ดิฉัน เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับทาบทามให้ไปเล่าเรื่อง "เขียน blog แล้วได้อะไร" ในงานประชุมทำความเข้าใจ Communication Platform ซึ่งในงานดังกล่าว จะเป็นการเปิดตัว share.psu.ac.th ของมหาวิทยาลัยด้วย
ซึ่ง share.psu.ac.th นี้ จะเป็นพื้นที่หนึ่งที่ใช้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องต่าง ๆ ของคนภายในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตลอดจนเป็นพื้นที่ที่ใช้สำหรับสื่อสารภายในองค์กร
โดยวัตถุประสงค์ของการเล่าเรื่อง "เขียน blog แล้วได้อะไร" นี้ คาดว่าน่าจะเป็นตัวกระตุ้นที่ดีตัวหนึ่ง ที่เราจะเล่าให้เขาเห็นว่า เราจะได้ประโยชน์อะไรจากการเขียน blog และคงจะใช้เป็นเครื่องมือกลาย ๆ ในการดึงให้ทุกคนหันมาเห็นคุณค่าของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน
โดยส่วนตัวของดิฉันแล้ว ดิฉันคงมีคำตอบในเรื่องดังกล่าวไว้ในใจอยู่แล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่อยากให้หลาย ๆ ท่าน ได้เห็นคือ ไม่ว่าดิฉันมีปัญหาอะไร หรือต้องการขอความเห็นในเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็ตาม ดิฉันเพียงโยนคำถามเข้ามาในพื้นที่นี้ กัลยาณมิตรของดิฉันหลาย ๆ ท่าน ก็จะช่วยดิฉันได้
ช่วยดิฉันหน่อยนะคะ ดิฉันอยากทราบความคิดเห็นของทุก ๆ ท่านว่า การที่ทุกท่าน ได้เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในพื้นที่แห่งนี้ ทุกท่าน ได้อะไรกลับไปบ้าง
ทุกความเห็นของท่าน ดิฉันขออนุญาต ตัดทอนบางประเด็นที่เกี่ยวข้อง ไปนำเสนอในวันดังกล่าวด้วยนะคะ
ขอเป็นคนแรก (ที่จองพื้นที่ไว้ก่อน เดี๋ยวตามมาให้ความเห็น ขอทำเงินเดือนก่อนเน้อ..ที่รัก)
อุๆอุๆอุๆ (เดี๋ยวตกแฟนพันธุ์แท้)
ได้หลายอย่างค่ะ
ที่สำคัญคือได้
สวัสดีค่ะ น้องเหมยหลิง
พอดีพี่หนิง ลปรร ไว้ใน blog นึง แต่เห็นว่า น่าจะเอามา ลปรร ที่นี่ได้ด้วยนะคะ
การเขียน blog ก็เป็นเครื่องมือหนึ่งในการจัดการความรู้ ระดับปัจเจก
การจัดการความรู้ ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ สุดท้าย (หรือเป้าหมาย) ก็ คือ พัฒนาคน พัฒนางาน พัฒนาฐานความรู้
พี่หนิงเองเข้ามาตรงนี้ แรกเลยที่เดียว ก็คือ รู้สึกอยากให้คนอื่นรู้ว่า มีงาน DSS อยู่ที่ มมส นะคะ เข้ามาเขียน blog ใน gotoknow ด้วยการ serch มาเรื่อยเปื่อย มาเจอเข้าก็เลยนึกสนุก สมัครเอง เขียนเอง (ตั้งแต่ 6 กย 49 ) มาเองเดี่ยวๆ ไม่รู้จักใครก่อน แต่ก็ได้กำลังใจและการเข้ามาร่วม ลปรร จาก กัลยาณมิตร ใน G2K รู้สึกดีใจที่มีคนเห็น
ก็ผ่านมาเรื่อยๆ แม้จะเขียนไม่มาก เพราะไม่ค่อยถนัด แต่ก็ทำให้เราได้ฝึกเขียน ฝึกเล่า อ่ะค่ะ อันนี้ได้พัฒนาตนเอง แล้ว
วันดีคืนดี คณะอนุกรรมการการจัดการความรู้ในองค์กร ของมหาวิทยาลัย (MSU-KM team ) มาอ่านเจอ แล้วเห็นว่าเรื่องที่ทำ สอดคล้องกับ ธง ของงาน UKM-8 ที่ว่า การพัฒนาทุนมนุษย์ จึงชวนให้ร่วมไป UKM-8 ที่ม.นเรศวร เมื่อ ต้นเดือน พย.49 อ่ะค่ะ แล้วเวที UKM-8 นี้เอง ที่เรื่องเล่าของพี่หนิงได้รับ คำนิยมให้ เรื่องเล่าเร้าพลัง ระดับ best practice มีกำลังใจมากขึ้นอีกค่ะ ที่จะทำงาน DSS ต่อไป อยากจะทำนู่น ทำนี่ พัฒนางานยิ่งขึ้นๆ โครงการต่างๆ ผุดขึ้นมา เครือข่ายความร่วมมือขยายออกไป พัฒนาฐานความรู้ออกไป มีคนรู้เรื่องนิสิตตาบอดว่าเรียนหนังสือกันอย่างไร มากขึ้น ได้มีโอกาสไปพัฒนาตนเพิ่มขึ้น เป็นวิทยากร และสร้างอาสาสมัครช่วยเหลือเพื่อนพิการมากขึ้นค่ะ
ถ้าไม่รู้จัก G2K ไม่ทราบว่าป่านนี้ จะมีคนรู้จัก DSS แค่ไหน จริงๆแล้ว DSS มีอยู่หลายมหาวิทยาลัยนะคะ แต่รู้กันแค่ในวงของคน ทำงาน DSS คนอื่นๆไม่ค่อยรู้
และการที่ DSS ของมมส ก้าวไปได้ไว (จากคำชื่นชมของ สกอ. ) ทั้งที่เรามีกัน แค่ 2 คน มีนิสิตพิการสนใจจะเข้ามาเรียนที่ มมส. มากขึ้น (ปัจจุบัน 27 คน) นอกจากหลักสูตรน่าสนใจแล้ว เขานึกถึง DSS ของมมส.ค่ะ เป็นกำลังใจของคนทำงาน
แต่ DSS จะมาไม่ถึงตรงนี้ได้เลย ถ้าไม่มีอาสาสมัครเพื่อนช่วยเรียนทุกๆคนค่ะ อิอิ ดีใจมากเลยที่โครงการอาสาสมัครกับการจัดการความรู้ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ได้รับรางวัล KM ที่ประทับใจ ในงาน MSU show-share 2007 ที่ผ่านมานี้ค่ะ อิอิ
พี่อึ่งฯ ขา
รอความเห็นของพี่อึ่งฯ อยู่นะคะ จะรอ ร้อ รอ ค่ะ
ขอบคุณป้าแดงมากค่ะ
สักวันคงได้มีโอกาสเจอตัวเป็น ๆ ของป้าแดงนะคะ
ยิ้ม ๆ ค่ะ
ขอบคุณน้องซูซานมากค่ะ
เห็นด้วยอย่างยิ่งกับความเห็นของน้องซูซาน ใครจะเชื่อว่า ในเวทีเสมือนแห่งนี้ เราจะพานพบมิตรภาพที่ยั่งยืนได้
จริงไหมค่ะ
ขอบคุณอาจารย์จันทรัตน์มากค่ะ
หลายอย่างเปลี่ยนแปลงความคิด และเติมเต็มความเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ ให้กับหนู หลังจากที่ได้เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเวทีแห่งนี้ค่ะ
ความเห็นของ อ.จันทรัตน์ มีประโยชน์กับหนูมากค่ะ
ขอบคุณ แผ่นดิน มากค่ะ
ขนาดงานยุ่ง ยังแวะเวียนมาบันทึกนี้ จริง ๆ อยากบอกว่า พี่แอบไปเก็บเกี่ยวความคิดเห็นมาจากบันทึกของน้องแผ่นดินแล้ว เช่นกันค่ะ ชอบมาก ตรงที่บอกว่า "เพื่อตอบแทนคุณมหาวิทยาลัย" เพราะพี่เอง ณ ตอนนี้ ยังไม่ได้คิดถึงขั้นนั้นเลยค่ะ
อ้อ ดีใจ ที่ได้รู้จักน้องแผ่นดินเช่นกันค่ะ
ได้หลายอย่างเหมือนกันครับ เอาเฉพาะที่มีสาระหน่อย ก็จะได้แก่