ผมมักจะได้รับคำถามซ้ำๆ กันอยู่คำถามหนึ่ง นั่นคือ
ทำไมไอน์สไตน์ถึงได้ฉลาดนัก?
ตอบตรงๆ ก็คือ ไม่รู้ครับ แต่ถ้าให้เดา ก็คงต้องบอกว่า คงเป็นเพราะ...
อย่างไรก็ตาม หากถามให้ง่ายหน่อยว่า ไอน์สไตน์มีไลฟ์สไตล์เป็นยังไง ก็ง่ายหน่อย เพราะมีหลักฐานข้อมูลเยอะ ในบันทึกนี้จึงอยากเชิญชวนเพื่อนๆ ชาว GotoKnow ที่สนใจ ลองทำแบบทดสอบสนุกๆ 10 ข้อ (ที่ผมโมเมขึ้นมาเอง…อิอิ) เพื่อดูว่าคุณใช้ชีวิตละม้ายคล้ายอัจฉริยะท่านนี้บ้างไหม?
เอ้า! พร้อมหรือยังครับ? เตรียมกระดาษกับปากกาไว้จดคำตอบได้...บัดเดี๋ยวนี้!
<hr> <p align="center"> แบบทดสอบ</p><p align="center">คุณใช้ชีวิตคล้าย Einstein แค่ไหน? </p><hr><p>ข้อ 1 : เมื่อครั้งเป็นนักเรียนหรือนักศึกษา คุณสนใจเข้าเรียนสม่ำเสมอ ไม่ค่อยโดดเรียน แถมยังอาจเคยได้รับคำชมจากครูผู้สอนว่าเป็นคนขยันอีกด้วย [ใช่/ไม่ใช่]</p><p>ข้อ 2 : คุณเคยเป็นติวเตอร์รับสอนพิเศษ เพื่อแลกกับเงินเล็กๆน้อยๆ เพื่อยังชีพ [ใช่/ไม่ใช่]</p><p>ข้อ 3 : คุณชอบเขียนจดหมายถึงเพื่อนสนิท เพื่อเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตให้เขาได้รับรู้ [ใช่/ไม่ใช่]</p><p>ข้อ 4 : คุณเล่นเครื่องดนตรีอย่างน้อย 1 อย่าง โดยมักเล่นยามว่าง หรือเล่นให้เพื่อนๆ ฟังตอนสังสรรค์กัน (หมายเหตุ : เล่นเทป หรือเล่น CD นี่ไม่นับนะครับ) [ใช่/ไม่ใช่]</p><p>ข้อ 5 : ในการศึกษาเรื่องๆ หนึ่ง คุณจะสืบค้นข้อมูลที่มีอยู่อย่างละเอียดยิบ เช่น มีใครเคยคิดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไว้ยังไงบ้าง และคุณชอบต่อยอดความคิดที่คนอื่นเคยคิดไว้แล้วให้ลึกซึ้งยิ่งๆ ขึ้นไป [ใช่/ไม่ใช่]</p><p>ข้อ 6 : คุณยินดีรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นๆ (แม้แต่คนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จัก) และวิจารณ์ความคิดดังกล่าวอย่างสร้างสรรค์อยู่เป็นนิจ (ไม่เคยเรียกใครว่า pseudo-intellectual หรือปัญญาชนจอมปลอม นั่นแหละ…ฮิ…ฮิ) [ใช่/ไม่ใช่]</p><p>ข้อ 7 : คุณมีก๊วนเพื่อนซี้ที่มักจะนัดพบกันเป็นประจำเพื่อพูดคุย ถกเถียง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในเรื่องที่สนใจร่วมกัน [ใช่/ไม่ใช่]</p><p>ข้อ 8 : ในยามว่าง คุณมักจะทบทวนในเรื่องที่สนใจโดยอยู่เสมอๆ เช่น หากคุณเป็นนักวาดภาพ ก็จะไม่เคยว่างเว้นการขยับปลายพู่กันกันมือแข็ง หรือหากคุณเป็นเซียนพระเครื่อง ก็จะอ่านหนังสือพระเครื่องหรือหยิบพระเครื่องขึ้นมาส่องทั้งวัน [ใช่/ไม่ใช่]</p><p>ข้อ 9 : หากให้เลือกระหว่าง งานที่เกี่ยวข้องกับการค้นคว้าหาความจริงของธรรมชาติ กับตำแหน่งทางการเมือง คุณจะเลือกตำแหน่งทางการเมือง เพราะการเมืองเป็นเรื่องสำคัญกว่ามาก [ใช่/ไม่ใช่]</p><p>ข้อ 10 : ลึกๆ แล้ว คุณคิดว่า วิชาปรัชญานั้นช่างน่าหลงใหล และมีเสน่ห์กว่าบรรดาศาสตร์อื่นๆ โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ [ใช่/ไม่ใช่]</p><p align="center"> </p><p align="center">เฮ้อ! เสร็จจนได้....คราวนี้ ลองเลื่อนลงไปดู “เฉลย” กันหน่อย</p><p> </p><hr> <p> </p><p> </p><p> </p><p> </p><p> </p><p>เฉลย : </p><p>1) ไม่ใช่ 2) ใช่ 3) ใช่ 4) ใช่ 5) ไม่ใช่ 6) ใช่ 7) ใช่ 8) ใช่ 9) ไม่ใช่ 10) ไม่ใช่</p><hr><p align="center">ทำไมถึงเฉลยอย่างนี้ ดู รายละเอียดได้ที่นี่ ครับ</p><p align="center">ใครตรงกับไอน์สไตน์กี่ข้อกันบ้างเอ่ย? ผมตรงตั้ง 4 แน่ะ (ไม่ถึงครึ่ง)... ;-P </p><p> </p><hr><p>ประวัติของแบบทดสอบ : </p><ul>
</ul>
อาจารย์...
อาตมา ตรง 4 ข้อ.. เท่าอาจารย์เลย...
ดังนั้น อาตมาน่าจะ ระดับเดียวกับอาจารย์ (.........)
เจริญพร
ตรงไม่ตรงไม่รู้ครับพี่ชิว เพราะผมกลัวจะตรง เนื่องจากคิดว่า Einstein เค้าไม่ค่อยปกติครับ เช่น การเจาะรูบ้านให้แมวที่เลี้ยงอยู่ โดยเจาะรูใหญ่ให้แม่ ส่วนรูเล็กให้ลูกลอดออกจากบ้าน น่างงมั้ยครับเนี่ย
มิน่าเค้าว่าอัฉริยะกับคนเสียสติต่างกันแค่เส้นบางๆกั้นเท่านั้นเอง
เรื่องแบบนี้ สนใจมาก เพราะสมัยเด็กๆ เรียนดี เอาใจใส่เรียนมากๆ ไม่ค่อยมีสังคมนัก เพื่อนสนิทไม่มาก เป็นพวกกลุ่มเดิมๆ ที่รสนิยมเหมือนกัน แถม ไม่ค่อยชอบเข้าก๊วนใครใหม่ๆ บางทีเห็นคุยกันเจ๊าะแจ๊ะ เหมือนเสียเวลา เลยได้คะแนน 4เอง
สวัสดีครับ ทุกท่าน
ใช่แล้วครับ ทุกคนมีชีวิตของตัวเองจริงๆ :-)
ผมเปิดประเด็นแบบนี้ เพราะเดี๋ยวจะมี "เฉลย" ซึ่งอาจจะทำให้เราได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากคนที่เราได้ยินชื่อกันทั่วไป อย่าง Einstein นี่ การเรียนรู้วิธีคิดของคนอื่นมักมีแง่มุมที่น่าสนใจเสมอครับ ;-)
โปรดอดใจรอสักครู่...ขอตัวไปล้างดินที่พอกหางหมูตอนนี้ก่อนครับ (หายไปงานสัปดาห์หนังสือเมื่อวันเสาร์)
ก่อนอื่น...ดิฉันขอยืนยันว่ามีสติสัมปชัญญะครบถ้วนดี จนกระทั่งทำแบบทดสอบเสร็จ ปรากฏว่าตอบข้อ 4,5 และ 10 ไม่ตรงกับที่เฉลย.... นอกนั้นตรงกัน..............คือพอทำเสร็จก็ออกแนวๆว่าจะกลุ้มใจเลยอ่ะค่ะ.......
สวัสดีครับทุกท่าน
ขอบันทึกไว้นิดหนึ่งว่า ผมเคยนำแบบทดสอบนี้ไปใช้กับเด็กนักศึกษาราว 500 คน ในการให้สัมมนาที่ ม.ศิลปากร ทับแก้ว ชื่อวิชา มนุษย์กับการสร้างสรรค์ ของภาควิชาอักษรศาสตร์
ปรากฏว่าส่วนใหญ่ก็อยู่ราวๆ 3-7 ข้อนี่ละครับ เป็นไปตามหลักสถิติเปี๊ยบ แต่มีอยู่ 2 คนครับที่อยู่คนละฝั่งของเส้นโค้งการกระจาย
คนแรก เป็นสุภาพสตรีครับ เธอตรง 10 ข้อ! แต่ก็เลยโดนแซวไปว่า อ้าว! อย่างนี้ก็แสดงว่าเป็นคนไม่ตั้งใจเรียนในตอนปริญญาตรี (ข้อ 1) เหมือนไอน์สไตน์นะสิ! ;-)
อีกคน น่าสนใจไม่แพ้กันครับ เพราะไม่ตรงเลยสักข้อ! รายนี้เป็นสุภาพบุรุษ ผมยาว ดูติสต์สุดๆ เพื่อนๆ เฮกันใหญ่ ผมก็เลยบอกไปว่า เห็นไหม นี่คือ anti-Einstein คือ เป็นอัจฉริยะอีกแบบที่ตรงกันข้ามกับไอน์สไตน์อย่างสิ้นเชิง (น่าจะโดดเด่นกว่าอัจฉริยะข้ามคืนด้วยนะเออ)
อ่านแล้ว แต่ไม่ค่อยอยากตอบ
บางทีเราไม่อยากรู้หรอกว่ามีใครใช้ชีวิตเหมือนเรา หรือว่าเราใช้ชีวิตเหมือนไคร
ผมอยากเป็นคนที่มีคนเดียวในโลก ความจริงก็เป็นอย่างนั้นแหละ
แต่ .....
คนเราถนัดที่จะเปรียบเทียบ
เราก็เลย.....
เหมือนคนโน้นที เหมือนคนนี้ที
จนบางครั้งเราก็คล้อยตาม
เออ...
เหมือนจริง ๆ
Hello โอ-อุทัย
จริงๆ แล้ว "แบบทดสอบ" นี่เป็นเพียงอุบายเล่าเรื่องชีวิตของไอน์สไตน์นะครับ ไม่ได้อยากจับใครไปเหมือนใคร เพราะต่อให้ใครสักคนได้ 10 เต็ม ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นไอน์สไตน์ใช่ไหมครับ :-)
แต่อย่างที่ว่าก็คือ คนเรานั้นชอบเปรียบเทียบ และบางทีก็ เออ! เหมือนจริงๆ วุ้ย ;-)
อย่างพี่นี่บางทีชอบอ่านหนังสือจากบทหลังมาบทหน้า หรืออ่านจากเล่มสุดท้ายย้อนกลับมาเล่มแรก เมื่อก่อนก็คิดว่า สงสัยตูจะต๊องอยู่คนเดียวซะแล้ว แต่ปรากฏว่ามีเพื่อนๆ ที่รู้จักเป็นอย่างนี้ตั้งหลายคน แต่ละคนก็ดูปกติดีนี่ (ฮา)
อยากให้อาจารย์ทำบล็อก เกี่ยวกับ wormhole อย่างลึกซึ้ง
สนใจมาก ๆ เลยครับผม
หรือไม่ก็ หาลิงค์ให้ผมที ครับ
สวัสดีครับ คุณกิจณพงษ์
เรื่อง wormhole นี่ผมยังไม่เห็นหนังสือในภาคภาษาไทยนะครับ สงสัยต้องลองหาลิงค์ดูครับ
สวัสดีครับอาจารย์ผมสนใจเรื่องที่อาจารย์พูดมากเลยครับอันที่จริงวันนั้นตอนที่อาจารย์มาอบรมที่โคราชผมว่าจะไปถามแล้วครับแต่พอดีคนแยอะไปหน่อยก็เลยยืนฟังอาจารย์อยู่ห่างๆ เรื่องของผมมันอาจจะไร้สาระนะครับแต่มันเป็นความคิดที่ผมพยายามหาคำมาอธิบายแต่ก็ไม่รู้หนทางซะทีครับตอนเด็กๆนั้นผมชอบเรื่องดาราศาสตร์มากๆผมจึงได้คิดอะไรได้กว้างกว่าเพื่อนรุ่นอายุเดียวกันซึ่งผมเองก็สนใจเรื่องจักวาลมากเพราะมันเป็นอะไรที่ท้าทายความคิดและตอนนั้นผมยังเด็กคิดอะไรได้เกินเด็กไม่มากนักผมส่งสัยเรื่องประตูมิติซึ่งมันจะเป็นไปได้ไหมว่า