งานของเด็ก ป.4


การฝึกให้หนูเป็นเด็กใจกว้าง ยอมรับความคิดคนอื่น

           น้องอายลูกสาวคนโต เรียนอยู่ชั้น ป.4 มักจะสาละวนกับเครื่องคอม ฯ เพื่อหาข้อมูลทำรายงานที่คุณครูมอบหมาย  รายงานแต่ละชิ้นต้องพิมพ์จากเครื่องคอม ฯ มีการตกแต่งรูปภาพ ตัวอักษร ด้วยรูปแบบและจินตนาการของตน บางรายงานขอเงินแม่เพิ่มบอกว่า ต้องไปซื้อปกรายงานที่มีลายสวย ๆ บางทีก็ซื้ออุปกรณ์มาตกแต่ง  ซึ่งบ่อยเข้าดิฉันเกิดความสงสัยว่า ทำไมนักเรียน ป.4 มีรายงานให้ทำแทบทุกวัน 

          ปกติดิฉันไม่ค่อยเข้าไปยุ่งกับงานของลูกมากนัก เพราะเท่าที่เลี้ยงเขามาจะสังเกตว่า น้องอายจะสนใจการเรียน หรืองานที่ครูมอบหมายมาอย่างดี ตั้งแต่อยู่ชั้นอนุบาล จึงเบาใจว่าเขาไม่เคยละความรับผิดชอบงานที่โรงเรียนมอบหมายมา  แต่เมื่อเริ่มโตขึ้นสังเกตว่าลูกมักจะนอนดึก ทำงานหน้าคอมฯ นาน  เคยถามลูกว่าทำไมครูให้งานเยอะจัง  น้องอายบอกเป็นงานกลุ่ม เมื่อซักไซ้จึงได้ความว่า น้องอายมักจะรับอาสาเอางานมาทำเอง ค่าใช้จ่ายก็รับเอง ดิฉันจึงถามถึงเหตุผลว่าทำไมหนูจึงรับงานกลุ่มมาทำเอง แบบนี้จะเรียกว่างานกลุ่มได้อย่างไร  น้องอายบอกเพื่อนบอกว่าหนูทำแหละดีแล้ว สวยดี หนูเองก็ชอบเพราะทำแล้วได้ความรู้

             เมื่อมีโอกาสจึงได้สร้างความเข้าใจกับลูกว่า เมื่อคุณครูมอบหมายงานเป็นกลุ่ม นั่นก็คือทุกคนในกลุ่มต้องมีส่วนร่วมไม่ว่าจะเรื่องความคิด วัสดุ การลงมือทำ หรือนำเสนอหน้าชั้น  แม้ว่าลูกจะยินดีทำ แต่ไม่ใช้ทุกอย่างมาอยู่ที่เราเพียงคนเดียว จริงอยู่ที่เราได้ความรู้ แต่เราต้องเปิดโอกาสให้เพื่อนได้มีส่วนร่วมด้วย นั่นคือการให้เขาแสดงความสามารถ บางครั้งเราอาจเห็นสิ่งดี ๆ ที่เพื่อนมีอยู่ก็ได้  และเป็นการฝึกให้หนูเป็นคนใจกว้าง รู้จักยอมรับความคิดคนอื่น ไม่ปิดกั้น

                  ระยะหลัง ๆ มาไม่ค่อยเห็นภาพที่คุ้นชินที่น้องอายนั่งหน้าคอมฯ ทำงานนาน เข้าใจว่าจะเริ่มปรับตัว ปรับวิธีการ เมื่อลองถามดูก็เป็นจริงดังว่า  วันหนึ่งลูกมาบอกว่า  "แม่ดูรายงานหนูซิ ดีไหม๊ อันนี้จูน(ชื่อเพื่อน) คิด อันนี้หนูพิมพ์ ส่วนค่าปกเรี่ยไรกัน" 

                  ดิฉันมานั่งคิดว่าการที่เราไว้ใจลูกว่าเขามีความรับผิดชอบนั้น บางครั้งในสิ่งดี อาจมีสิ่งที่ไม่ควรซ่อนอยู่ หากเราไม่ได้สังเกต หรือไม่เข้าไปรับรู้บ้าง อาจเป็นโทษได้ เด็กอาจซึมซับเอาความรู้สึกนึกคิดของตนไว้ในตัว นานวันเข้าก็สะท้อนออกมาเป็นพฤติกรรมที่พึงและไม่พึงประสงค์จากความคิดหรือทัศนคติของตน 

หมายเลขบันทึก: 115521เขียนเมื่อ 29 กรกฎาคม 2007 16:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 09:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีครับ

      ในบทบาทคุณแม่ที่สังเกตพฤติกรรมของลูกอย่างศึกษาเข้าใจ ยอดเยี่ยมครับ

สวัสดีค่ะ

P

อ่านแล้วนึกถึงตัวเอง เป็นแบบนี้เลยค่ะ

ชอบทำให้เพื่อน จริงๆต้องทำด้วยกันค่ะ

น้องอายบอกเพื่อนบอกว่าหนูทำแหละดีแล้ว สวยดี หนูเองก็ชอบเพราะทำแล้วได้ความรู้

  • สวัสดีครับ
  • เข้ามาเรียนรู้แนวคิดและแนวทางของการดูแลลูก,  และสอนในสิ่งที่ควรค่าต่อการพร่ำสอนเพื่อให้เขาเติบโตและไม่ทำร้ายคนอื่นโดยไม่รู้ตัว
  • ผมเคารพและยกย่องต่อแนวทางเช่นนี้เป็นอย่างยิ่ง

แม้ว่าลูกจะยินดีทำ แต่ไม่ใช้ทุกอย่างมาอยู่ที่เราเพียงคนเดียว จริงอยู่ที่เราได้ความรู้ แต่เราต้องเปิดโอกาสให้เพื่อนได้มีส่วนร่วมด้วย นั่นคือการให้เขาแสดงความสามารถ บางครั้งเราอาจเห็นสิ่งดี ๆ ที่เพื่อนมีอยู่ก็ได้  และเป็นการฝึกให้หนูเป็นคนใจกว้าง รู้จักยอมรับความคิดคนอื่น ไม่ปิดกั้น

  • ขอบพระคุณครับ

ออดดี้ เพื่อนรัก การได้สังเกต หรือได้ดูแลลูกอย่างใกล้ชิดอย่างนี้ เราไม่ค่อย หรือเคยได้กระทำเลย ตอนนี้ลูกชายเรา ก็ ม.4 แล้วไม่ค่อยเห็นทำการบ้านเลย โทร ถามคราใด ก็บอกว่าทำเสร็จแล้วที่ รร. คุณแม่ ก็เลยตามเลย ไม่ได้ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด มันละเอียดอ่อนมากเลยนะการเลี้ยงลูกนะ แต่เพื่อนสามารถที่เข้าถึงและเข้าใจอธิบายเล่าบอกน้องอายได้อย่างแนบเนียนมากๆๆคะ

 เพื่อนเขวาสินรินทร์555555

พี่ออดดี้คะ...คิดถึงจังค่ะ..ตอนนี้เน็ทที่บ้านดีแล้ว..ไว้จะมาเยี่ยมบ่อยๆนะคะ..ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ..

ขอบคุณค่ะ..

อ่านแล้วประทับใจค่ะ ในความรัก ความใส่ใจ ที่คุณมีให้ลูก โดยไม่ใช้วิธีจ้ำจี้จ้ำใช ซึ่งเด็กส่วนใหญ่จะรำคาญ และไม่ละเลยลูก เหมือนหลายครอบครัว เป็นการวางระยะห่างที่ได้ใจมากค่ะ  ......

ขอยกให้เป็นคุณแม่คนดีที่หนึ่งเลยค่ะ

ดิฉันเสียดายที่ตัวเองไม่มีลูกให้ดูแล มีแต่หลานๆ ค่ะ .. เอาใจช่วยนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท