สวัสดีครับ ผมจะขอเล่าต่อจากตอนที่1 ซึ่งเรามีเป้าหมายในใจว่าจะต้องสร้างเวทีให้คุณเอื้อทั้งระดับจังหวัดและอำเภอ คุณอำนวยทั้งระดับจังหวัด อำเภอ ได้พบกันพร้อมได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในงานส่งเสริมการเกษตรร่วมกัน ในขณะเดียวกันก็ค้นหา Best practice ไปพร้อมกัน เราจะใช้Best practice นี้แหละ เป็นสื่อให้เหล่าคุณเอื้อ ได้เห็น กระบวนการและเนื้อหาของความสำเร็จในกิจกรรมนั้นฯ
ในการจัดDW ครั้งนี้เราได้สอดแทรกทั้งที่เป็น การค้นหาขุมความรู้ของแปลงเรียนเศรษฐกิจพอเพียงบ้านหนองแขม พร้อมได้ฝึกทักษะให้คุณอำนวยทั้งระดับอำเภอและจังหวัดค้นหาองค์ความรู้ในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับหลักการเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน3 ด้านคือ
(1)ความมีเหตุผล โดยคุณฉะอ้อน มะโนแสน ได้ใช้เนื้อที่ทำการเกษตรทั้ง8 ไร่อย่างเต็มที่ มีกิจกรรมที่กินได้ ขายได้ เกิดการออม มีกิจกรรมที่เกื้อกุลกันได้แก่ ใช้กล้วยนำว้าสุก เลี้ยงปลาและสุกร เลี้ยงเป็ดบนบ่อปลา นำผักตบชะวาไปเป็นอาหารสัตว์ สูบนำจากบ่อเลี้ยงปลาไปใส่นาข้าวทั้งแปลงของตนเองและเกษตรกรที่เป็นเพื่อนบ้านเป็นการแบ่งปันให้เพื่อนบ้านอีกด้วย โดยการเริ่มต้นกิจกรรมเริ่มจากเล็กไปหาใหญ่
(2)ความพอประมาณ โดยคุณฉะอ้อน มะโนแสน ไม่มีการกู้เงินเพิ่ม ปรับปรุงและพัฒนากิจกรรมของตนที่มีอยู่เดิม โดยไม่มีการเพิ่มทุน ควบคุมรายจ่าย ในขณะเดียวกันมุ่งเก็บผลผลิตในแปลงที่เหลือจากกินก็นำไปขาย
(3) ภูมิคุ้มกัน โดยคุณฉะอ้อนมีกิจกรรมที่หลากหลาย ในขณะเดียวกันต้องเก็บผลผลิตจากแปลง จนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีรายได้รายวัน มีรายได้รายเดือน และมีรายได้รายปี พร้อมทั้งสร้างครอบครัวให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง และได้บริโภคอาหารในแปลงที่มีความปลอดภัย และสำคัญที่สุด มีกิจกรรมที่เกื้อกูล ลดความเสี่ยง ลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้
พอมาถึงตรงนี้เราคาดหวังว่า CKO ได้เห็นและเข้าใจในการสร้างเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน คงจะเปิดไฟเขียวให้เหล่า เราคุณอำนวยทั้งระดับอำเภอ จังหวัด พร้อมทั้งส่งเสริมคุณกิจให้เป็นวิทยากรเกษตรกรประจำศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ผมเห็นว่าเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ KM จากงานที่ทำอยู่โดยแท้ เนียนอยู่กับงานที่ทำ เข้าใจไปพร้อมๆกัน ไม่แปลกแยกไปจากงานที่ทำ เป็นวิธีคิดและวิธีทำที่เยี่ยมมากๆ