ตอนเช้าเมื่อวานอยู่บ้านพ่อครูบาสุทธินันท์ ตอนนี้กลับมามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีเรียบร้อยแล้ว เดินทางไกลมาถึงหมดแรง ต้องขอบคุณน้อง ออต จากเล้าข้าวศึกษา มาส่งที่อำเภอพุทไธสง
ที่บ้านพ่อครูบาสุทธินันท์จะมีทีมของบุคลต่างๆมาอบรมมาเยี่ยมชมอยู่เสมอ แต่ทีม UKM11 มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคามบางส่วนเคยมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ครั้งนี้ทีมอาจารย์และเจ้าหน้าที่มาขอบคุณพ่อครูบาสุทธินันท์ ผอ. ดร. ศักดิ์พงษ์ น้องออตและผู้เขียนใน การช่วยเตรียมงาน UKM11 มีน้องจากสาขาการศึกษาพิเศษ ตามมาเรียนรู้ด้วย
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal" align="justify"> ผอ. ดร. ศักดิ์พงษ์ พี่ครูพันดาและผู้เขียนเลยพานักวิชาการบุกดงเข้ามาดูการจัดเรื่องการเกษตร การเลี้ยงสัตว์ ในพื้นที่บางส่วนของมหาชีวาลัยอีสาน ทำเอาอาจารย์และเจ้าหน้าที่อึ้งและหมดแรงไปเหมือนกัน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal" align="justify"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal" align="justify"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal" align="justify"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal" align="justify"></p><p> </p><p align="justify"> เมื่อวานผู้เขียนสังเกตว่ามีลูกหมูเหมยซานไม่กี่ตัวตอนพาเพื่อนอาจารย์ชาวเวียดนามมาดู แต่พอผู้เขียนนำคณะอาจารย์และเจ้าหน้าที่มาชม ปรากฏว่ามีจำนวนลูกหมูเพิ่ม ถามได้ความว่ามีหมูคลอกใหม่คลอดเมื่อคืน สิ่งที่ชอบและประทับใจคือเพิ่งสังเกตว่าเจ้านกยูงตัวเมีย ที่พ่อครูบาประกาศหาคู่ให้มัน(เหมือนใครน่า…) เขามาอยู่รวมฝูงกับห่านบ้านได้ ก็แปลกดี ที่นี่รู้สึกว่าสัตว์สามัคคีกันดีเช่น หมาเล่นกับแมว แม่ไก่ช่วยกันกกไข่ให้แม่เป็ด ถ้าคนเราสามัคคีกันแบบนี้ก็ดี ท่านอาจารย์ประยุทธท่านกล่าวว่า คนไทยเหมือนไก่ในเข่ง อยู่ในเข่งก็ตีกัน รอวันเขาเอาไปฆ่า </p><p align="justify"> </p><p align="justify"> มีนักศึกษาและอาจารย์ถามคำถามได้ดีมาก บางครั้งการถามคำถามของนักศึกษาสะท้อนการศึกษาของเขาได้ดี ผู้เขียนไม่รู้สึกผิดหวังเมื่อได้พบกับนักศึกษา ปัญหาคือ อาจารย์ในมหาวิทยาลัยจะตามนักศึกษาทันหรือไม่ ถ้ายังใช้ระบบการเรียนการสอนแบบที่ตนเองเรียนมาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว การศึกษาทุกวันนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมาก อาจารย์ในมหาวิทยาลัยต้องตามให้ทัน </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt; text-align: justify" class="MsoNormal" align="justify">อาจารย์ในมหาวิทยาลัยควรจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับชุมชนและสังคมที่เขาอยู่ ไม่ใช่จัดการศึกษาเพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาเข้าสู่ภาคธุรกิจ หรือเป็นข้าราชการอย่างเดียว เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่จังหวัดบุรีรัมย์มีสอบครู ตัวอย่างเช่นบางวิชาเอกรับตำแหน่งเดียว แต่คนมาสมัครเป็น 1,000 คน พ่อครูบาว่า เอ 1 ใน 1,000 คน แต่พอเข้ามาสอน ทำไมเราไม่ได้ คนที่ดีที่สุด เป็นเพราะระบบหรืออะไรช่วยตอบให้ที</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt; text-align: justify" class="MsoNormal" align="left"> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt; text-align: justify" class="MsoNormal" align="left"> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt; text-align: justify" class="MsoNormal" align="left"></p><p align="left"></p><p align="justify"> เป็นเรื่องใหม่คือทีมนี้เตรียมขนมจีนมาเอง เลยไม่ลำบากแม่ฉวีเราทำอาหาร กลายเป็นเรื่องสนุกเมื่อใครมาบ้านพ่อครูบาสุทธินันท์ ต้องมาทำอาหารทานกัน ดูนักศึกษาตำส้มตำดูท่าทางก็จะทราบว่าน่าสนุกขนาดไหน </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt; text-align: justify" class="MsoNormal" align="justify">ผู้เขียนคิดว่าการศึกษาบ้านเราไม่ได้มีสูตรสำเร็จทั้งหมด ครูอาจารย์ควรจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับชุมชน สังคมและภูมิปัญญาในท้องถิ่น เอาผู้เรียนเป็นตัวตั้ง ครูอาจารย์ต้องศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ(เป็นเรื่องน่าเศร้าใจป็นที่สุด เมื่อผู้เขียนไปอบรมให้สถาบันการศึกษาหนึ่ง ปรากฏว่า อาจารย์ใช้ คอมพิวเตอร์ไม่ได้ ค้นข้อมูลจาก Internet เพื่อหาความรู้ใหม่ๆๆไม่เป็น) รู้จักปรับเปลี่ยนแปลงการสอน การศึกษาบ้านเราจะได้ไม่เป็นเรื่องของความทุกข์อีกต่อไป….</p><p></p><p> </p><p align="justify"> ให้ทายว่าดอกอะไรน่า เก็บมาจากบ้านพ่อครูบาสุทธินันท์หลังฝนตก</p>
การเรียนที่ดี น่าจะเป็น...
การเรียนรู้ที่เท่าทันการเปลี่ยนแปลง
การเรียนรู้จากสถานการณ์จริง
การเรียนรู้ที่ผ่านกระบวนการคิด
เปลี่ยนจาก "การเรียนหนังสือ" เป็น "การเรียนรู้"
ต้องร่วมกันปรับ...
ครูต้องปรับให้เท่าทันโลก และเหมาะสมกับบริบท
นักเรียนต้องเปลี่ยนมาเรียนรู้ไม่ใช่เรียนหนังสือ...
ระบบต้องยอมรับและปรับเปลี่ยนเพื่อการศึกษาที่ดี
---^.^---
ข้อคิดเห็นแฝงความคับข้องใจ จากความรู้สึกช่วงหนึ่งของการเป็นอาจารย์ในรั้วมหาวิทยาลัย...
ขออีกรอบนะคะ...
ไม่รู้ดอกอะไร แต่ดูแล้วสดชื่นจังเลยคะ
---^.^---
แหม ถูกใจที่อาจารย์กล่าวว่า
....ครูอาจารย์ควรจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับชุมชน สังคมและภูมิปัญญาในท้องถิ่น เอาผู้เรียนเป็นตัวตั้ง ครูอาจารย์ต้องศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ
ปัจจุบันส่วนมากเราจะเห็นครูอาจารย์ที่พยามปรับตัวเพื่อให้ดูดีที่อ้างอิงแนวคิดใหม่ๆ ทฤษฎีฝรั่งล้วนๆ แต่ไม่สามารถบูรณาการความรู้ใหม่ๆที่ได้มานำมาสังเคราะห์ใช้กับชุมชนให้เหมาะสมตามบริบท
ดอกไม้นี้คล้ายดอก"พุดน้ำบุษย์"มากเลยค่ะ เก็บภาพได้สวยมากจริงๆค่ะ
สวัสดีค่ะน้องชาย อ.ขจิต
ชื่นใจจริงๆเลยค่ะ ที่ได้รู้จักอาจารย์และเราก็รักกันเป็นพี่เป็นน้องกัน อิอิ มีพ่อคนเดียวกันด้วยเนอะ blog นี้พี่หนิงอึ้ง..จนพูดไม่ออกเลยอ่ะ ยิ่งได้อ่าน...
....ครูอาจารย์ควรจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับชุมชน สังคมและภูมิปัญญาในท้องถิ่น เอาผู้เรียนเป็นตัวตั้ง ครูอาจารย์ต้องศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ
ปัจจุบันส่วนมากเราจะเห็นครูอาจารย์ที่พยามปรับตัวเพื่อให้ดูดีที่อ้างอิงแนวคิดใหม่ๆ ทฤษฎีฝรั่งล้วนๆ แต่ไม่สามารถบูรณาการความรู้ใหม่ๆที่ได้มานำมาสังเคราะห์ใช้กับชุมชนให้เหมาะสมตามบริบท
สวัสดีครับน้องชาย
เห็นกิจกรรม เห็นบรรยากาศ แล้ว ดูคึกคักมากนะคะ
อ้อ ดีใจจัง เห็นหลาน ๆ เดินกันให้ควัก (อิอิ)
ส่วนดอกไม้นั่นหนะ ขอบอกว่า ถ่ายได้สวยมากเลยครับ
อ้อ อีกที พ่อแอบฟ้องด้วยหละ ว่า เผลองีบไปแป๊บเดียว ตื่นมาลูกชาย 2 คน หายไปซะแล้ว ยังไม่ทันได้ร่ำลาเลย
อิอิ
ดอกไม้สวยค่ะ เสียดายกลิ่นไม่ตามมากับบันทึกนะคะ....(ฮ่าๆ)
การจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับชุมชน..พี่เห็นด้วยค่ะเป็นเรื่องดี...แต่คงไม่ต้องเน้นชุมชนจนหาจุดเชื่อมนอกชุมชนไม่ได้นะคะ....ยกตัวอย่างเล็กๆ ที่เห็นชัดและมักจะเห็นใครๆยกเป็นตัวอย่างด้วยคือ เรื่องการเรียนเกี่ยวกับซึนามิ...เป็นความรู้รอบนอกชุมชนได้สำหรับเด็กชาวดอย แต่เป็นความรู้สอดคล้องชุมชนที่ต้องรู้สำหรับเด็กชาวทะเล จุดเชื่อมของความรู้แบบนี้อยู่ตรงที่ให้น้ำหนักต่างกันเวลาสอนและออกข้อสอบสำหรับเด็กในแต่ละพื้นที่..แต่เป็นเรื่องที่ควรสอนในหลักการทางวิทยาศาสตร์เหมือนกัน....แบบนี้พี่ว่าคงทำได้ทุกระดับการศึกษา
ข้อสำคัญคือต้องมีการศึกษาฐานข้อมูลของชุมชนให้เข้าใจจริงๆ และเป็นข้อมูลที่ทันสมัยด้วยถึงจะบอกได้ว่าความรู้ไหนเรียกว่าสอดคล้องไม่สอดคล้องนะคะ
น้องขจิตคิดว่าอย่างไรคะ
พี่คิดไปเขียนไปอย่างรีบๆ ก่อนจะต้องกลับไปทำงานต่อแล้วค่ะ
คงได้คุยกันอยู่เรื่อยๆ นะคะ...อาจารย์น้องขจิตจะไปออเรกอนวันไหน ได้กำหนดแน่นอนหรือยัง
สวัสดีค่ะอาจารย์
เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจค่ะ และภาพที่อาจารย์นำมาฝากเห็นบรรยากาศทำให้นึกถึงตอนเด็ก ๆ จริง ๆแล้วถ้าเล่าถึงเรื่องอดิตเพื่อน ๆ จะแซวเพราะว่าถ้าใครเล่าเรื่องอดิตแสดงว่าใกล้เข้าสู่วัยสูงอายุ นอกเรื่องแล้วค่ะ ตอนเด็ก ๆ เคยเลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ และเลี้ยงปลาค่ะ
อาจารย์ค่ะ
การศึกษาคือชีวิต
การศึกษาคือการพัฒนาความเจริญงอกงามทั้งร่างกายและจิตใจค่ะ
อาจารย์ได้อ่านบทความของอาจารย์...ผมรู้สึกซึมซับถึงกลิ่นอายของการเรียนรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด...มีอะไรอีกเยอะที่เราต้องเรียนรู้..เข้าให้ถึงแก่นของชีวิต...ขอบคุณมากเด้อครับอาจารย์ที่เอารูป ควายน้อย มาฝาก
มาทักทายค่ะพี่ชาย
ออ...ค่ะพี่ชาย..อิอิๆๆ
*นี่แหละค้า..เขาเรียกว่ารู้เห็น..สัมผัสได้..เชื่อมไมตรี..สู่สังคมพอเพียง..อ.ขจิตของเด็กๆเขาเป็นตัวจริงเสียงจริงจ้า...
*ขอบคุณที่เข้ามาติดตามอ่านบันทึกอย่างสม่ำเสมอ..พี่ใหญ่ยังลงแรงน้อยกว่าอ.ขจิตผู้แก่กล้าในยุทธจักรการศึกษาคนหนึ่ง..(เพราะพี่หลงไปทำงานในแวดวงเรื่องเงินทองๆของประเทศมาตั้ง 35 ปี)...ขอให้กำลังใจ อ.ขจิตนะจ้า....
nongnarts