ชั่วโมงนี้ เป็นการแลกเปลี่ยนเรื่องกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับ การดูแลคนไข้ระยะสุดท้ายของแต่ละประเทศ และกฏหมายที่เน้นมากๆ คือ สิทธการตายของคนไข้
ปรากฏว่า ชาวอินเดียบ่นเล็กน้อยว่าเรื่องนี้ไม่รู้จะคุยอะไร เพราะประเทศตนเองยังไม่มีกฏหมายที่เกี่ยวข้องเลย
ผมเองชั่วโมงนี้รู้สึกภูมิใจในความเป็นไทยเป็นพิเศษ เพราะเราเพิ่งได้พระราชบัญญัติใหม่สดๆ คือ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งในหลวงเพิ่งจะลงพระปรมาภิไธย และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๐ นี้เอง ข้อมูลนี้จึงเป็นของใหม่สำหรับทุกคน
ในมาตราที่ ๑๒ ว่าไว้เรื่องสิทธิการปฏิเสธการรักษาของคนไข้ ซึ่งผมได้เขียนรายละเอียดไว้แล้วในบันทึกนี้
ผมขออนุญาตเอาคำแปลภาษาอังกฤษของมาตรานี้ ซึ่งผมค้นเจอจากเวบ BangkokPost นำมาลงไว้ที่นี่คู่กับภาษาไทยในบันทึกเดิม
A person has the right to make an advance directive stating his or her decision not to receive medical treatment in a way that serves only to delay his or her death during the terminal stage of his or her life. Compliance with the said advance directive shall be conducted in line with procedures and criteria required by ministerial regulations. Health professionals shall be required to honour the advance directive and by doing so, they shall not be held responsible for any resulting consequence.
แต่สิ่งที่สำคัญมันไม่ได้อยู่แค่เรามีกฏหมายเท่านั้น มันอยู่ที่เราจะเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์กับคนไข้ได้มากน้อยแค่ไหนมากกว่า ซึ่งทางไต้หวันมีประสบการณ์ว่า การ หลังจากมีกฏหมายออกมาแล้ว การดูแลรักษาทางการแพทย์เปลี่ยนแปลงไป
<< APHN Diploma of Palliative Care ๘: เราจำเป็นต้องรู้เวลาตายของคนไข้หรือเปล่า
อาจารย์ ย่ามแดง ครับ
อาจารย์ ขจิต ครับ