สมมติว่ามีสนามแม่เหล็กที่เป็นกำแพงแล้วแบ่งออกเป็นสองฝั่งฝั่งหนึ่งเป็นปัจจุบันซึ่งผมให้มีคนยืนอยู่สองคนต่อมาคนคนหนึ่งได้ผ่านเข้าไปในสนามแม่เหล็กนั้นแล้วพอกลับมาก็อาอุมากอาจจะมากกว่าเดิมซักเจ็บสิบปีซึ่งในความคิดของผมก็จะอธิบายว่า ในใจกลางของแผ่นสนามแม่เหล็กนั้นจะเป็นศูนย์กลางของทุกเวลาไม่ว่าจะเป็นในอีกห้านาทีหรือสามวันหรือสิบปีหรือพันปีหรือห้านาทีที่แล้วหรือสิบปีที่แล้วหรือร้อยหรือพันหรือล้านปีที่แล้วจะมารวมกันอยู่ที่จุดศูนย์กลางของเวลาซึ่งก็คือสนามแม่เหล็กโดยสนามแม่เหล็กของโลกจะอยู่ที่สามเหลี่ยมเบอมิวดาร์นั่นก็หมายถึงว่าสามเหลี่ยมเบอมิวดาเป็นศูนย์กลางของเวลาในทุกเวลาไม่ว่าจะเป็นอนาคตหรืออดีตก็ตามเมือมีคนหรือสัพสิ่งทั้งหลายในเวลาที่ปัจจุบันหลุดเข้าไปในสนามแม่นั้นก็จะเป็นไปได้ว่าจะไปโผลในอีกเวเลาหนึ่งๆซึ่งจะเป็นอดีตหรือปัจจุบันหรืออนาคตก็ได้ดังนั้นคนที่ผ่านเข้าไปในสนามแม่เหล็กคนแรกก็อาจจะไปโผลในอีกเวลาหนึ่งแล้วก็กลับมาตรงเวลาปัจจุบันจึงเป็นสาเหตุให้เขาแก่ขึ้น อาจารย์ครับนี่ก็เป็นความคิดหรือทฤษฎีทีผมตั้งสมมติฐานขึ้นมาเองในบางเรื่องก็เป็นไปได้แต่ในบางเรื่องวิทยาศาสตร์ก็หาข้อสรุปไม่ได้แต่ตอนนี้ผมอยูม.5ซึ่งก็ยังไม่มีความรู้พอที่จะสามารถตอบข้อสงสัยนี้ได้อาจารย์ช่วยกรุณาอธิบายด้วยนะครับถ้าจะติดต่อผมให้ผ่านทางกิจณพงษ์ได้นะครับ ด้วยความเคารพ
สวัสดีครับ น้องทินวัฒน์
เรื่องใช้สนามแม่เหล็กเป็นประตูเวลานี่น่าสนใจครับ แต่ต้องฝ่าด่านอย่างน้อย 2 ด่านดังนี้
1. ความรู้ในปัจจุบันระบุว่า กาล-อวกาศ (space-time) เกี่ยวพันกับ ความโน้มถ่วง (gravity) ดังนั้น ถ้า "ประตูกาล-อวกาศ" สามารถสร้างได้จริง มนุษย์ก็ต้องมีความรู้และเทคโนโลยีในการจัดการกับความโน้มถ่วงได้ก่อน
2. นักฟิสิกส์บอกว่า แรงพื้นฐานของธรรมชาติมี 4 อย่าง ได้แก่
1) แรงแม่เหล็ก-ไฟฟ้า
2) แรงนิวเคลียร์แบบอ่อน
3) แรงนิวเคลียร์แบบเข้ม
4) แรงโน้มถ่วง
ในปัจจุบัน (ค.ศ. 2008) นักฟิสิกส์สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างแรงแบบที่ 1, 2 และ 3 ได้แล้ว โดยมีทฤษฎีที่ค่อนข้างซับซ้อน
แรงแบบที่ 4 คือ แรงโน้มถ่วง นี่ยัง "ดื้อ" อยู่ครับ คือ นักฟิสิกส์ยังไม่พบความสัมพันธ์กับแรงอื่น
แต่วันใดที่สามารถเชื่อมโยงแรงแม่เหล็ก-ไฟฟ้า กับ แรงโน้มถ่วงได้ และสามารถจัดการกับแรงทั้งสองได้ตามต้องการ เรื่องของ "ประตูกาล-อวกาศ" ถึงจะเป็นไปได้ครับ
ถ้ามีความก้าวหน้าใดๆ ในเรื่องนี้ จะนำมาเสนอไว้ให้นะครับ
ระหว่างที่น้องใช้จินตนาการไปอยู่นี้ ก็หาความรู้เพิ่มเติมไปเรื่อยๆ ครับ ยังมีเวลาอีกมาก
ขอให้โชคดีครับ ^__^
... สวัสดีครับอาจารย์ตอนนี้ผมรู้สึกว่าจะมีเรื่องราวอีกมากมายที่รอให้ผมคิดต่อไปครับ แต่พอได้บอกเรื่องราวนี้กับอาจารย์ผมก็รู้สึกโล่งมากเลยครับอันที่จริงผมมีเรื่องที่ตั้งสมมติฐานเยอะมากครับแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเอามาเรียบเรียงเป็นคำพูดได้อย่างไรส่วนเรื่องสนามแม่เหล็กนี้ก็เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นให้ผมได้คิดอะไรที่ใหม่ๆอีกหลายอย่างซึ่งก็ยังสับสนอยู่
อาจารย์บอกว่าปัจจุบันนี้ยังไม่สามารถเชื่อมโยงแรงแม่เหล็ก-ไฟฟ้า กับ แรงโน้มถ่วงได้แล้วมีบุคคลท่านไดที่กำลังค้นคว้าเรื่องนี้อยู่หรือเปล่าครับแล้วถ้ามีอาจารย์คิดว่าความสัมพันดังกล่าวจะมาเชื่อมโยงกับเวลาของนรกสวรรค์ได้หรือเปล่าครับ....
สวัสดีครับ น้องทินวัฒน์
เรื่องการเชื่อมโยงแรงต่างๆ เข้าด้วยกันนี่ เป็นโจทย์ท้าทายที่สุดข้อหนึ่งของฟิสิกส์ทฤษฎี (theoretical physics) ครับ ความจริง ตัวไอน์สไตน์เอง ก็ครุ่นคิดเรื่องนี้ในช่วงบั้นปลายของชีวิต คือ พยายามรวมแรงแม่เหล็ก-ไฟฟ้า เข้ากับความโน้มถ่วง แต่ไม่สำเร็จ (ด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่าง)
เรื่องเวลาของนรก-สวรรค์ที่มีการนำเอาวิทยาศาสตร์เข้าไปอธิบายนั้น ขอแสดงความคิดเห็นแบบตรงไปตรงมานะครับ คือ เท่าที่มีคนทำอยู่ในปัจจุบัน เป็นการจับแพะชนแกะ อ้างหลักการ ทฤษฎี และข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง
แต่ที่ยังไม่มีใครทักท้วงอย่างจริงจังนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาจจะเห็นว่า ยังไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ และอีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนไทยไม่ชอบทำให้ใครเสียหน้าครับ
ลองอ่านบทสัมภาษณ์ของผมในประเด็นทำนองนี้ได้ ที่นี่
ขอให้สนุกกับการเรียนรู้ครับ
ได้8ครับ
ไม่ตรงเรื่องดนตรี
กับสอนติวเตอร์
สอนใครไม่เป็นเลยครับ
แต่คงจะไม่ใช่เพราะผมชอบหลับตอนเรียนบ่อยๆ
โอ้! ว้าว! คุณมีความเป็นไอน์สไตน์ 80% ครับ ;-)
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า คนที่นั่งอยู่ด้วยกันตรงนี้ ถูก 10 ข้อ ถึง 2 คน เป็นหญิงทั้งคู่ แถมคุณลักษณะไม่เพี้ยนนะ แค่บางครั้งชอบทำอะไรคล้ายเด็ก อย่าง นั่งมองมดเดิน แล้วนับจำนวนมด
ส่วนอีกคน อ่านหนังสือเร็วมาก แล้วก็มักคิดอะไรไม่เหมือนคนอื่นบ่อยมากกกกกกกกกกกกก
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/87601