สายๆวันอาทิตย์
ผมอ่านหนังสือที่ได้มาใหม่ เป็นหนังสือที่ผมชอบ อ่านซ้ำไปซ้ำมา ...ความรู้สึกผมตอนนี้เหมือนได้อ่านในสิ่งที่อยากอ่านจริงๆ
กาแฟ ของผมพร่องถ้วยลงแล้ว... ผมยังตั้งหน้าตั้งตาอ่าน ...มีความสุขกับการอ่านหนังสือ มากเลยวันนี้
ฮั่นแน่...!!!
อยากรู้แล้วใช่มั้ยครับ? ว่าผมอ่านหนังสืออะไร ...
ผมอ่านหนังสือ การศึกษาและสาระสำคัญของชีวิต: Education and the Significance of Life ครับ
เป็นหนังสือของ ท่าน กฤษณมูรติ : Krishnamurti
...เป็นหนังสืออีกเล่มที่อ่านแล้ว วางไม่ลงมีเนื้อหาบางบท บางตอน ที่อ่านแล้วซาบซึ้ง ...ดังนี้ครับ เอามาแลกเปลี่ยนกันครับ
“แน่นอนโรงเรียนต้องเป็นสถานที่เพื่อเรียนรู้ความเป็นทั้งหมดอันเป็นองค์รวมของชีวิต…. เป็นสถานที่ซึ่งทั้งผู้สอนและผู้เรียนค้นหาร่วมกัน ไม่เฉพาะโลกภายนอก ซึ่งคือโลกของความรู้เท่านั้น แต่ค้นหาทำความเข้าใจกระบวนความคิด พฤติกรรมของตนด้วย
จากนี้ เขาเหล่านั้นจะเริ่มค้นพบว่ามีเงื่อนไขของอิทธิพลกำหนดชีวิต บิดเบือนความคิดเขาอยู่อย่างไร
อิทธิพลกำหนดเหล่านี้คือตัวตนซึ่งได้รับความสำคัญอย่างมหันต์และน่ากลัว อิสรภาพจากอิทธิพลกำหนดและจากความทุกข์โศกของอัตตา
เริ่มต้นด้วยการตระหนักรู้เช่นนี้ ในอิสรภาพเยี่ยงนี้เท่านั้นการเรียนรู้ที่แท้จริงจะเกิดขึ้นได้ ในโรงเรียนเช่นนี้เป็นความรับผิดชอบของครูที่จะค้ำจุนร่วมกันกับนักเรียน
ซึ่งการค้นหาอย่างระมัดระวังเข้าสู่นัยทั้งหมดของอิทธิพลครอบงำและแล้วมันจบสิ้นลง” “เหตุใดเราต้องได้รับการศึกษา นี่เป็นปัญหาที่สำคัญจริง ๆ ศึกษาเล่าเรียนเพียงเพื่อที่จะปรับตัวตามจารีตประเพณีที่ทำตามกันมา หรือเพื่อให้ได้งานทำหรือการศึกษาเป็นอะไรบางอย่างซึ่งต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง…"
การศึกษาไม่ใช่เพื่อบ่มเพาะความจำ แต่เป็นกระบวนการทำความเข้าใจ ความเข้าใจไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความคิดวิเคราะห์แยกแยะ แต่ความเข้าใจเกิดขึ้นเมื่อจิตใจสงบนิ่งเงียบ…ไร้พันธนาการ ไม่แสวงหาการบรรลุความสำเร็จใด ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อชีวิตและทำให้กลัวความล้มเหลว ความเข้าใจ ซึ่งนำไปสู่ปัญญาซึ่งเกิดขึ้นได้เมื่อจิตใจนิ่งเงียบเท่านั้น
การศึกษานั้นถูกต้อง และเมื่อนั้น สิ่งอื่น ๆ ก็จะเป็นผลตามมา”
“ผู้ที่สามารถแยกส่วนของอะตอม (สร้างระเบิดปรมาณู) แต่ไร้รักในหัวใจแล้วเขาก็จะกลายเป็นสัตว์ร้าย”
จ. กฤษณมูรติ