ดูเผินๆท่วงทีการจับทุ่มดูรุนแรง แต่สิ่งเหล่านี้แฝงการขัดเกลาร่างกายและจิตใจมากมายซ่อนอยู่ จะว่าไปผมใช้ไอคิโดเป็นทั้งการทดสอบความเป็นผู้นำของเด็กและปรับพฤติกรรมเด็กไปในตัวรวมทั้งทดสอบและขัดเกลาตัวเองไปพร้อมๆกัน
ราวหนึ่งเดือนแล้วที่การฝึกวิชาไอคิโด(Aikido)ซึ่งเป็นวิชาการป้องกันตัวอย่างสันติแขนงหนึ่งจากญี่ปุ่นที่ผมจัดฝึกให้กับเด็กๆที่อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เริ่มขึ้นอีกรอบหลังจากซบเซาไปพักหนึ่ง
ผมทบทวนข้อบกพร่องที่ผ่านมาในการนำฝึกก็พบจุดอ่อนหลายประการโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นมือใหม่สำหรับการสร้างเสริมกลุ่มเยาวชนเนื่องจากที่ผ่านมาไปจับกลุ่มที่กว้างเกินไปและไม่ได้สนใจการทำทีมเวิร์คให้กับกลุ่มแกนนำ
ดังนั้น มาฝึกในเทอม2 /2550 นี้ ผมจึงนำบทเรียนมาปรับปรุงใหม่โดยเน้นการสร้างทีมให้เวิร์คในการฝึกมากขึ้นรวมทั้งวางระเบียบการฝึกเท่าที่จำเป็นให้ชัดเจนขึ้น
การจัดฝึกอบรมวิชาไอคิโด เป็นกิจกรรมสำคัญอย่างหนึ่งของ สยชช.ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ที่นี่เข้าเป็นปีที่2 แล้ว การฝึกนี้เป็นการเรียนการสอนอย่างสมัครใจ ไม่มีค่าสอน ค่าเรียน และไม่มีสปอนเซอร์เป็นแหล่งทุนที่ไหน เราคิดเราทำกันเอง
ถ้าใครฝึกครบ 30 ชั่วโมง และมีฝีมือพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางเราก็จะหาชุดฝึก(ทั้งที่หางบซื้อเอง และที่มีผู้ใจบุญบริจาค) ให้ใส่เพื่อเป็นกำลังใจ แต่ต้องมีหน้าที่ไปช่วยผมถ่ายทอดให้กับเด็กคนอื่นต่อไปตามโอกาสที่ตัวเองมี อันนี้เป็นสปิริตของผู้ที่ฝึกได้ดีระดับหนึ่ง แล้วต้องไปทำดีต่อผู้อื่นที่ผมวางเป็นเงื่อนไขไว้
อนึ่งต้องขอขอบคุณชมรมไอคิโด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชานี้ให้กับผม ตั้งแต่ 5 ปีก่อนจนถึงทุกวันนี้
ในการฝึกไอคิโด เด็กจะเก่งตัวคนเดียว เอาตัวรอดคนเดียวไม่ได้ แต่ต้องพัฒนาตัวเองไปพร้อมๆกับพัฒนาคู่ต่อสู้ด้วย ทั้ง เราและเขา ต้องฝึกฝนให้เล่นกลมกลืนไปด้วยกัน
และความกลมกลืนได้นั้นหาใช่เพียงท่วงท่า แต่หมายถึงใจต้องเปิดเข้าสัมผัสกันอย่างอ่อนโยนจึงจะพัฒนาการฝึกไอคิโดได้ หลักการสำคัญของศิลปะการต่อสู้แขนงนี้อยู่ตรงนี้
ผมยังคงได้บทเรียนใหม่ๆจากการฝึกร่วมกับเด็กอยู่เรื่อยๆและยังจดจำคำของอาจารย์ ฟูกากูซ่า นายกสมาคมไอคิโดประเทศไทย ครั้งเมื่อได้ไปฝึกร่วมกับท่านเมื่อมกราคมที่ผ่านมา ท่านกล่าวและยิ้มกับศิษย์ด้วยความเมตตาว่า
“ ยิ่งเราฝึกได้ในระดับสูง ต้องยิ่งไปฝึกให้กับผู้ที่ฝึกหัดใหม่ ไอคิโดไม่ได้สอนให้เห็นแก่ตัว คนเก่งไม่ควรมาฝึกกับคนเก่ง แต่ควรฝึกกับคนไม่เก่งให้มาก เพื่อให้ตัวเองมีจิตใจอ่อนโยนมีเมตตาและไม่ลืมว่าก่อนที่ตัวเองจะมาเก่งแบบนี้ ตัวเองก็เคยไม่เก่งมาก่อน”
หลักการฝึกนี้ผมพยายามนำมาใช้กับงานวิจัยและพัฒนาชุมชน รวมทั้งกิจการต่างๆ ของ สยชช.และก็ระลึกอยู่เสมอว่า ตัวเองยังเป็นนักเรียนน้อยของโลก
ภาพที่นำมาเล่าประกอบนี้เป็นการฝึกไอคิโดร่วมระหว่างเด็กนักเรียนไทใหญ่ โรงเรียนอนุบาลปางมะผ้า กับเด็กนักเรียนลีซูและกะเหรี่ยงจากโรงเรียนศูนย์ปางมะผ้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นด็กไร้สัญชาติ
เราแปลงโรงครัวของโรงเรียนเป็นโรงฝึก ถึงเบาะจะขมุกขมัวไปด้วยผงละอองถ่าน แต่ผมเชื่อว่าจิตใจผู้ฝึกในวันนั้นจะยังขาวและขาวขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เมล็ดพันธุ์แห่งมิตรภาพในการฝึกกำลังงอกเงยขึ้นอย่างช้าๆ
ไอ้ผมก็เคยรับปากพี่เวาว่าจะไปช่วยกิจกรรม แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้ไปสักที
ตัวผมเป็นคนเกียจคร้าน พอได้เห็นว่ามีคนทำสิ่งดีดี ให้กับคนรอบข้าง ก็รู้สึกสำนึกขึ้นมาว่า เออ เราก็อยากทำสิ่งดีดีแบบนั้นบ้างนะ รู้สึกมีแรงบันดาลใจขึ้นมาเลยล่ะครับ
เป็นกำลังใจให้ทำกิจกรรมดีดี ต่อไปครับ
สวัสดีน้องบีเวอร์
สวัสดีครับพี่กบและเพื่อนพ้องพี่น้องเลือดไอคิโด