เนื่องมาจากวงจรหน้าจืด (จืดสนิทจริงๆ) ช่วยผมด้วยนะครับ


บันทึกของนักศึกษาปริญญาเอกภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของ blogger ใน gotoknow

      เนื่องมาจากบันทึกนี้ของพี่บางทราย   ผู้เขียนเข้าไปแสดงความคิดเห็น ไม่นาน ท่านอาจารย์มัทนา ท่านอาจารย์กมลวัลย์ คุณเบิร์ด ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็น ดังนี้ครับ  

ขจิต ฝอยทอง
เมื่อ ส. 09 มิ.ย. 2550 @ 01:13 [
286673]
  • มาทักทายพี่ชาย
  • แถวๆๆสุพรรณ กาญจนบุรี
  • พอไปถามข้อมูลก็ได้แบบพี่ครับ
  • วงจรเงินกู้เกษตรกร ที่เรียกว่า "วงจรหน้าจืด"
  • สงสารชาวบ้านไม่ทราบว่าจะช่วยอย่างไรดี
  • ใครมีหนทางช่วยได้บ้างครับ
  • หนี้มีหลายระบบมาก

    <table border="0" cellpadding="0" width="100%" class="MsoNormalTable" style="width: 100%"><tbody><tr><td style="background-color: transparent; border: #ebe9ed; padding: 0.75pt"></td><td width="100%" style="width: 100%; background-color: transparent; border: #ebe9ed; padding: 0.75pt">มัทนา
เมื่อ ส. 09 มิ.ย. 2550 @ 03:26 [
286728]
</td></tr></tbody></table>ตอนพานักศึกษาไปออกชุมชนแถวลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี ก็พบปัญหานี้เช่นกันค่ะ ทีนี้ปัญหาที่ไปพบที่ร้ายมากคือการขายที่นา เอาเงินมาใช้หนี้ค่ะ  (ไม่มีนา แต่แทบทุกบ้านที่เป็นหนี้มีมือถือค่ะ  มีสิ้นค้าขายตรงพวกแอมๆ จิ๊ฟๆใช้ด้วย!) ทีนี้พอไม่มีที่นาเป็นของตัวเอง ก็ต้องไปรับจ้างทำนาที่อื่นๆ บางทีไปถึงชัยนาท นครสวรรค์ ใึครไปเช้าเย็นกลับก็ยังไม่เท่าไหร่  ครอบครัวยังเป็นครอบครัว แต่หลายๆบ้านไปนาน บางทีไปหางานอื่นทำ ในหมู่บ้านมีแต่คนแก่กับหลาน <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal" align="justify">ถ้ายังมีที่ดิินทำการเกษตรอยู่ ยังไงซะยังพอหาทางออกได้ แต่นี่ หน้าจืดสนิทค่ะ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal" align="justify"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal" align="justify"></p>  <div align="justify"><table border="0" cellpadding="0" width="100%" class="MsoNormalTable" style="width: 100%"><tbody><tr><td style="background-color: transparent; border: #ebe9ed; padding: 0.75pt"></td><td width="100%" style="width: 100%; background-color: transparent; border: #ebe9ed; padding: 0.75pt">กมลวัลย์
เมื่อ ส. 09 มิ.ย. 2550 @ 08:30 [
286794]
</td></tr></tbody></table></div>อ่านแล้วรู้สึกจืดสนิทเหมือนกันค่ะ… ดูวงจรแล้วมันวนไม่มีสิ้นสุดเลย แต่ละรอบที่วน ต้นกับดอกก็จะสูงขึ้นๆ คนเป็นหนี้ก็จะเป็นหนี้แบบไม่มีสิ้นสุด…ไม่มีงานในชุมชน –> ไม่มีเงินใช้ –> ออกไปหางานที่อื่น –> เงินเดือนที่ได้ไปหมุนอยู่ในชุมชนอื่น เช่นกรุงเทพ (ที่ค่าครองชีพแพง) ไม่กลับมาที่บ้านเกิด –> ซื้อมือถือ ทีวี ฯลฯ –> ไม่มีคุณภาพชีวิต ไม่มีเงินเช่นเดิม –> กู้เงิน ….  เข้าสู่วงจรหน้าจืด…ทำอย่างไรถึงจะให้ชาวบ้านช่วยเหลือตัวเองได้..มีรายได้อยู่ในชุมชนของตัวเอง การช่วยเหลือต้องเป็นการสร้างอาชีพ ไม่ใช่การให้กู้ แล้วมายกหนี้ พักชำระหนี้ แล้วก็ให้กู้อีก <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal" align="justify">การช่วยเหลือจะต้องสร้างเศรษฐกิจในชุมชน..ต้องมีงาน..สร้างงาน… แต่ปัญหานี้ ใหญ่มากจริงๆ นี่ก็กำลังดูรายการเปิดบ้านพิษณุโลก นายกสุรยุทธ์กำลังพูดถึงการสร้างชุมชนเข้มแข็ง แต่ก็ยังไม่เห็นทางออกที่ชัดเลย…</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal" align="justify"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal" align="justify"></p>  <div align="justify"><table border="0" cellpadding="0" width="100%" class="MsoNormalTable" style="width: 100%"><tbody><tr><td style="background-color: transparent; border: #ebe9ed; padding: 0.75pt"></td><td width="100%" style="width: 100%; background-color: transparent; border: #ebe9ed; padding: 0.75pt">เบิร์ด
เมื่อ ส. 09 มิ.ย. 2550 @ 09:18 [
286823]
</td></tr></tbody></table></div><p>สวัสดีค่ะพี่บางทรายตอนนี้เบิร์ดก็กำลังเจอ " วงจรหน้าจืด " ในชุมชนเหมือนกันค่ะ..ทำเอาเบิร์ดหน้าจืดสนิทเลย…ต้องค่อยๆดูทีละปม..ตอนนี้ยังไม่ได้แก้ไขอะไรเพราะยังแกะไม่ออกมีคำแนะนำมั้ยคะ…เบิร์ดมึนตึ้บเลยค่ะมีหนี้แม้แต่ค่าโทร.มือถือ !        </p><p></p><p>   แสดงว่าเราพบวงจรหน้าจืด  จืดสนิท แบบนี้ในเกือบทุกที่ของเมืองไทย  อยากได้วิธีการแก้ปัญหา  ขอความกรุณาผู้รู้ เข้ามาแสดงความคิดเห็นให้หน่อยครับ ว่าเราควรแก้ปัญหานี้อย่างไร ขอบคุณครับผม   </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal" align="justify">ขอบคุณ บันทึกนี้ของพี่บางทราย    ท่านอาจารย์มัทนา ท่านอาจารย์กมลวัลย์    คุณเบิร์ด มากครับผม</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal" align="justify"> </p>

