสิ่งสำคัญ หรือ สรุปตามความเข้าใจ..ตุนไว้ก่อน....กันลืม
- บรรยากาศ สำคัญมากเลย....เลือกให้เหมาะๆ
- เห็น โครงการรักการอ่านที่นี่แล้วคิดถึงโรงเรียนบ้านระวิงค่ะ.........เขาก็มีเหมือนกัน(ชื่อโครงการ) กิจกรรมจัดหลังอาหารกลางวัน ที่ หอประชุมโรงเรียน....แรกๆ..เด็กตื่นเต้นค่ะ....นานๆเข้าเด็กชักมองหน้ากันซะแล้ว.....เล่มนี้อ่านแล้ว....เล่มนั้นอ่านแล้ว.....เล่มโน้นก็อ่านแล้ว....เล่มใดบ้างที่ยังไม่ได้อ่าน.....(ไม่มี) ก็หนังสือมันน้อยค่ะ.....แถมไม่แยกระดับของเด็กว่าเหมาะกับหนังสืออย่างไร.......นี่คือปัญหาของโครงการ.....แต่อย่างว่าแหละนะ....คนเรามองปัญหาคนละด้าน....เวลาเสนอวิธีการแก้ปัญหา....เขาก็มองว่าจิ๊บๆ.....บางอย่างอาจคิดไม่เหมือนกับเรา........เฮ้อ....
- อยากให้เด็กไทยเก่งเหมือน น้องฝ้าย ด.ญ.ปัณฑารีย์ คลื่นสุวรรณ จังเลยค่ะ.....
- ขอบคุณค่ะ
.
- ขอบคุณคุณ
มากค่ะ - เป็นข้อคิดที่ดีมาก ๆ ค่ะ
- คุณ
- ขอบคุณนะคะที่มาทักทาย
- ไม่กล้าหลับค่ะกลัวน้ำลายไหล อิอิ
- ท่าน
ผศ. เพชรากร หาญพานิชย์ - ขอบคุณมากค่ะ
- ที่บอกเคล็ดไม่ลับ อิอิ
- ครูขา
- หายเหนื่อยหรือยังคะ
- หนังสือที่ห้องสมุดมีเยอะค่ะ เยอะจนไม่มีชั้นจะใส่
- อีกอย่างให้เด็กอ่านในแถวหลังทำกิจกรรมตอนเช้า ก้มหน้าก้มตาอ่าน เงยหน้าเจอทั้งนางยักษ์ นางฟ้า อ๋อย ๆๆ แล้วแต่เด็กจะจินตนาการ สุดท้ายก็ต้องก้มหน้าอ่านต่อค่ะ อ่านแค่วันละนิด อ่านไม่ได้ดูภาพก็ยังดี แต่ครูบรรณารักษ์เหนื่อยหน่อยเป็นคนจัดหนังสือ แถมเดือดร้อนถึงเพื่อนซี้ครูบรรณารักษ์ค่ะ ....
- ขอบคุณคะ
- ขอบคุณคุณ
ค่ะ - ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
- แล้วจะแวะไปทักทายค่ะ
s o m p o r n p
ชอบโครงการ "หยุดทุกงาน อ่านทุกคน วันละ 5 นาทีจัง" โครงการนี้ไม่น่าจะเกิดเฉพาะเด็ก ต้องผู้ใหญ่ด้วยถ้าจะดี เดี๋ยวนี้เราอ่านหนังสือน้อยลงค่ะ
เป็นคนชอบอ่านเหมือนกันค่ะ อ่านทุกอย่างที่ขวางหน้า อ่านตลอดเวลาที่มีเวลาว่าง หรืออยากอ่าน (แม้แต่ในห้องน้ำขณะทำธุระส่วนตัว....ฮา....จะดึกจะดื่นเพียงใด ถ้าเข้าห้องน้ำไม่มีหนังสือนี่...ลำบากจัง...ไม่สามารถนั่งเฉย ๆ ได้...อิอิ อุอุ)
แต่สิ่งที่ขาดสำหรับตัวเองคือ อ่านแล้วได้สาระอย่างไร....ยังขาดส่วนนี้ไปบ้างค่ะ ตอนนี้ก็ฝึกอ่านแล้วโน๊ตในสาระที่สำคัญ ที่สามารถนำไปเล่าสู่กันฟังได้....ก็มีจะได้มีประโยชน์เพิ่มขึ้นค่ะ
ตอนนี้อ่านหนังสือจนที่บ้านเปิดร้านเช่าได้แล้วค่ะ อุอุ
- สวัสดีครับครูรักษ์นะ
- ดีจังเลยครับให้อ่านหน้าเสาธงทุกวัน 5 นาทีจะนำไปใช้บ้างนะครับ
- เด็กนักเรียนที่โรงเรียบนอ่านหนังสือไม่คล่องมากพอสมควร เนื่องจากอายุยังน้อยไม่เหมาะสมกับกับระดับชั้นเรียน จึงเกิดปัญญาความไม่พร้อมในตัวเด็กนักเรียนเอง
- อยากจะบอกผู้ปกครองทั้งหลาย ถ้าอยากให้ลูกเรียนดีมีความสามารถ โปรดอย่าเร่งลูกให้เข้าเรียนเมื่อเขายังไม่พร้อม เพราะคุณเองนั้นแหละที่เป็นคนทำร้ายลูกคุณเอง
- ขอบคุณครูรักษ์ครับที่นำสิ่งดีๆมาเล่าสู่กันฟัง
- ขอบคุณพี่ สมพร ค่ะ
- อ่านมากรู้มาก แม้แต่หนังสือขายหัวเราะก็ให้ประโยชน์
- อะแหม... พี่สาวคะ อ่านในห้องน้ำเลยหรือคะเคยได้ยินหลาย ๆ คน พูดเหมือนกัน ท่าจะดี ..อย่างนี้ต้องลองดูบ้าง....อิอิ
- ขอบคุณครูเสกค่ะ
- ใจเดียวกันเลยค่ะ ผู้ปกครองชอบให้ลูกเข้าเรียนเร็ว ๆ ซึ่งเด็กยังไม่มีความพร้อม ทำให้เรียนรู้ได้ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น
- เคยเห็นไหมคะ เด็กรุ่นเดียวกันเรียนต่างที่กัน
- เด็กคนที่ 1 เรียนอ่านเขียน ผู้ปกครองดีใจคุยโม้ว่าลูกอ่านออกเขียนได้
- กับเด็กคนที่ 2 รุ่นเดียวกันเข้าเรียนเหมือนกันแต่ยังหัดปั้นดินปั้นทรายอยู่เลยค่ะ ผู้ปกครองว่าครูใหญ่เลยทำไมไม่สอนหนังสือลูกข้างบ้านอ่านได้แล้ว
- แต่พอเด็กเริ่มเรียนในระดับประถมเด็กคนที่สองเรียนรู้ได้เร็วและเขียนตัวหนังสือสวยมาก จึงถึงบางออ้อว่าทำไมครูถึงต้องพัฒนาความพร้อมของเด็กก่อน
- อนุบาลที่โรงเรียนจะไม่รับก่อนเกณฑ์และไม่สอนหนังสือค่ะแต่จะสอนทักษะชีวิตทุกด้าน
- ขอบคุณค่ะ
หวัดดีครับครูรักษ์
- แอบมาอยู่นะ แต่ก่อนนี้ยังไม่สะดวกที่จะฝากร่องรอยไว้
- สำหรับผมแล้ว "หนังสือคือยานอนหลับ" แต่ "นอนไม่ใคร่หลับ ถ้าไม่ได้อ่านหนังสือ"
- ผมเองไม่ฝืน หลับก็หลับไป ตื่นเมื่อไหร่ค่อยอ่านต่อ หลับมากๆเข้าก็เต็มอิ่ม เมื่อเต็มอิ่มแล้ว ก็อ่านได้ยาวเอง ที่บ้านผมมีหนอนหนังสืออยู่ 3 คน คิดว่า 2 ใน 3 คนที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ น่าจะได้รับการถ่ายทอดจากคนที่ 1 อ่านมากไป บางทีคนที่ 4 เขาก็บ่นๆเหมือนกันนะ แหะ ๆ
- เด็กๆที่โรงเรียน ก็เริ่มอ่านแข่งกับครูใหญ่แล้ว เพราะอ่านแล้วเอามาถกกันทั้งครูทั้งนักเรียน ไม่ได้บังคับหรือจัดกิจกรรมเป็นพิเศษ แต่กระตุ้นด้วยการอ่านให้เห็นเป็นแบบอย่าง แล้วนำสาระมาเล่าให้ฟัง เด็กๆเห็นว่าสนุกและได้สาระความรู้รวมทั้งมุมมองใหม่ๆดี ก็เลยอ่านบ้างน่ะครับ
- การอ่าน การฟัง การดู เป็นสาระที่สำคัญอย่างหนึ่งของชีวิตมนุษย์ยุคนี้และยุคหน้า เสียดายเด็กๆในชนบทขาดหนังสือที่ดีๆอ่านกัน ก็เลยใช้เวลาไปกับเรื่องไร้สาระอื่นๆซะมากกว่า ทั้งนี้ ครอบครัวมีอิทธิพลและส่วนสำคัญที่สุดต่อการรักการอ่านของลูกหลานครับ ส่วนครูนั้นก็มีไม่น้อย ซึ่งถ้าครูรู้จักใช้เทคนิคและกระบวนการส่งเสริมการอ่านที่สอดคล้องกับธรรมชาติของเด็กๆแทนการทำกิจกรรมที่เข้าข่ายและลักษณะการบังคับ จะช่วยสร้างกิจนิสัยรักการอ่านได้มาทีเดียวครับ (ที่เห็นมาส่วนใหญ่จะเป็นการบังคับอ่านซะมากกว่า ครูรักษ์ว่าไหมครับ)
- สวัสดีครับ
- ขอบพระคุณ คุณครูวุฒิมากค่ะ
- ที่แวะมาทักทาย
- และให้ข้อคิดที่ดีมาก
ยืนอ่าน ยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่านยืนอ่าน
สวัสดีค่ะ สมัยที่เรียนอยู่เคยใช้วิธีแช่เท้าในอ่างน้ำเล็กๆที่ใส่น้ำเย็นเอาไว้(แอบกดจากแทงก์น้ำดื่มของหอพักมหาวิทยาลัย) แล้วความเย็นจะทำให้เราตื่นค่ะ
แวะมาบอกว่า คิดถึงจังเลยยยยยยยยยยยยยย