บรรยากาศที่ไร่ เอ็มม่า ลี
ขั้นแรกคือ เอาถังพลาสติก (bucket) ไปชั่งน้ำหนักก่อน น้องเค้าก็จะเขียนไว้ข้างๆว่าหนักกี่ปอนด์
แล้วเราก็ลุยเข้าไร่ไปเก็บได้เลย ตามใจชอบ เก็บไปกินไปได้ (รูปซ้ายนั่นแรงงานต่างด้าวสองคน)
มีคนมาเก็บกันหลายกลุ่มค่ะ วันนี้อากาศเย็นๆ แดดไม่แรง
เราก็เลือกลูกสุกๆ เวลาเด็ดต้องเด็ดส่วนก้านออกมาด้วย
เสร็จแล้วก็เอาไปชั่งน้ำหนัก เค้าขายปอนด์ละ C$1.40
ก็ตกเป็นเงินไทยก็ กิโลละ 102 บาท (เทียบ C$1 ให้เท่ากับ 33 บาท)
ถูกกว่าซื้อตามตลาด หรือ ที่ซุปเปอร์มาเก็ตมากค่ะ
การมาเก็บเองแบบนี้ เรียกว่า U-PICK ค่ะ
ถ้าเห็นป้ายข้างถนนที่ไหน ก็เลี้ยวแวะเข้าไปได้เลยค่ะ
อาจารย์เชื่อไหมคะว่า เมืองไทยไม่กล้าทำแบบนี้ เพราะ 1. คนที่เข้าไร่ เก็บกินซะ 1 กิโล แล้วเก็บใส่กระป๋อง มา 1 ขีด คิดเงิน 2. เจ้าของไร่เสี่ยงต่อหัวแตกเพราะ สตรอ.เบอรี่..ที่เมืองไทย....รสคล้ายมะดัน
รูปสวยนะคะ ...สตรอเบอรี่ น่ากินมาก ......รสคงหวานอร่อย ขอบคุณค่ะที่นำสิ่งดีๆมาเล่าสู่กันฟังคะ
สวัสดีค่ะคุณมัทนา พี่ไม่ได้เข้ามาอ่านและเขียนบล็อก นานมากๆเพราะปฏิบัติธรรม ผ่านการเขียนหนังสือหนึ่งเล่มให้งานเครือข่ายเบาหวาน พูดซะดูดีเลยค่ะ ท่านพุทธทาสเทศนาไว้ว่า การทำงานคือการปฏิบัติธรรม พี่ว่าพี่ก็ใช้ธรรมะหลายข้อ และต้องมีสมาธิ สติ ปัญญาด้วย เพิ่งทำต้นฉบับเสร็จวันนี้เอง หลังเก็บกวาดห้องที่รกเกลื่อน สบายใจ แล้วก็เข้ามาเยี่ยมเยียนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ รายงานตัวว่ามาแล้วค่ะ
ดีใจที่เห็นคุณมัทไปเที่ยว ได้พักผ่อน ได้เรียนรู้ไปในตัว
เห็นสตรอเบอรี่และเรื่องที่เล่าทำให้นึกภาพความสดฉ่ำของสตรอเบอรี่ที่แก่จัด พอกัดลงไปแล้วหอมกรุ่นทันที ขอบคุณที่นำภาพสวยๆมาให้ชมกันเสมอค่ะ
ขอบคุณมากค่ะอาจารย์คุณนาย : ) อ.บรรยายได้ความรู้สึก ทั้ง รูป กลิ่น รส สัมผัส เลยค่ะ
สงสัยเราจะต้องสวนกันไปสวนกันมาอีกแล้วค่ะ มัทว่าจะปฎิบัติธรรมเขียน thesis บทนี้ให้เสร็จเร็วๆนี้ ว่าจะห่างๆ gotoknow ไปแว๊ปใหญ่ๆซักสี่ห้าวัน
ไว้กลับมาแล้วจะแวะไปที่ blog อาจารย์นะคะ
หวัดดีค่ะ อ.มัท
แวะมาชิมสตรอเบอรี่ค่ะ (อาจารย์คุณนายด็อกเตอร์บรรยายได้รสชาติจริงๆ) อ.มัท ถ่ายรูปเองอีกรึปล่าวคะ ขอให้ อ.มัท ปฏิบัติธรรม (ธี-สิส-สะ-ธรรม) อย่างปราดเปรื่องเลยนะคะ เอาใจช่วยไปทุกบันทึกเลย อิอิ : )