หมายเลขบันทึก: 101939เขียนเมื่อ 9 มิถุนายน 2007 10:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2013 21:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (34)
  • ดอกเบี้ยนอกระบบ หากใครติดเชื้ออยู่ จะต้องตัดก่อนตายนะคะ มันลุกลามน่ากลัวมากค่ะ
  • สวัสดีค่ะ
  • ขอบคุณพี่
    P
  • มากครับผม 
  • มันเป็นหนี้ที่ต้นทบดอก
  • ดูแล้วไม่ทราบว่าจะแก้ปัญหาตรงไหนก่อนดี
ไม่รู้ว้า microcredit ของคุณ ยานุส จะนำมาใช้บ้านเราได้ไม๊? มีคนไปดูงานมาแล้วมากมาย อาจจะมีชุมชนตัวอย่างแล้วก็ได้ค่ะ

สวัสดีท่านอาจารย์ขจิตค่ะ

  • หนี้มีมากมายหลายระบบ  และบางคนเป็นหนี้ที่ควรจะเห็นก็  OK  นะคะ  พอจะรับได้  เช่น  เป็นหนี้  เพื่อที่อยู่อาศัย  เพื่อการศึกษา
  • แต่หลายๆคนเป็นหนี้เพราะติดสุขทางวัตถุ  เลยพยายามดิ้นรนหาเงินมาเพื่อให้ได้มาซึ่งวัตถุ  เห็นคนอื่นเขามี  ก็อยากจะมีเหมือนเขา  แต่ไม่ได้คำนึงถึงความจำเป็น  ว่าจำเป็นหรือไม่  สุดท้ายก็มีหนี้สิน...บานตะไท...
  • ในขณะที่บางคน  มีเงินมากมาย  แต่ดำเนินชีวิตอย่างสมถะ  อยู่อย่างพอเพียง  และมีความสุข  ใช้เฉพาะสิ่งที่จำเป็นในชีวิต...จะทำอย่างไรกันดีหนอให้คนรู้จักการเป็นอยู่อย่างพอเพียง....เฮ้อ!
  • คิดถึงคำโบราณท่านว่า  "เห็นช้างขี้  อย่าขี้ตามช้าง"
  • ตอนนี้  แอ๊ดก็รู้แต่ปัญหาที่เกิด  แต่ยังไม่รู้จะช่วยแก้อย่างไร  เหมือนกันค่ะอาจารย์...ก็เลยบ่นๆ  ให้อาจารย์รับรู้  ว่าชุมชนคนอุตสาหกรรมก็กลุ้มเหมือนกัน...(*_*)

 

 

ตอนนี้ กระแสอยู่กันอย่าง " พอเพียง " กำลังมาแรงค่ะ

ว่าแต่จะ " เพียงพอ " หรือไม่นี่  ก็คงจะแล้วแต่บุคคล เนอะคะ

  • ขอบคุณมากครับอาจารย์
    P
  • สงสัยจะใช้ไม่ได้แล้วครับ
  • บ้านเราหนี้มันทับถมมากเหลือเกินครับ

 

       ขอบคุณคุณP

  • บ้านเราค่อนข้างมีปัญหา
  • อยากได้หนทางแก้ไขจังเลยครับ
  • จะได้ช่วยชาวนาหรือประชาชนบ้านเราได้
  • ขอบคุณคุณเนปาลีมากครับ
  • ตัวอย่างการพอเพียงบ้านเราไม่ชัด
  • รัฐบาลไม่ได้ช่วยเหลือและสนับสนุนจริงๆๆครับผม
  • มีหลายคนที่ตีความคำว่า  "เศรษฐกิจพอเพียง"  ไปในทิศทางที่ต่างกัน
  • แต่จากปัญหาที่อาจารย์นำมาให้อ่านเป็นวิทยาทานเป็นสติเตือนใจอย่างหนึ่ง
  • การรู้จักใช้  รู้จักจ่าย  และรู้จักเก็บ  เท่านั้นที่จะสามารถช่วยได้
  • อย่างไปมัวหลงไหลกับแฟชั่นกระแสวัตถุนิยม
  • ไม่มีใครช่วยท่านได้  นอกจากตัวท่านเอง  ฉะนั้นอย่างเพิ่งมีความหวังกับรายการปลดหนี้โดยมีเครื่องมือ  หรือบุคคลอื่นเข้ามาช่วย  หรือการยั่ยุให้หลงมัวเมากับการสร้างหนี้สินเพื่อสนองความต้องการที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล
  • อยากให้ดูประเทศเพื่อนบ้านเรา  "เมียนมาร์"  ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง  แต่ประเทศเมียนมาร์ไม่ยอมเป็นหนี้  เขาอยู่อย่างที่เขามี  พัฒนาตามที่เขามีอิยู่ให้ดีขึ้นประชาชนมีความสุขกับการขึ้นไปไหว้พระที่เจดีย์ชเวดากอง 
  • หรือประเทศที่เราฮือฮากันมากในเรื่องของมวลความสุขของประชาชน  "ภูฏาน"
  • พระราชดำรัสเรื่องความพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ  ทรงพระราชทานต่อปวงชนชาวไทยมาก่อนหน้าที่ประเทศไทยจะประสบสภาวะเช่นปัจจุบันนับเป็นหลายสิบปี
  • เราใกล้เกลือกินด่างกันหรือเปล่า  เรามีพุทธสุภาษิตที่สอนให้เรารู้จักประมาณตน  เรามีพระราชดำรัสที่แสดงถึงความรักความห่วงใยที่มีต่อพสกนิกร
  • เราเห็นเป็นอย่างไรกันบ้าง

แก้ไขยากค่ะ อาจารย์ขจิต

คนเป็นหนี้จำนวนมาก มักมีสิ่งของในบ้าน เช่นทีวี ตู้เย็น มือถือ รถ ฯลฯ ถ้าถามว่าเขาจะขายบางส่วนไปใช้หนี้ไหม..คำตอบมักจะ"ไม่ได้ เพราะว่าจำเป็น"..แต่พอของเหล่านั้นเสียก็จะไม่ซ่อม กลับมองหาทางซื้อของใหม่ ....

ผู้หญิงบางคนที่หน้าจืดเป็นหนี้สินแต่มีเสื้อผ้าใหม่ใส่ทุกเดือน ถามว่าหยุดซื้อและใส่ของเดิมไหม คำตอบก็จะ "ไม่ได้" และมีข้ออ้างมากมาย..บางคนก็ชอบสะสมหนี้เป็นกิจวัตร เช่นมองหาลู่ทางกู้เงินทุกช่องทาง...ทั้งๆที่ไม่จำเป็นมากถึงขั้นต้องกู้...และพอกู้แล้วก็กินๆ ใช้ๆ เที่ยวๆ ซื้อๆ...หมดแหล่งกู้หนึ่งก็ไปแหล่งใหม่ ...วนเวียนจนท้ายที่สุดต้องออกจากราชการเอาเงินสะสมมาจ่ายหนี้..หมดหนทางทำมาหากินไปใหญ่

บางคนไม่ทำกับข้าวเองซื้อมากินไม่หมดก็ทิ้ง มื้อใหม่ซื้อใหม่ฯลฯ ซื้อผักก็ไม่กะพอกิน ซื้อมากแล้วปล่อยเหี่ยวเน่าไป เงินที่สูญไปแบบนี้แหล่ะค่ะ ที่มองกันไม่ค่อยเห็น

เอ้าลืม...มาบ่นแทนที่จะช่วยคิด...

สวัสดีค่ะคุณขจิต

ตอนนี้เบิร์ดให้ทำบัญชีครัวเรือนค่ะ...ชาวบ้านกลัวการทำบัญชีครัวเรือนค่ะ เพราะกลัวความจริง !

และจะให้แยกหนี้สินว่าเกิดจากอะไร หนี้ก้อนไหนที่ต้องชำระก่อน..ฯลฯ

ตอนนี้เปิดเทอมค่าใช้จ่ายมากมายเลยค่ะ  หนังสือเรียนเดี๋ยวนี้ก็มีแบบฝึกหัดอยู่ในนั้นทำให้ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นไม่ได้ แถมถ้าต่างโรงเรียนหนังสือก็ไม่เหมือนกันอีก...

" พอเพียง " นี่แหละค่ะเป็นทางออก แต่ต้องใช้เวลา

ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยกันเขียนเรื่องนี้

  • นักศึกษาหว้าเพิ่งจะทำโครงการที่หมู่บ้านหนึ่งค่ะ  ค่อยๆเริ่มโดยนักศึกษาจะคิดโครงการขึ้นมาให้ชาวบ้านรู้จักวางแผนทางการเงิน
  • โดยมีนักศึกษาบางคนทำงานธกส. เขาก็เลยได้เข้าไปอบรมการทำบัญชีครัวเรือนและสอนการทำปุ๋ยชีวภาพและการทำน้ำยาล้างจาน
  • ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากนะคะในการเข้าไปแก้ไข แต่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันค่ะ  เราต้องช่วยกันสร้างชุมชนเข้มแข็งกันค่ะ
  • น่าเสียดายนะคะเมื่อก่อนชาวบ้านเขาอยู่ของเขาดีๆ  อยู่กันแบบพอเพียงแต่คนเมืองนี่แหล่ะค่ะ  ตลอดจน....ที่สร้างความเคยตัวให้กับชาวบ้าน    สร้างนิสัยการเป็นหนี้ให้กับชาวบ้าน   สร้างความฟุ้งเฟ้อให้กับพวกเขา
  • สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ก็คือ เข้าไปช่วยปลูกฝังความคิดดีๆให้กับพวกเขา   ช่วยให้ความรู้เท่าที่เราทำได้ค่ะ   แต่พวกที่เป็นหนี้กันจนเป็นนิสัยแล้ว  อันนี้หว้าก็จนปัญญาค่ะ
แก้ยากค่ะ ต้องเริ่มที่ความคิด ค่านิยม และจิตสำนึกของชาวบ้านก่อน ใช้เท่าที่มี เกินกว่านี้เราไม่กู้ ถ้าต้องกู้ทำเฉพาะเรื่องจำเป็นที่สามารถคำนวณว่าหาคืนได้ในระยะสั้น ได้เงินมาต้องรีบคืน ที่เหลือออมไว้เป็นทุนส่วนหนึ่ง อะไรที่ไม่จำเป็นอย่าไปซื้อ ไม่สร้างค่านิยมอวดของที่ต้องใช้เงินกู้ไปซื้อมา ต้องทำให้รู้สึกว่า สิ่งฟุ่มเพื่อยต้องไปกู้มาซื้อเป็นเรื่องน่าอาย เป็นการโกหกตัวเองว่าเรามี

แต่ก็พูดยากเพราะเราไม่รู้ว่าเกษตรกรเขามีความนึกคิดยังไง มีข้อจำกัดอะไร และจริงจังแค่ไหนในการแก้ปัญหา หรือคิดแต่ว่ากู้เสร็จ ใช้เงินหมดแล้ว ไม่มีคืนก็รวมตัวกันเอาจำนวนคนเยอะๆ ไปประท้วงเพื่อให้รัฐยกนี้ให้ ยังไงก็ต้องมีคนช่วย เกษตรกรถูกระบบสอนให้คิดเช่นนั้นหรือปล่าว สงสัยอยู่เพราะมีตัวอย่างให้เห็นทุกปี บ่อยครั้งที่เห็นเกษตรกรที่บอกว่าจน ไม่มีเงินใช้หนี้ แต่ใช้มือถือเครื่องหนึ่งเป็นหมื่น มีเงินกินเหล้า มีเงินเล่นพนัน มีเงินซื้อหวย???

การกู้ยืมเงินเพื่อได้มาซึ่งสินค้าโดยที่ตัวเองไม่มีความจำเป็น แต่เกิดจากความอยาก หรือการใช้เงินในเรื่องไร้สาระนั้น... ไม่น่าเห็นใจค่ะ แต่ถ้าเป็นหนี้จากการกู้ยืมเพื่อการลงทุนทำเกษตรแล้วเกิดปัญหาผลผลิตไม่ดี ก็ต้องหาวิธีแก้กันไป อันนั้นเห็นใจ เข้าใจ สงสาร และอยากมีส่วนร่วมช่วยถ้าทำได้ค่ะ
  • ขอบคุณป้าเม้ามากครับผม
  • ได้ข้อคิดดีๆๆมากเลยครับ
  • ผมเชื่อว่าการพออยู่ พอเพียง เป็นทางออกที่ถูกต้องครับผม
  • ขอบคุณครับ
  • ขอบคุณมากครับท่านอาจารย์จันทรรัตน์
  • ได้ประเด็นดีๆๆเสมอ
  • ทำอย่างไรให้เขาตระหนักในการใช้สิ่งของ
  • การปลูกผักกินเอง โดยไม่ต้งพึ่งคนอื่นนี้ทำยากนะครับ
  • ขอบคุณคุณเบิร์ดมากครับ
  • การ พอเพียงเป็นคำตอบที่ดี
  • แต่ทำอย่างไรให้ชาวบ้านปฏิบัตอจริงๆๆนี้ทำยากจังเลยครับผม
  • ขอบคุณน้องลูกหว้ามากครับ
  • แต่ช่วยกันก็ดีแล้วครับ
  • ถ้าชุมชนเข้มแข็งน่าจะเป็นทางออกที่ดีใช่ไหมครับ
  • ปัญหาหนี้ที่ ทับถมมากๆๆนี่แก้ไขยากจังเลยครับ

 

  • ขอบคุณคุณ Little Jazz มากครับผม
  • ชาวบ้านบางครั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกเกินฐานะครับผม
  • ทำอย่างไรที่จะช่วยเหลือกันปลูกฝังค่านิยมนี่ยากเหมือนกันนะครับ

 สวัสดีค่ะ คุณขจิต

  • สบายดีนะคะ.....ท่านอ.หมอสมบูรณ์ถามถึงค่ะว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ที่ไหน..ฝากความคิดถึงมาค่ะ
  • เรื่องหนี้นั้น...ตอนนี้มีมากค่ะ....เดี๋ยวๆก็โทรมาชวนให้กู้...ใช้กันไม่หวัดไม่ไหวแล้วค่ะ....เงินเดือนจะขึ้นตั้ง 4 %...20,000 บาทก็ได้เพิ่ม 800 บาท...เอาไปทำอะไรได้ก็ไม่คุ้มค่า...กับสินค้าและน้ำมันที่แพงหูฉี่ค่ะ...เศรษฐกิจพอเพียงก็ไม่ไหวค่ะ....ปลูกอะไรก็ไม่งาม   ปุ๋ยก้แพง...เลี้ยงปลาก็มีชาวบ้านมุดรั้วมาขโมย......
  • ...อุ๊ย...บ่นซะยืดยาว...แต่ไม่ได้ช่วยอะไรคุณขจิตเลย....คิดซะว่ามีเพื่อนร่วมทุกข์อีกคนก็แล้วกันค่ะ...จะได้ไม่เหงา....

 

 

  • ฝากความระลึกถึงคุณหมอด้วยครับ
  • อยากติดต่อท่านได้จังเลย
  • แค่เป็นเพื่อนช่วยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ก็ดีแล้วครับพี่ติ๋ว
  • ขอบคุณครับผม
  • อยากคุยกับ อ.หมอสมบูรณ์...ฝากข้อความผ่านพี่ได้ค่ะ...
  • อ.หมอสมบูรณ์แวะเวียนถามถึงเพื่อนๆอยู่เสมอ...เราได้พูดคุยกันเกือบทุกวันค่ะ
  • ขอบคุณแทนท่าน..ที่คุณคิดถึงค่ะ
สวัสดีครับผมท่านอาจารย์
P

ขอออกตัวนิด  ปกติผมเป็นคนเก็บตัวพอสมควร ดันหลงมาใน g2k มาเจอเพื่อนๆ แล้วเจอคนอย่าง อ.ขจิต อีก   ทำให้อะไรต่ออะไรของผมเปลี่ยนแปลงไปเยอะ 

ไม่เป็นไรครับ ไม่เห็นหน้าก็ยังดี จะได้ไม่เขิน

อาจารย์ครับ  ที่เคารพครับ 

บทความข้างต้น  บ่งแสดงถึงอะไรต่ออะไรเยอะแยะ

  • สังคมแห่งการบริโภค นิยมในวัตถุ
  • วิถีชีวิต การครองชีวิต
  • ความรู้  ปัญญา การรับรู้
  • การแก้ปัญหา ต่อแต่ละปัญหา
  • วัฒนธรรม การเปลี่ยนแปลง
  • สื่อที่มีอิทธิพล ต่อ ผู้คน
  • ความเอาใจใส่และการแก้ปัญหาด้วยความจริงใจของรัฐ
  • การรวมตัวของชุมชน ด้วยการแก้ปัญหา

ไม่ใช่เป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้  ไม่ใช่ปัญหาโลกแตก  ไม่ใช่ปัญหาที่เกินกว่ากำลังในการแก้ 

ปัญหาของปัญหาคืออยู่ในปัญหาที่มาในปัญหา

ผมได้นำตะกอนบางส่วนไปรวมใน  http://gotoknow.org/blog/mrschuai/102160

ขอบคุณมากครับ

  • โอโห พี่โกเหลียงเอาไปรวมเร็วจัง
  • ผมเพิ่งไปอ่านแล้วก็ออกมา
  • คงต้องช่วยกันหาทางแก้ไขครับ
  • ดีใจที่พบผู้ใหญ่ใจดี
  • อย่าดันผมเลยครับ
  • ฮ่าๆๆๆๆ
  • แวะมาช่วยดันพี่ชายเราอีกรอบ
  • อิอิอิ...พี่เราดังมากๆ จะได้ออกจากศาลาคนเศร้าซะที
  • เย็นแล้ว  กลับบ้านดีกว่า...

สวัสดีครับพี่ขจิต (ความเห็นนี้คัดลอกมาจาก บทความพี่บางทราย)

     นานมาแล้วที่ไม่ได้พูดคุยครับ แต่วนเวียนมาดูอยู่ครับ ผมมีเซลล์ภูมิคุ้มกันมาฝากครับ ในยามที่มีวงจรหน้าจืดของพี่มาวนเวียนครับ คำถามคือ ในกล่องสี่เหลี่ยมสีเขียว นั่นพี่จะใส่อะไรลงไป

และอีกภาพครับ

(หากโมเดลนี้ไร้ค่า ขอให้มองเป็นสีสันในบทความนี้ก็พอนะครับ เพื่อคั่นความเห็นเครียดๆ) 

ปัญหาเรื่องหน้าจืด แก้วันเดียวสองวันไม่ได้นะครับ ก็เหมือนการศึกษานั่นหล่ะครับ จะสร้างภายในวันเดียวก็ไม่ได้ครับ

  • ปัญหานี้ ผมมองว่า คำแรกคืออยากให้ใช้คือ หยุด (หากกู้กันต่อไป วงจรนี้ก็ไม่หยุดซักทีครับ ขอแนะนำให้ถอดและสับสะพานไฟเลยครับ ขอให้หยุดทุกขั้นตอน หยุดคิดเป็นอันดับแรก แล้วหาทางลด)
  • ต่อมาคือ  ทบทวน  ทบทวนตัวเอง ครอบครัว ชุมชน โรงเรียน (ประมวลอดีตก่อนจะหน้าจืดเป็นอย่างไร แล้วเข้ามาสู่การหน้าจืดอย่างไร แล้วตอนนี้จืดอย่างไร ในชุมชน ได้ทบทวนชุมชน ในครอบครัวได้ทบทวนครอบครัวมั่งไม้(ใต้ๆ))
  • ถามหาความสมดุล ในตัวเอง ครอบครัว ชุมชน โรงเรียน (เคย หยุด ทบทวน หาความสมดุล บ้างไหม) เช่น บัญชีรายจ่าย รายรับ บัญชีครัวเรือนไม่ใช่ทำให้ อบต. หรือรัฐบาลดูครับ แต่ต้องทำไว้ดูเอง ประเมินตัวเองได้นี่ แต่ละครอบครัวก็คือประเทศ ประเทศหนึ่ง บริหารกันเองได้ไม่ใช่หรือครับ หากมันเกินเยียวยา ก็เอามาคุยกันใน สภาชุมชน อบต. เปิดอกคุยกันเลย กับเจ้าหน้าที่ กล้าหรือเปล่า กลัวอะไรที่จะประเมินตัวเอง ให้รู้ไปว่าที่เป็นหนี้แต่ละเดือนคือเกิดจากการดื่มเหล้า หรือเพราะอยากฟุ่มเฟือย หรือว่าเพราะไม่มีทรัพยากรใดๆ เหลือเลย
  • จุดด้อยจุดเด่นของชุมชน รากเหง้าของชุมชนคืออะไร กู้คืนได้ไหม
  • ได้ข้อสรุปของ ตัวเอง ครอบครัว ชุมชน โรงเรียน เพื่อวางแนวทางและแผนการพัฒนาตัวเอง ครอบครัว ชุมชน และโรงเรียน  ภายในชุมชนนั้น โดยปรับแก้ให้เข้ากับบริบทของชุมชนนั้นครับ
  • เดินและพัฒนาไปร่วมกัน ทำแบบวนเวียนจนเกิดภูมิคุ้มกันของชุมชน

ผมมีปัญญาและมองปัญหาออกได้แค่นี้นะครับ

จากภาพข้างบนหาคำอธิบายได้จากบทความเก่าๆ ที่ถกในเรื่องนี้ อ่านได้ที่

ขอบคุณมากๆ นะครับ ที่เห็นหลายๆ คนห่วงใยชุมชน

ผมตอนนี้ทำได้แค่สร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวผมเอง และคนที่เกี่ยวข้องเท่านั้น สิ่งที่ผมอยู่ก็คือ สร้างในครอบครัวตัวเองให้ได้ ให้อยู่ได้ในภาวะที่เป็นอยู่เพื่อไม่ให้เข้าสู่วงจรหน้าจืดนี้.... ที่ทางบ้านผมเจอหนักคือ ค่าสวัสดิการสังคม ในการเข้าร่วมงานทำบุญ ตามใจของพี่น้องในชุมชนที่เกื้อกูลกันมานาน แต่ไม่ต้องกู้หนีหนัก เพราะผมเชื่อว่า พระแม่ธรณี พระแม่คงคา และอื่นๆ ช่วยให้เราคนเป็นเกษตรกรและชาวนาได้

ชาวนาควรจะทำนา ทำสวน ไม่ควรเข้า กทม. ไปแสวงหางานทำ เพราะนั่นไม่ใช่รากเหง้าของเรา

ผมมีบทความชาวนามาฝาก เขียนไว้นานมาแล้วครับ

ท้ายที่สุดแล้ว ผมขอเริ่มที่ตัวผม และครอบครัวที่ผมสัมผัสอยู่ก่อนครับ.... หากมีส่วนไหนบกพร่องหรือมีจุดอ่อน ก็รบกวนเขียนกันเข้ามานะครับ ยินดีร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ

ขอบคุณพี่บางทรายและพี่ขจิตมากๆ ที่ช่วยสะท้อนสังคมและชุมชนได้ดีเลยครับ

ทุกชีวิตต้องตาย.... อยู่แต่ว่าก่อนตาย...จะตายแบบไหนครับ...หรือว่าเอาแค่เราอยู่รอดคนเดียว....แล้วจะนิยามคำว่า ชุมชน หรือสังคมไว้ทำไมครับ

  • ขอบใจน้องลูกหว้ามากครับ
  • ดังอะไรครับ
  • กลัวดังเดี๋ยวดับ
  • ฮ่าๆๆๆๆๆ
  • ขอบคุณน้องบ่าวเม้งมากครับผม
  • ได้ความรู้มากเลย
  • จะตามไปแต่ละบันทึกนะครับผม
  • ขอบคุณครับ

ขอแชร์ประสบการณ์เพิ่มเติมนะคะ อ. ขจิต  ว่าช่วงนี้ทำวิจัยเกี่ยวกับปัจจัยการทำบัญชีครัวเรือน  อยากบอกว่าคุยแบบกันเอง ไม่เป็นทางการกับลุงป้าน้าอาทุกท่านแล้ว ละเหี่ยใจ คำตอบเหมือนอย่างกับความเห็นของท่านทั้งหลายที่ได้ให้ไว้ 

สิ่งที่ยังฝังใจในความเข้าใจของชาวบ้าน คือเรื่อง เงินกองทุนหมู่บ้าน เชื่อไหมคะ  ว่าแกเข้าใจว่าหลวงให้ฟรี  ไม่ต้องคืนหรอก บอกว่าต้องคืน ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร  ดังนั้นเรื่องบัญชีไม่ต้องจัดทำก็ได้  เพราะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแต่จำเป็นต้องใช้  ส่วนที่อ. ขจิตถาม เรื่องแนะนำ blog  ไม่ขัดข้องหรอกค่ะ  แต่แปลกใจว่าพี่ ๆ น้องก็เขียนแบบธรรมดา  แต่ก็ปลื้มใจจนต้องขอไปโฆษณาเผื่อจะได้คนในชุมชนเพิ่ม มากขึ้นค่ะ 

  • ขอบคุณอาจารย์มากครับ
  • ดีใจที่นักวิชาการลงไปพบปัญหา
  • นี่คือองค์ความรู้ใน gotoknow ที่ที่อื่นไม่มีครับผม
  • เพราะเราจะได้ทราบว่า ในต่างมหาวิทยาลัยเขาทำอะไรกันบ้าง
  • มีปัญหาที่เรามองเหมือนกันไหม
  • เรา share ประสบการณ์กันได้
  • ขอบคุณครับ พรุ่งนี้จะแนะนำ แพลนเนตของมหาวิทยาลัยหอการค้านะครับ ผมว่าอาจารย์ทุกๆๆท่านเขียนดี มหาวิทยาลัยหอการค้าจะได้มีคนมาแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นครับผม
  • ขอบคุณครับ

อุ้ย อาจารย์

P

             อาจัง อิดจ๋าจินจิน   ห้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

มาเยี่ยม...คุณ

P

ผมเห็นหัวข้อแล้วนึกถึงแกงจืดครับ...

บ่อยครั้งแม่ครัวจะทำน้ำพริกปลาทู แบบบ้านๆ เสริม 2 - 3 อย่างเมื่อมีแกงจืดอยู่แล้ว ก็เป็นอาหารที่มีรสอร่อยได้

เรื่องวิถีชีวิตถ้าโยงกลับไปสู้ความเป็นบ้าน ๆไม่ได้  เที่ยวขี้ตามช้างอยู่ก็มีแต่จนลูกเดียวนะครับผม  ฮา ๆ เอิก ๆ

  • ขอบคุณคุณดล
    P
  • อิจฉาผมทำไมครับ
  • ฮ่าๆๆๆ
  • ขอบคุณท่านอาจารย์
    P
  • เราต้องอยู่บนความพอเพียงใช่ไหมครับ

สวัสดีครับ ตามมาแล้ว

  • โมเดลของน้องเม้งดีกว่า อาจสามารถโมเดลเป็นไหนๆ
  • เรียกว่าเข้าถึง เข้าใจ พัฒนา ซึ่งเป็นหลักที่คนทำงานพัฒนายอมรับ และนำไปปฏิบัติกัน
  • คน คือปัจจัยใหญ่ที่สุด แต่มุมมองหนึ่งก็ว่า จะตั้งหน้าตั้งตาเปลี่ยนคนโดยไม่ปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมบ้างมันก็ทวนกระแสหนักหนา รัฐในฐานะผู้จัดการประเทศต้องบริหารจัดการสิ่งดีๆในพื้นที่สาธารณะ อย่าปล่อยให้พื้นที่สาธารณะถูกยึดด้วยระบบทุนสามาลย์ (ทุนดีๆมีมากไป เราสนับสนุน)
  • แบบว่าต่างร่วมมือกัน งานอันใหญ่จึงจะสำเร็จ
  • ปล่อยให้เรารณรงค์ สร้างสำนึกกันทุกวี่ทุกวัน  แต่เจ้าสิ่งล่อใจมันก็พัฒนาวิธีการล้วงเงินจากกระเป๋าคนได้ดีมากขึ้น
  • คิดไปคิดมาก็วกมาเรื่องวิชาการอีกสักรอบที่ว่า วิชาการโฆษณา วิชาการการตลาด วิชาการบริหารจัดการ วิชาการฯ....ต่างพัฒนาเครื่องมือไปรับใช้ทุนเสียสิ้น  ตรงข้ามทิ้งให้ผู้บริโภคหลงไหลได้ปลื้มกับค่านิยม(ที่จมไม่ลง)  กระตุ้นกันเสียจนวัยรุ่นนอนละเมอเลย
  • หานักวิชาการที่ใช้ความรู้มายืนข้างผู้บริโภค ประชาชน ชนบทน้อยมาก (มีครับแต่น้อย) ทำงานกับชนบทมันไม่ได้เงินน่ะ...
  • เมื่อสังคมรวมถูกคำว่าทันสมัย ค่านิยม อินเทรน อยากเป็นไฮโซ อยากเป็นคนมีระดับ มันก็ต้องมีเงินเป็นปัจจัย เมื่อไม่รู้ว่าจะหาเงินอย่างไร หรือหามาก็ไม่มากซักที ก็ปล้นเอาดื้อๆซะเลย
  • หลักยึดในใจมันไม่มีพลัง  หรือพลังมันน้อย มันจึงสู้ กระแสไม่ได้
  • คนที่มีฐานะตำแหน่งก็ต้องเข้าวงจรหน้าจืด เพื่อเอาเงินมาบริโภคค่านิยม
  • ชาวบ้านก็ต้องเข้าวงจรหน้าจืด เพื่อหวังจะมีสักวันที่ได้ผลผลิตต้องตามความต้องการ
  • งานสร้างพลังทางใจหรือสำนึกจึงเป็นเรื่องใหญ่ เอาไปใส่ในบล็อคสีเขียวของน้องเม้งครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท