ขอบคุณคุณกฤษณา มากๆ เลยนะคะ สำหรับกำลังใจ
ตอนนี้มีเรื่องอะไรดีๆ เกี่ยวกับเด็กๆ ต้องรีบนำมาประชาสัมพันธ์เพิ่มจำนวนข่าวดีในสื่อค่ะ ^ ^
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะเรื่องการแพ้ชนะไม่ใช่เรื่องสำคัญ
ที่สำคัญคือประสบการณ์การเรียนรู้ของเด็กที่จะได้จากการแข่งขันต่างหากค่ะ
จริงๆ แล้วยังมีเด็กๆ อีกเยอะค่ะที่ทำงานหุ่นยนต์ ดิฉันเห็นเขาอยู่ดึกดื่นใต้อาคารเรียน ทำหุ่นยนต์กันอยู่บ่อยๆ ค่ะ ถ้ามาเช้าๆ ก็จะเห็นเด็กๆ นอนกันอยู่แถวนั้นด้วย ดูแล้วก็ขำดีค่ะ สภาพดูไม่ได้เลยค่ะ แต่เด็กๆ เขาเก่งและมีมานะพยายามดีค่ะ สิ่งเหล่านี้ก็จะติดตัวเขาไปค่ะ
ขอบคุณที่แวะเข้ามาส่งกำลังใจนะคะ ^ ^
สวัสดีครับพี่กมลวัลย์
ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคน โชคดีและสนุกในการพบประสบการณ์ครั้งใหม่ครับ ขอให้องค์กรที่เกี่ยวข้องเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ด้วยครับ จะได้ช่วยกันส่งเสริมน้องๆ ที่ทำๆ กันอยู่ และน้องๆ รุ่นใหม่ๆที่สนใจครับ ขอให้สู้ให้เต็มที่ครับ
เชียร์ขาดใจจากเยอรมันครับผม...
เม้งครับ
สวัสดีค่ะน้องเม้ง
วันนี้ไม่ได้ log in หรือคะ ^ ^
ขอบคุณแรงใจจากเยอรมันค่ะ เมื่อปีที่แล้วถ้าจำไม่ผิดเขาไปแข่ง Rescue Robot ที่ Bremen นะคะ งานนั้นชนะแชมป์โลกมาด้วย ที่สจพ.ดีใจกันมากๆ ค่ะ ^ ^ เสียดายตอนนั้นยังไม่รู้จักน้องเม้ง ไม่งั้นจะให้ไปเชียร์ข้างสนาม อิอิ (ไม่รู้ไกลหรือเปล่า แต่ไม่สน 555)
ปีนี้ไม่รู้จะเป็นอย่างไร..แต่แพ้ชนะไม่เป็นไรค่ะ เพราะเด็กๆ ได้ประสบการณ์ เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องๆ รุ่นใหม่ๆ พี่ว่ามีการเรียนรู้ในการแข่งขันเยอะมากเลย ได้ engineer กันจริงเพราะคงต้องแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ใช้ทั้งทักษะและ skill มากๆ เลยค่ะ ได้ข่าวแว่วๆ ว่าปีที่แล้วชนะเพราะโปรแกรมเราดี และ controller ของเราเก่งค่ะ ควบคุมหุ่นได้ดีมาก แต่ถ้าเทียบอุปกรณ์ของเรากับทีมอเมริกากับญี่ปุ่นแล้ว เห็นเขาบอกว่าอุปกรณ์ของเราเหมือนของเซียงกงเลย 55555 จะเห็นได้ว่าเด็กไทยเราเก่งขนาดไหน ^ ^ ขอโม้หน่อย..อิอิ
ขอบคุณสำหรับแรงใจจากเยอรมันนะคะ ^ ^
สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน
จริงค่ะที่สจพ.อาจมีประสบการณ์มากกว่า เพราะเริ่มทำมาก่อน แต่จริงๆ เราก็มีจุดอ่อนเยอะค่ะ ^ ^ เงินทุนก็เป็นส่วนหนึ่งค่ะ ถ้าเราไม่ได้ชนะมาเรื่อยๆ คงหา sponsor ได้ยากค่ะ
ปัจจัยอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ได้รางวัลมาเรื่อยๆ อีกอันหนึ่งคือประสบการณ์ค่ะ ตอนนี้นักศึกษาที่เริ่มเข้างานหุ่นยนต์จะเริ่มตั้งแต่ปี ๒ ในแต่ละทีมจะมีนักศึกษาจากหลายชั้นปีสืบทอดความรู้กัน และมาจากหลายภาควิชาค่ะ การเรียนรู้และถ่ายทอดประสบการณ์กันในทีมเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ค่ะ ถ้ามองในมุม KM นับเป็น Tacit Knowledge ที่คนอื่นเรียนรู้ได้ยากค่ะ
อีกปัจจัยที่สำคัญมากคือกลุ่มพี่เลี้ยงที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาในกลุ่มค่ะ เพราะจะเป็นคนไกด์ให้นักศึกษาและแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งในเรื่องทางเทคนิคระหว่างทำหุ่น ระหว่างแข่ง และในเรื่องระเบียบจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ เรื่องเงินๆ ทองๆ ในการซื้ออุปกรณ์น่ะค่ะ
ดิฉันว่าถ้าสถาบันอื่นๆ สนับสนุนกิจกรรมเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง (เหมือนที่ดิฉันเห็นคุณแผ่นดินดูแลนักศึกษาที่มมส.) ก็จะประสบความสำเร็จเหมือนกันค่ะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ จะเอาไปบอกอาจารย์ผู้ควบคุมทีมค่ะ ^ ^
ขอบคุณหลายๆ ค่ะ อ.ขจิต ฝอยทอง
จริงค่ะเด็กไทยเก่งๆ มีเยอะเลยค่ะ น่าเสียดายบางคนไม่ได้โอกาสจริงๆ แล้วก็น่าตีบางคนที่มีโอกาสแล้วไม่ใด้ใช้อย่างเต็มที่เหมือนกันค่ะ (กำลังนึกถึงเด็กขี้เกียจบางคนค่ะ ^ ^ )
แล้วจะไปบอกอาจารย์ผู้ควบคุมทีมให้นะคะ
ขอบคุณมากๆ สำหรับกำลังใจค่ะ ^ ^
สวัสดีค่ะ
อ่านแล้วปลื้มค่ะ เป็นโรคชอบปลื้มกับเด็กเก่งๆ ทำไงจะให้ความเก่งนี้กลายเป็นโรคระบาด แพร่ไปทั่วๆประเทศละคะ
เด็กบางคนหัวดี แต่ไม่มีแรงบันดาลใจ น่าให้เขามาดูตัวอย่างนะคะ
เห็นเขาบอกว่าอุปกรณ์ของเราเหมือนของเซียงกงเลย 55555 จะเห็นได้ว่าเด็กไทยเราเก่งขนาดไหน ^ ^ ขอโม้หน่อย..อิอิ
อย่างนี้ เรียกว่า เก่งจริงค่ะ ถ้าพร้อมหมดทุกอย่าง ก็ยังเก่งไม่เท่าค่ะ
สวัสดีค่ะคุณกฤษณา
ขอบคุณสำหรับกำลังใจอีกรอบนะคะ ^ ^
เรื่องเด็กมาทำงานดึกๆ ค้างคืนดิฉันบางทีก็ไม่เห็นด้วยหรอกค่ะ เพราะบางทีก็สุ่มเสี่ยงเหมือนกัน แต่กรณีนี้เขามีที่สำหรับทำงานนี้โดยเฉพาะ เพียงแต่น่าเสียดายที่เราไม่มีพื้นที่มากพอที่จะกั้นห้องเป็น Lab ให้เขาใช้กันถาวรได้ ส่วนใหญ่จะใช้พื้นที่โล่งใต้อาคารเรียนมากั้นชั่วคราวเป็น lab ค่ะ เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ชัดว่าเด็กทำอะไรกันบ้าง ดีไปอย่างค่ะ เพราะก็มีแล้วเหมือนกันที่เด็กไปมั่วสุมในพื้นที่หรือห้องที่มิดชิดที่จัดไว้ไห้ชมรมต่างๆ น่ะค่ะ แต่อันนี้ไม่ใช่กรณีเด็กที่ทำงาน robot นะคะ พูดถึงกรณีทั่วๆไปน่ะค่ะ
ดิฉันว่าถ้าน้องเขาขออยู่ดึกเพื่อทำโครงการ แล้วตรวจสอบได้ว่ามีกิจกรรมกันจริง และมีครูผู้ดูแลโครงการรับทราบ มีพื้นที่ทำงานชัดเจน ดิฉันคิดว่าน่าจะอนุญาตให้ไปได้ค่ะ เพราะถ้าเป็นโครงการที่มีอาจารย์ผู้ดูแลชัดเจน อาจารย์เขาจะคอยกำกับอยู่ค่ะน่าจะพอไว้ใจได้อยู่ เด็กๆ จะได้เรียนรู้เยอะจากการทำงานร่วมกัน ตัดสินใจร่วมกันเป็นทีมงาน ดิฉันว่าได้ประสบการณ์เยอะค่ะ อันนี้มองจากมุมของงานหุ่นยนต์นี้นะคะ
ขอบคุณที่แวะเข้ามา ลปรร อีกครั้งค่ะ ^ ^
สวัสดีค่ะคุณพี่ศศินันท์ (sasinanda)
ดิฉันก็เป็นปลื้มเหมือนกันค่ะ เลยเอามาประชาสัมพันธ์กันเยอะๆ ค่ะ ทำให้นึกได้ว่าจุฬาฯ ก็มีอีกทีมหนึ่งค่ะ แต่เป็นหุ่นยนต์แข่งแตะฟุตบอลค่ะ ดูรายละเอียดได้ที่นี่ กับที่นี่ ค่ะ เอารูปที่เขาลงไว้มาแปะไว้ที่นี่ด้วยแล้วค่ะ ปีที่แล้วทีมนี้ก็ได้ที่ 3 ในการแข่งที่เยอรมันด้วยนะคะ ปีนี้เขาก็ไปที่อเมริกาด้วยค่ะ แต่แข่งคนละประเภทกับของสจพ.ค่ะ
มีอีกทีมให้เชียร์ด้วยแล้วค่ะ ^ ^ น่าปลื้มใจจริงๆ เลยนะคะ
เรื่องเงินทุนของทีมไทยดิฉันว่าคงเป็นรองอเมริกา ญี่ปุ่น กับเยอรมันเยอะค่ะ ปีนี้ไปแข่งที่อเมริกาคงมีหลายทีมจากหลายมหาวิทยาลัยในอเมริกาเข้าแข่ง ดิฉันว่าการที่เรามีอุปกรณ์ที่ไม่ค่อยดีนักทำให้เราได้เปรียบค่ะ เพราะเราต้องคิดเตรียมพร้อมแก้ปัญหาไว้ล่วงหน้าเยอะ เรียกได้ว่าต้องจัดกลยุทธ์ไว้เยอะค่ะ เด็กๆ พวกนี้ดิฉันจัดว่าเขาเป็นวิศวกรน้อยจริงๆ เลยค่ะ
ดีใจมากๆ เลยที่เรามีเด็กเก่งๆ ที่เป็นตัวอย่างให้กับเด็กๆ ในรุ่นต่อๆ ไป ต้องประชาสัมพันธ์กันให้มากๆ ค่ะ จะได้เห็นตัวอย่างดีๆ กันเยอะๆ ค่ะ
ขอบคุณที่แวะเข้ามาให้กำลังใจส่งแรงเชียร์เด็กๆ นะคะ...
สวัสดีครับอาจารย์กมลวัลย์
แวะมาเป็นกำลังใจให้ทีมหุ่นยนต์กู้ภัยทั้ง ๒ ทีมครับ
ชอบใจความคิดเห็นของคุณศศินันท์ที่ว่า"ทำไงจะให้ความเก่งนี้กลายเป็นโรคระบาด แพร่ไปทั่วๆประเทศล่ะคะ" ถ้าทำได้ประเทศไทยคงเขยิบไปเป็นประเทศพัฒนาได้แน่ครับ
น่าจะเป็น"ปัญหาที่ท้าทาย"สำหรับผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบกระทรวงศึกษาธิการนะครับ
มาส่งกำลังใจให้น้อง ๆ ค่ะ
สวัสดีค่ะ อ.ศิริศักดิ์
อ่านแล้วรำลึกความหลังตอนเป็นคณบดีบ้างไหมคะ ^ ^ จำได้ว่าอาจารย์กับอ.วรา ไปเฝ้าเชียร์มากกว่าคนอื่นๆ... จำได้ว่าเหนื่อยกันน่าดู ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่..
เรื่อง"ทำไงจะให้ความเก่งนี้กลายเป็นโรคระบาด แพร่ไปทั่วๆประเทศล่ะคะ"นั้น ดิฉันว่าคงต้องทำกันเองแบบนี้ไปก่อน เพราะรอท่านๆ ในกระทรวงไม่ไหวค่ะ เขาอาจคิดว่าให้งบรวมมาแล้ว ให้ไปจัดการกันเองก็ได้กระมังคะ
ขอบคุณค่ะอาจารย์สำหรับกำลังใจ ^ ^ เขียนไปบอกอาจารย์วราให้มาอ่านบันทึกแล้วค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ
และคุณ
ขอขอบคุณมากๆ นะคะ สำหรับกำลังใจให้เด็กๆ ค่ะ
ดิฉันก็เชื่อว่ายังมีเด็กเก่งๆ อีกมากเลยค่ะ เพียงแต่ยังไม่มีเวทีให้เขา และก็ยังไม่ได้รับการสนับสนุน
ตอนนี้เราสนับสนุนได้ก็เพียงกำลังใจ ซึ่งก็เต็มร้อยอยู่แล้วค่ะ
ขอบคุณอีกครั้งที่แวะมาเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจนะคะ
ขอบคุณคุณ อ้อ - สุชานาถ มากเลยนะคะ สำหรับกำลังใจให้เด็กๆ ต้นกล้าเหล่านี้ค่ะ ^ ^
เอาข้อมูล กฎ กติกา กำหนดการเบื้องต้น และรูปของสนาม rescue robot มาฝากกันค่ะ
อ่านดูคร่าวๆ แล้ว หุ่นต้องเก่งน่าดูเลยค่ะ
ดูรูปสนามที่จะแข่งแล้ว ท้าทายมากๆ เลย...
ดูข้อมูลและรูปได้ที่นี่ค่ะ
สวัสดีค่ะ อ.ลูกหว้า
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับกำลังใจ
จากกำหนดการที่เขาลงไว้ เข้าใจว่าคงได้ซ้อมลงสนามไปบ้างแล้ว วันแข่งน่าจะเริ่มคืนนี้ค่ะ แต่ยังไม่เห็นกำหนดการละเอียด
เอารูปสนามไปดูเล่นๆ ก่อนค่ะ นำมาจาก webที่ให้ไว้ข้างต้นค่ะ ^ ^
รู้สึกทึ่งและดีใจที่เด็กไทยสามารถทำได้ ชนะหรือไม่ ไม่สำคัญ ทำให้มหาอำนาจอย่าง อมเริกา ญี่ปุ่น เยอรมัน หันกลับมามองเห็นความสารถของเด็กไทยได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว ผมติดตามตั้งแต่ครั้งที่ไปญี่ปุ่น เยอรมัน แล้วก็อเมริกา น่าเสียดายที่ผมรู้สึกเหมือนกับว่าภาครัฐบาลไม่ค่อยจะสนับสนุนหรือให้ความสำคัญกับเยาวชนเหล่านี้สักเท่าไหร่ การประชาสัมพันธ์อ่อนไปหน่อย คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้เรื่องนี้ คิดว่าน่าจะสนับสนุนมากกว่านี้จะต้องมีคนเก่งเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
สวัสดีค่ะ คุณธนชัย เมื่อจ. 02 ก.ค. 2550 @ 11:35
เห็นด้วยเลยค่ะว่าชนะหรือไม่ ไม่สำคัญค่ะ แต่ประสบการณ์และ recognition จากในประเทศไทยและในประเทศอื่นๆ สำคัญมากๆ ค่ะ
ปีที่แล้วที่ Bremen, Germany ที่สองในกลุ่มเดียวกันนี้เป็นญี่ปุ่น ค่ะ แต่ปีนี้ทีมที่อเมริกาน่าจะส่งอยู่หลายทีมค่ะ เพราะแข่งที่อเมริกาเอง
อยากให้มีการประชาสัมพันธ์ในภาครัฐเพิ่มเหมือนกัน เห็นเพื่อนที่ทำงานบอกว่าเมื่อเช้ากรมประชาสัมพันธ์มีการออกอากาศทางวิทยุ เป็นการสัมภาษณ์อาจารย์ผู้ควบคุมทีม (รศ.ดร.วรา วราวิทย์) ด้วย แต่บังเอิญตัวเองไม่ทันได้ฟังค่ะ
เรื่องงบสนับสนุนนั้น ปีแรกๆ น้อยมากค่ะ ปีแรกๆ ที่ไปแข่ง อ.ศิริศักดิ์ (อดีตคณบดี คณะวิศวฯ) เล่าให้ฟังว่า อุปกรณ์เช่นกล้อง กับ sensor บางอย่างเรายังยืมไปใช้แข่งเลยค่ะ (แข่งเสร็จเอามาคืน) เพราะไม่มีงบซื้อค่ะ... อุปกรณ์ sensor บางตัวแพงจริงๆ ค่ะ
ตอนนี้การสนับสนุนที่ได้รับจะเป็นการสนับสนุนในส่วนของคณะเอง..ส่วนของบริษัทเอกชน และก็สมาคมวิชาชีพหุ่นยนต์ค่ะ
แต่ยังไงจะนำรายงานผลมาลงที่บันทึกเรื่อยๆ ค่ะ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ^ ^ ช่วยกันลุ้นเด็กไทยค่ะ...