ความจริงได้ใช้ชื่อบันทึกแบบนี้มาแล้ว 6 ครั้ง ได้แก่
เห็นคนในบางองค์กร อยู่ร่วมกันแบบ คอยจ้องจับผิด แล้ว อดไม่ได้ที่จะนึกถึงบทกวี คือกลอน 2 บทนี้ของท่านอาจารย์พุทธทาส ชื่อว่า มองแต่แง่ดีเถิด แม้จะมีบางท่านนำเสนอไปบ้างแล้ว ก็ขอฉายซ้ำ ขอให้คิดว่าเหมือนการฟังเทศน์เรื่องเดียวกัน หลายรอบก็แล้วกันครับ
หากอ่านแล้วคิดไตร่ตรอง จนนำไปปรับใช้กับชีวิตจริงกันได้ ก็ขออนุโมทนา
พิเศษ ! ขอแถมบทแปลโดย กัลยาณมิตร ศิษย์สวนโมกข์ ให้ด้วยครับ
บทแปลอังกฤษ
Look on the Good Side
They have their nasty aspects - who cares!
Choose only the good stuff that they have,
of benefit to the world and attractive.
As for the bad stuff, don't bother yourself.
To find someone who is good in all respects
don't wander foolishly, friends, on the search,
like a quest for the turtle's whiskers, dying for nothing.
So get used to looking on the good side - more value.
From May 1997 calendar
Translated by Santikaro
เรียนท่านพี่ HandayMan
แปลสั้นๆว่า
"จับถูก ปลูกฝังจิต นิมิตรสร้างสรรค์"ครับ
คิดแบบนี้สบายใจดีนะครับ ท่านอาจารย์ เป็นกุศโลบายของจิต
หลายครั้งที่เราทุกข์ใจเพราะเรามองเห็นแต่จุดบกพร่องของคนอื่น กลบจุดดีๆไปหมดเลย
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
กลอนบทนี้อ่านทีไร ทำให้จิตใจเราเยือกเย็นและมีเมตตาต่อคนรอบข้างมากขึ้น
สมัยที่สอนวิชาพระพุทธศาสนาแก่นักเรียน ในห้องจริยธรรมมีคำกลอนนี้ติดที่ผนังหลังห้อง บางวันก่อนเริ่มบทเรียน จะให้นักเรียนหันไปจ้องดูคำกลอนบทนี้ 2 นาที แล้วให้ทุกคนหันมาหน้าห้อง แล้วขออาสาสมัครยืนท่องบทกลอนนี้ เป็นการทดสอบสมาธิได้ดีไม่น้อย นานๆเข้าจำได้กันแทบทุกคน ครับ
แวะมาบอกเล่าสู่กันฟัง ครับผม
ผมใช้วิธีคิดแบบนี้ในการเลือกคนร่วมงานเลยครับอาจารย์...แต่ไม่รู้จะได้ผลมากน้อยแค่ไหน...
บางคนก็ไม่อยากร่วมงานกับใครทั้งที่เห็นศักยภาพกันดีอยู่...
น่าเสียดาย...ถ้าแค่รู้สึกไม่ชอบเพียงบางส่วนของคนนั้น...
สวัสดีครับ