“ ผมไม่มีทางทิ้งแม่แล้วหนีเอาตัวรอดไปคนเดียวหรอก ผมรักแม่นะ แล้วผมจะปล่อยให้แม่ตายอยู่ที่นี่ได้ยังไง ” ผมตอบแม่ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ ถ้าลูกรักแม่ลูกก็ต้องรีบไป ทิ้งแม่ไว้ที่นี่แหละลูก ” แม่บอกผมด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่อ่อนโยน
ความสับสนวุ่นวายต่าง ๆ เริ่มมารุนล้อมอยู่ในหัวสมองของผม ผมนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วต่อมน้ำตาของผมมันก็เริ่มทำงาน น้ำตาของผมเริ่มพรั่งพรูออกมา ในใจของผมตอนนี้กำลังคิดว่า ผมมีทางเลือกแค่นี้นะหรือ จะทิ้งแม่ไปหรือจะตายอยู่ที่นี่กับแม่ ทำไมทางเลือกของผมมันช่างโหดร้ายเช่นนี้ ทันใดนั้นเสียงเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในสมองของผม
“ นายต้องไป ยังไงนายก็ต้องเอาตัวรอดไปให้ได้ ”
“ ไม่ได้นะ นายจะทิ้งแม่ไว้อย่างนี้ไม่ได้ ” อีกเสียงดังแย้งขึ้นมา
ผมจะทำยังไงดี ขณะนี้ผมสับสนจะแย่อยู่แล้ว วินาทีนั้นเองความคิดชั่วร้ายในใจของผมมันก็ผุดขึ้นมาว่า
“ ยังไงเราก็ต้องรอด ต้องรอดไปให้ได้ ”
เมื่อตัดสินใจได้เช่นนั้นผมจึงหันไปกอดแม่ แล้วก็วิ่งออกจากบ้านไปโดยไม่หันกลับมามองแม่อีก
เหลือชาวบ้านอีกไม่กี่คนที่กำลังวิ่งวุ่นกันอยู่ อีกไม่กี่นาทีน้ำก็คงจะไหลมาถึงหมู่บ้าน ผมวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตมาหาเจ้าหน้าที่ ที่ยื่นอยู่ไม่ไกล ทันใดนั้นผมก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า
“ ผมจะทิ้งให้แม่ตายอยู่ที่นี่คนเดียวจริงหรือ แล้วช่วงเวลาที่ผมเคยทุกข์ เคยเศร้า ต้องเจอปัญหาต่างๆ มากมาย คนที่คอยยืนเคียงข้างผมคอยปลอบใจผมมาตลอดไม่ใช่แม่คนนี้หรอกหรือ และที่ผมมีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อแม่ ถ้าไม่มีแม่แล้วผมจะอยู่ยังไง ”
เท้าที่เคยก้าวอย่างเร็วของผม เริ่มชะลอลง ผมเดินอย่างเหม่อลอยมาเรื่อยๆ แต่พอผมมารู้สึกตัวอีกทีผมก็มายื่นอยู่ตรงหน้าของแม่ซะแล้ว ผมได้แต่ยื่นมองร่างที่แน่นิ่งของแม่ ใบหน้าของแม่ในตอนนี้เหมือนกับคนที่กำลังมีความสุขอยู่เปี่ยมล้น คำเดียวและคำสุดท้ายที่ผมอยากจะบอกกับแม่
“ แม่ครับ…………ผมขอโทษ
………โครม……….ซู่………..ซ่า………..ไม่มีความเห็น