มูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน
ว่าที่ร้อยตรี จิรศักดิ์ กรรเจียกพงษ์

วิจัยชี้ เด็กมหาวิทยาลัยกลุ่มเป้าหมายบริษัทน้ำเมา


นักวิจัยชี้ บ.น้ำเมาพุ่งเป้าเด็กมหาวิทยาลัย เกณฑ์อายุต่ำลงทุกปี อึ้งเด็กประถมจำโลโก้ได้ 100%-เก็บเงินซื้อเบียร์ดื่มตอนโต ด้านเลขามูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชนเผย เร่งดันร่าง พรบ.ควบคุมฯแอลกอฮอล์ผ่าน สนช. ให้ได้ อาจารย์วารสารฯ มธ.แจง พรบ.ไม่ผ่านชัวร์ เพราะกรรมการ สนช. ฟันธงไว้แล้ว ห่วง พรบ. ถอยหลังเข้าคลอง นายก อศ.มร-ม.ราชภัฎพระนคร ประกาศกร้าว ไม่รับเงินหนุนกิจกรรมนิสิตจาก บ.น้ำเมา

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร จัดเสวนาวิชาการ "เยาวชน เหยื่อการตลาดธุรกิจน้ำเมา" โดยมีนักวิชาการและผู้นำนักศึกษาเข้าร่วมแสงดความคิดเห็นจำนวนมาก โดย ดร.ศรีรัช ลาภใหญ่ หัวหน้าหลักสูตรนิเทศศาสตร์นานาชาติ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต นักวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีต่อเยาวชน กล่าวว่า ตลาดสุราได้มุ่งเด็กมหาวิทยาลัยโดยนำเข้าไปผูกพันกับกิจกรรมอย่างมาก ใน 1 ปี เช่น สงกรานต์ วาเลนไทน์ รับน้องโดยใช้สุราเพื่อสานสัมพันธ์และเรียกน้ำสปิริต เพราะกลุ่มเยาวชนมีความพร้อมในการบริโภคสินค้า และเด็กเติบโตมากับแบรนด์จึงเกิดการติดตา เด็กเกิดในยุคมีเดียล้นหลามทำให้พบเห็นและรับสื่อโดยไม่รู้ตัว ความรู้เท่าทันมีจำกัดโดยวัย เกิดความภักดีต่อตราสินค้าได้ง่าย การที่เด็กมหาวิทยาลัยเข้าถึงเคื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในร้านสะดวกซื้อ เพราะความเข้มแข็งในเด็กมหาวิทยาลัยต่ำ

ดร.ศรีรัช กล่าวอีกว่า ธุรกิจแอลกอฮอล์ในช่วง 10 ปีนี้ กลุ่มเป้าหมายอายุลดลงเรื่อยๆทุกปี เพราะตลาดผู้ใหญ่เริ่มคงที่แล้ว การตลาดที่ขยายตัวมากขึ้น ย่อมมีการแข่งขันการโฆษณากันเพิ่มมากขึ้นด้วย ใน 1 ปี ออกโฆษณามากมาย

"เคสของเบียร์ช้าง เรามีการสำรวจเด็กในระดับประถมศึกษา ประมาณ 150 คน พบว่า เด็กจดจำตราสินค้าได้ชัดเจนมากถึงร้อยละ 100 และบอกว่า ต่อไปจะสะสมเงินซื้อเบียร์ช้าง ถ้าพ่อแม่อนุญาต เพราะเห็นว่าเบียร์ช้างสนับสนุนการกีฬาไทย ช่วยเหลือคนจนเด็กบอกว่าโตขึ้นอยากดื่มเบียร์ช้างเพื่อตอบแทนที่เบียร์ช้างช่วยเหลือสังคม ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก และอีกอย่างสื่อโฆษณาใช้เด็กเป็นพรีเซ็นเตอร์เข้าไปสื่อสารกับเด็กด้วยกันเอง ทำไห้เกิดการเลียนแบบได้ง่าย" ดร.ศรีรัช กล่าว

ด้านนายพิริยะ ทองสอน เลขาธิการมูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน กล่าวว่า การขับเคลื่อนร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ทางคณะกรรมการพิจารณาพยายามบล็อคไม่ให้ผ่าน ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ประเด็นนี้ถูกนำมาถกกันมาก แต่ถูกพิจารณาให้ตกไปหลายครั้ง ทั้งที่มีงานวิจัยระบุชัดเจนว่า การโฆษณาทำให้เยาวชนคุ้นเคยภาพลักษณ์ของตราสินค้า เกิดความรู้สึกไม่เป็นพิษเป็นภัย แต่เป็นผลทางอ้อมให้เลือกในสิ่งที่คุ้นเคยมากที่สุด

นายพิริยะ กล่าวอีกว่า ถ้า พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับใหม่ออกมาแล้วไม่มีการควบคุมการโฆษณา องค์กรธุรกิจน้ำเมาจะมีการโฆษณามากกว่านี้อีก ต้องจับตาความเคลื่อนไหวของ พรบ. เร่งแก้ ณ ปัจจุบัน และ สนช. เป็นผู้ที่จะต้องฟันธงเรื่องนี้ แต่มีข้อมูลด้านนี้น้อยมาก ขณะที่มีข้อมูลองค์กรธุรกิจน้ำเมาเยอะกว่า ว่าองคค์กรธุรกิจน้ำเมามีส่วนช่วยเหลือสังคมอย่างไร

"ภาคประชาชนต้องช่วยกันผลักดันให้เรื่องถึงมือของ สนช. เข้าไปอยู่ในสมองให้ได้ และให้ พรบ. คลอบคลุมเนื่อหาให้สมบูรณ์ที่สุด จะให้มาตราใดมาตราหนึ่งหลุดไปไม่ได้ เพราะต้องปกป้องเยาวชนที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ แต่การห้ามผลิตเลยคงไม่ได้ เพราะจะเกิดปัญหาเหล้าเถื่อนตามมา ถ้า พรบ. ไม่ผ่านในรัฐบาลชุดนี้ภาคธุรกิจน้ำเมาจะเจริญมากโดยเป็นแหล่งทุนข้อตกลงทางการเมือง จะให้ออกมาในรัฐบาลชุดหน้าเป็นเรื่องยากแน่นอน" เลขาธิการมูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน กล่าว

ดร.ธาตรี ใต้ฟ้าพูล อาจารย์คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า เขามีส่วนร่วมนำ พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปชี้แจงต่อ สนช. แต่ไม่ผ่าน เพราะกรรมการพิจารณาส่วนใหญ่มาจากภาคธุรกิจเกี่ยวกับแอลกอฮอล์ คณะกรรมการบางคนเป็นเจ้าของธุรกิจเอง จะมีนักวิชาการจริงๆเข้าไปบางส่วนเท่านั้น และกรรมการมีธงอยู่แล้วว่าจะมีมติอย่างไร

ล่าสุดมีการตั้งอนุกรรมการควบคุม ตั้งเเคน์เตอร์แอด คือ ปล่อยโฆษณาเท่าไหร่ก็ได้แต่ต้องจ่ายเงินค่าออกอากาศบอกถึงผลเสียในเวลาที่เท่ากันแก่กระทรวงสาธารณสุขด้วย แต่กลับเป็นผลเสีย เพราะการจะโปรโมทให้คนชอบโฆษณานั้นทำง่าย แต่การต่อต้านบอกถึงผลเสียไม่สามารถทำได้ในเวลาเท่ากันได้ ถ้าเป็นอย่างนี้ถือว่า พรบ. กำลังถอยหลังเข้าคลอง

ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ บุญเก็บ อาจารย์ภาควิชาเทคโนโลยีการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ คณะเทคโนโลยีการสื่อสาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร(มทร.พระนคร) กล่าวว่า การที่จะแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้หลายฝ่ายต้องร่วมมือกันจึงจะมีแรงผลักดันมากกว่านี้ในการขับเคลื่อน พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไทยมีกฎหมายที่ดีแต่ชอบยืดหยุ่น ผ่อนผัน จึงอยากให้ผู้รักษากฎหมายมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น

นายสิกขนันท์ หนูเล็ก นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง (อศ.มร.) กล่าวว่า เยาวชนไทยตกเป็นเหยื่อของตลาดน้ำเมาจริง เพราะเมื่อก่อนกลุ่มที่ดื่มเป็นคนทำงานแล้ว แต่ปัจจุบันขยายฐานมาสู่นักเรียน นิสิต นักศึกษา ไม่ว่าจะผ่านสื่อ ทีวี โปสเตอร์ อินเตอร์เน็ต สังคมไทยเปิดกว้างให้สื่อโฆษณาน้ำเมาเข้ามาได้มาก ทำให้เกิดการจำติดตา คุ้นเคยจนมองเป็นเรื่องธรรมดา ทั้งที่เป็นสาเหตุหลักของปัญหาทะเลาะวิวาท และอุบัติเหตุ และเห็นว่าวัยนี้ควรนำเวลาว่างไปทำอย่างอื่นมากกว่า

ทั้งนี้หลายมหาวิทยาลัยประสบปัญหาน้ำเมาเข้ามาสนับสนุนกิจกรรมต่างๆในสถานศึกษา เพื่อโฆษณาโลโก้แฝง ฝากนักศึกษาอย่าหลงตกเป็นเครื่องมือรับการช่วยเหลือจากธุรกิจน้ำเมาเหล่านี้เพราะเป็นความคิดที่ฉาบฉวย อศ.มร.ขอประกาศไม่รับเงินสนับสนุนกิจกรรมจากบริษัทน้ำเมาเป็นอันขาด

น.ส.วรรณวิศา คำดี นายกองค์การบริหารนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร กล่าวว่า การรุกของบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยการโฆษณามีมากและมีผลโดยตรงกับนักศึกษา ในส่วนขององค์การบริหารนักศึกษาพยายามผลักดันให้ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ห่างจากสถานศึกษา 500 เมตร เพราะเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีกับสถาบัน ถ้ามองในแง่ธุรกิจมีข้อดีมาก แต่ถ้ามองในแง่ของความเป็นมนุษย์ถือเป็นการทำลายเยาวชนโดยตรง ซึ่งทางมหาวิทยาลัยจะแก้ไขโดยรณรงค์สอดแทรกในกิจกรรมต่างๆ ไม่ให้องค์กรธุรกิจน้ำเมาเข้ามาสนับสนุนได้ ไม่ให้มีการแทรกแซง และจะร่วมผลักดัน พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผ่านให้ได้

ที่มา :  กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2550 12:30:00

ภาพบรรยากาศงานเสวนาวิชาการ "เยาวชน เหยื่อการตลาดธุรกิจน้ำเมา"

หมายเลขบันทึก: 104263เขียนเมื่อ 18 มิถุนายน 2007 12:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน 2014 13:38 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะ

เป็นกิจกรรมที่ดีนะคะ ติดตามมาอ่านบันทึกค่ะ

  • ที่มหาวิทยาลัยผม ร้านเหล้า ผับบาร์ อยู่ล้อมรอบมหาวิทยาลัย ผมเคยไปหลายๆมหาวิทยาลัย ก็มีลักษณะเดียวกัน ไม่ทราบตามกฏหมายเค้าว่าอย่างไร ต้องให้ห่างจากสถานศึกษาเท่าไหร่
  • จะว่าไปการไปไล่ร้านเหล้าก็เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ต้นเหตุเกิดจากนิสิตแท้ๆที่เดินเข้าไปหามันเอง
  • ดีครับกิจกรรมนี้ แนวโน้มนิสิตดื่มเหล้าเยอะขึ้นทุกปี สังคมจะแย่เอา
  • เป็นห่วงจริงๆครับ ปัญญาชน
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท