สัมมนาวิชาการเคหกิจเกษตรทั่วประเทศ (3): นโยบายเคหกิจเกษตร

             เมื่อวันที่ 31 กค.50  รองอรรถ อินทลักษณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ฝ่ายวิชาการ ได้บรรยายนโยบายเคหกิจเกษตร  ในการสัมมนาวิชาการเคหกิจเกษตรทั่วประเทศ ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพฯ  ว่า....

                     

                   รองอรรถ อินทลักษณ์ บรรยายนโยบายเคหกิจเกษตร

• เห็นบรรยากาศในห้องประชุมน่าดีใจ เป็นการประชุมครั้งที่ยิ่งใหญ่
• ช่วงนี้ จริงๆแล้ว อธิบดี จะมาพบพวกเรา แต่วันนี้ ท่านไปจีนแดง เพื่อเจรจาเอาผลไม้ ไปโอลิมปิค  จึงมอบหมายผมมาแทน
• งานเคหกิจเกษตร เป็นฐานให้ผมมายืนตรงจุดนี้ได้  ตั้งแต่เป็นเกษตรอำเภอ ผมทำงานกลุ่มแม่บ้านฯ เป็นส่วนใหญ่  ตั้งกลุ่ม ทำกฎเกณฑ์ ตัวชี้วัด  ใช้เวลาทำงานกลุ่มแม่บ้านฯ มามากพอสมควร
• ประวัติศาสตร์  งานเคหกิจเกษตร มีความสำคัญอย่างไร  ได้มีการนำงานเคหกิจเกษตรมาทำ ตั้งแต่ อ.ทำนอง  เป็นภารกิจของกรมส่งเสริมการเกษตร  ปี 17 มีการบรรจุเคหกิจเกษตร ไปอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก  ช่วงนั้น ไม่มีใครรู้เรื่องงานแม่บ้านฯ ทำไปเรียนรู้ไป มีการพัฒนาเรื่อยๆ  จนทำให้ผลงานเคหกิจเกษตร มีชื่อเสียง  ณ วันนี้ งานนี้มีชื่อเสียง เพราะพวกเรา
• สิ่งที่พวกเราทำมาแล้วในอดีต  น่าภาคภูมิใจในงานที่ทำ  แม่บ้านเกษตรกร พวกเราเป็นคนตั้งชื่อ  เป็นหน่วยงานแรกที่เรียก แม่บ้านเกษตรกร  สร้างความสำคัญของแม่บ้านธรรมดา  ให้มีความสำคัญ  ขณะนี้ ทำให้หน่วยงานอื่น เอาตาม เดินตามเราทั้งนั้น อาศัยพวกเราในพื้นที่ทำ   กลุ่มแม่บ้านฯ ตอนนี้มีความสำคัญ มีหลายน่วยงานเข้าไปพัฒนา
• เราเริ่มต้นจากการตั้งชื่อ รวมกลุ่ม ตอนนี้ ประธานกลุ่มมีบทบาทเป็นผู้นำในท้องถิ่น ไม่ว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต.
• มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งด้านความเป็นอยู่ สุขอนามัย และการจัดการครัวเรือนและชุมชน
• สิ่งที่ทำมาในอดีต ดูตั้งแต่บนบ้าน ในบ้าน ทำให้ครอบครัวน่าอยู่ เป็นรากฐานเศรษฐกิจชุมชน  จากกิจกรรมลดรายจ่าย เพิ่มรายได้  ขยายโอกาสทางเศรษฐกิจภาคการเกษตร โดยการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรจากการแปรรูปผลิตภัณฑ์
• ปัจจุบัน อธส. คิดคำขวัญว่า  “กรมส่งเสริมการเกษตร มีคนอยู่ทั่วทุกทิศ   เป็นมิตรแท้ของเกษตรกร”
• กระทรวงเกษตรฯ มักมอบงานสำคัญๆ ให้กรมส่งเสริมการเกษตร ดำเนินการ  เนื่องจาก กรมฯ มีคนอยู่ทั่วทุกพื้นที่ และมีความสามารถสูง มีประสบการณ์การทำงานกับชาวบ้าน
• สำนักงานเกษตรอำเภอ ต้องมีแผนยุทธศาสตร์ในการทำงาน  ถ้าไม่มี ก็เหมือนขาดเส้นทางเดิน  ไม่มีจุดชี้ ไม่มีเป้า ทำให้ทำงานตามวาสนา  ถ้มีแผนยุทธศาสตร์ แผนปฎิบัติงาน จะทำให้มีทิศทางการทำงาน
•  วิสัยทัศน์กรมส่งเสริมการเกษตร   “ เป็นองค์กรนำในการส่งเสริมการเกษตรและพัฒนาครอบครัวเกษตรกรให้อยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน”
• โครงการสายใยรักแห่งครอบครัว  เป็นโครงการหนึ่งที่สนับสนุนวิสัยทัศน์ของกรมฯ  โดยมีแผนยุทธศาสตร์สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล  ทุกหน่วยงานต้องมีแผนยุทธสาสตร์ เพื่อชี้นำในการทำงาน
•  แนวทางการพัฒนาเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร  ดูแล ตั้งแต่เด็กอยู่ในครรภ์ ถึง 9 ขวบ   กรมส่งเสริมการเกษตร ดูแลยุวเกษตรกร อายุ  10-25 ปี  โครงการสายใยรักฯ ครอบคลุมยุวเกษตรกรด้วย ทั้งในและนอกโรงเรียน
• พัฒนายุวเกษตรกร พยายามให้ศูนย์ปฎิบัติการทั้ง 48 ศูนย์  เป็นศูนย์เรียนรู้ยุวเกษตรกร  งานกรมส่งเสริมการเกษตร พัฒนาทั้งยุวเกษตรกร แม่บ้านเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน
•  วิวัฒนาการงานเคหกิจเกษตร  เดิมเคหกิจเกษตร รับผิดชอบงานสถาบันเกษตรกร เคหกิจเกษตรที่อำเภอ เป็นหัวหน้างานสถาบันเกษตรกร  ภายหลัง นโยบายกรมฯเปลี่ยน มีการจัดตั้งศูนย์บริการถ่ายทอดเทคโนโลยีครบทุกตำบล  ให้เคหกิจฯ ไปรับผิดชอบศูนย์บริการฯ  เป็นจุดหักเห  งานเคหกิจเกษตร แปรผันไป  งบประมาณที่งานเคหกิจฯ เคยได้รับ ถูกเปลี่ยนไป คือ ปรับบทบาท งบฯก็เอาออกไปด้วย ทำให้งานหยุดชะงัก 
• ภารกิจหน้าที่ส่งเสริมเคหกิจเกษตร คือ  งานแม่บ้านเกษตรกร  งานวิสาหกิจชุมชน  และงานสายใยรักแห่งครอบครัว
• กรอบการทำงานส่งเสริมเคหกิจเกษตร  คือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตและครอบครัว  ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้  เพิ่มมูลค่า
• แนวคิดการทำงาน ( เดิมทำตามสั่ง  รอสั่ง )   ต้องเริ่มจากมีข้อมูลที่ดี  มีข่าวสาร มีความรู้ และมีปัญญา  วิเคราะห์ตัดสินใจในการทำงาน  มีการกำหนดทิศทางของงาน และการบริหารโครงการ

นันทา ติงสมบัติยุทธ์

2 สค. 50 

[หนุ่ม ร้อยเกาะ]

• ตามมาอ่านต่อ
• ขอบคุณ ๆๆ ครับ

[นันทา ติงสมบัติยุทธ์]

• ขอบคุณที่ติดตามนะคะ