เครื่องเล่นเอ็มพี 3


เครื่องเล่นเอ็มพี 3

เครื่องเล่นเอ็มพี 3 ทำหูหนวกก่อนวัย

       เมืองไทยกับเครื่องเล่นเพลงเอ็มพี 3 เป็นภาพคุ้นตามากๆ ขายดิบขายดีติดต่อกันมาหลายปี ไปไหนต่อไหนก็จะเห็นโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ๆ นิยมกัน ที่จริงมันก็ไม่ต่างปะไรกับวอล์กแมนที่โซนีคิดค้นขึ้นมา แต่นั่นมันอยู่ในเทป ต่อมากลายเป็นซีดี แล้วทุกวันนี้เป็นแค่ไฟล์ในเครื่องเล่นอันเล็กนิดเดียว แต่ความจุเพลงมากมายมหาศาลกว่ากันเยอะแยะ เห็นสายห้อยจากหูวัยรุ่นบ้านเราหรือไม่ว่าบ้านไหนก็ตาม แต่สันนิษฐานได้สองอย่าง ไม่โทรศัพท์ก็เพลงจากเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลนี่แหละครับ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นเอ็มพี 3 ทั่วๆ ไปหรือ ไอพ็อด หรือ แม้แต่โทรศัพท์มือถือที่ฟังเพลงได้

       ในอังกฤษ เมื่อเร็วๆ นี้ สถาบันคนหูหนวกแห่งชาติ ออกแถลงคำเตือนเกี่ยวกับเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลที่มีกับความสามารถในการได้ยิน ด้วยความเป็นห่วงว่าคนรุ่นใหม่ๆ นิยมใช้เครื่องเพลงพวกนี้กันมาก ในอังกฤษเองปีที่ผ่านมาขายไปได้แปดล้านเครื่อง ไม่ผิดหรอกครับ 8,000,000 เครื่อง

       เป็นเรื่องปกติของคนที่พออายุมากขึ้นประสาทหูก็จะเสื่อมลง คนแก่ๆ ที่ฟังอะไรไม่ค่อยได้ยินมีให้เห็นอยู่มากมาย มันก็เสื่อมไปตามสังขาร แต่ถ้าฟังเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลมากๆ เข้า อาการไม่ค่อยได้ยิน หรือจะเรียกว่าหูหนวกก่อนวัยอันควรก็ได้ จะเกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าพิสมัยใดๆ ทั้งสิ้น แค่เสื่อมไปตามสภาพก็ไม่น่ายินดีอยู่แล้ว

       จากงานวิจัยของสถาบันคนหูหนวกแห่งชาติของอังกฤษพบว่า ผู้ใช้เครื่องเล่นเอ็มพี 3 ในเมืองไบรตัน,แมนเชสเตอร์ และเบอร์มิงแฮม 72 จาก 110 คน ฟังเครื่องเล่นเอ็มพี 3 ด้วยระดับเสียง 85 เดซิเบล ระดับเสียงที่พอกับเสียงนาฬิกาปลุกที่คนทั่วๆ ไปใช้โดยเฉลี่ย

       อันตรายต่อประสาทหูน่ะสิครับ ทำให้มันเสื่อมก่อนวัย

       มีรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) บอกไว้ว่า การใช้หูฟังฟังเสียงระดับ 85 เดซิเบล หรือมากกว่านั้นครั้งละหนึ่งชั่วโมงหรือกว่าจะทำลายความสามารถในการได้ยินของคนลง

       แล้วถ้าตะบี้ตะบันฟังกันอย่างที่เราเห็นๆ หรือเราบางคนที่กำลังอ่านก็เป็นนี้ จะเกิดอะไรขึ้น ตอบได้ว่าโอกาสหูหนวกมาเยือนอาจเร็วกว่าที่คิด ยังไม่ทันแก่ นอกจากใครพูดมาก็ไม่ค่อยได้ยินแล้ว ตัวเองพูดออกไปก็ตะเบ็งเสียงดังลั่นเหมือนตะโกน

       ที่เขาเป็นห่วงเด็กวัยรุ่นก็เพราะจากงานสำรวจของสถาบันคนหูหนวกแห่งชาติอังกฤษพบอีกว่า เกือบครึ่งหนึ่งของวัยรุ่นทั้งหลายนั้นฟังเครื่องเล่นเอ็มพี 3 มากกว่าหนึ่งชั่วโมงต่อวัน และหนึ่งในสี่ฟังมากกว่า 21 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ก็ราวๆ 3 ชั่วโมงต่อวัน

       การสำรวจนี้ไม่ได้บอกว่าแต่ละครั้งฟังนานต่อเนื่องเกินชั่วโมงหรือไม่ ถ้านานเกินก็น่าเป็นห่วง และถ้าดูจากพฤติกรรมที่เราพบเห็นก็น่าเป็นห่วงเช่นกัน เพราะวัยรุ่นทั้งหลายที่อาจรวมถึงวัยทำงานใหม่ๆ การเสียบหูฟังฟังเพลงกันทุกเมื่อ แม้ระหว่างเวลานั่งทำงานก็เห็นกันเป็นเรื่องปกติ

       สรุปได้ว่า ถ้าชอบฟังเครื่องเล่นเอ็มพี 3 หรือฟังเสียงอะไรด้วยการเสียบหูฟังก็อย่าให้เสียงดังเกินไป และอย่าให้ต่อเนื่องนานเกินกว่าหนึ่งชั่วโมงในแต่ละครั้ง เพราะมันทำร้ายตัวเอง และเมื่อคุณหูหนวกหรือได้ยินไม่ค่อยชัด ก็จะก่อความรำคาญกับคนอื่นๆ เป็นอุปสรรคต่อการติดต่อสื่อสารระหว่างมนุษย์ด้วยกัน

       ส่วนนักการเมืองที่หูหนวกต่อเสียงของประชาชน ...ทำอะไรไม่ได้ครับ ถ้าประชาชนไม่ลุกขึ้นมาจัดการเสียเอง

       พอรู้ว่าจะเลือกตั้งกันแล้วแน่ๆ บางพรรคก็ไม่มีนโยบายอะไรที่สำคัญนอกจากประกาศชัดเจนว่าจะเข้ามาเป็นตัวแทนให้ใครบางคนเท่านั้นเอง แล้วสุดท้ายพวกของใครบางคนกับพวกของใครบางคนก็จะตีกัน โดยประชาชนตกเป็นเครื่องมืออีกเหมือนเคย

       เลือกตั้งนั้นดีแน่ แต่ไม่มีตัวเลือกเหมือนเดิม นี่แหละประเทศไทย หรือว่าหูหนวกแล้วจะดีกับการเป็นคนไทยก็ไม่รู้ จะได้ฟังเครื่องเล่นเอ็มพี 3 ทั้งวันทั้งคืน

ที่มา  มติชน

 


คำสำคัญ (Tags): #มนัสเต
หมายเลขบันทึก: 131867เขียนเมื่อ 26 กันยายน 2007 11:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:38 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

มาเยี่ยม 

พอดีว่าไม่ค่อยได้ฟ้งเครื่องอย่างนั้น  เลยหรือว่าเราพ้นวัยไปแล้วละครับ  ฮา ๆ เอิก ๆ

ยังไม่พ้นวัยหรอค่ะอาจารย์ เพราะว่าอยู่ที่เราจะโหลดเพลงสมัยไหนฟังเท่านั้นค่ะ แต่โอ๋ว่าอาจารย์เป็นคนรักษาสุขภาพมากกว่าไช่มั้ยค๊ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท