ทิศทางประเทศไทยจะไปทางไหน แล้วใครล่ะกำหนดชีวิตประเทศไทย


ได้ความคิดจากการเปิดประเด็นของผู้ที่ไปร่วมสัมมนามาในเวียตนาม

ตอนนี้โดยเฉพาะภาคธุรกิจของไทยกังวลกับความเจริญเติบโตของเวียตนาม

เวียตนามตามแบบจีนการพัฒนาที่มาจากการค้นหาตัวตนให้เจอ  จะขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว 

      มีคนไทยหลายกลุ่มวิตกหนักว่าจะพัฒนาสู้เวียตนามไม่ได้  ขอบอกให้เลิกคิดเรื่องนี้มาจากพื้นฐานในหลายๆประเด็น 

  • ครับเรื่องนี้อาจจะไม่เป็นที่ตระหนักของคนไทยนัก  ไทยก็ยังเป็นไทยไม่เปลี่ยนแปลงแม้โลกเปลี่ยนไปมากแล้ว  คงจำกันได้ว่าเกาหลี  กับญี่ปุ่น  บอบช้ำจากสงครามถอยหลังประเทศไปยาวไกลแต่ไหงกลับมาแซงไทยไปสุดกู่  สิงคโปร์เพิ่งเป็นประเทศเกิดใหม่ไม่นาน  แต่ทิ้งห่างไกลไทยไปสุดกู่อย่างน้อย 50 ปี 
  • ทั้งสิ้นมาจากวิธี่คิดของคน(อยากให้คนไทยคิดแบบ g2k)  เขาให้ความสนใจเรื่องคนมากๆขอบอก  ญี่ปุ่นวางแผนพัฒนาคน 100 ปีจึงได้อย่างนี้  ประเทศไทยนำโดยสภาพัฒฯเพิ่งมานึกได้เอาสองแผนหลัง  แต่ก็ยังมองคนไม่สะเด็ดเหมือนเดิม  เอานักเศรษฐศาสตร์มาพัฒนาคนที่มองไม่ครบมิติหรอกครับ(ยกเว้นครูลูกหว้านะครับ  เดี๋ยวพี่เอกโดนดุอีก)  แล้วก็ยังไม่ทำจริงจัง  ยังยึดติดต่อเศรษฐกิจนำ ทั้งๆคนไทยจุดแข็งอยู่ที่คน  คือ human touch  หรือสัมผัสของคนไทย  แต่เราก็ยังจะพัฒนาประเทศ  ผลิตของให้เหมือนตะวันตก  ทั้งๆวิธีคิดกลับหัวกลับหางกัน
  • ประการสำคัญเวียตนามเป็นชาติหนึ่งที่คนมีวินัยและชาตินิยมสูง  ทำอะไรทำจริง  คิดแล้วทำเลย(ไม่ใช่คิดสร้างสนามบินใหม่มา 40 ปี เพิ่งมาสร้าง) ไม่งั้นอเมริกันคงไม่แพ้กลับไป
  • เขายังดูแลศิลปวัฒธรรมเก่าแก่ที่จะขายอีกมากมาย
  • ประการสุดท้ายคนเวียตนามเป็นคนไฝ่รู้  ไฝ่เรียนกันเป็นบ้าเป็นหลังแม้ยามเลิกงานค่ำคืนก็เรียน  ทุกอาชีพอยากเรียนหมด 
  • เวียดนามไม่ได้เป็นประเทศคู่แข่งของเรา  เขาประกาศเอง เพราะเขาจะไม่ดูประเทศไทยเป็นแบบอย่างเลย  เพราะมีแต่การล้มเหลว  ทั้งการเมืองการปกครอง  การทหาร  ด้านเศรษฐกิจ  ยิ่งสังคมกำลังจะล่มสลายทะเลาะถล่มทลายกันทั่วประเทศไปเลย
  • อย่าไปกลัวเวียตนามเพราะอีกไม่กี่ปีเขาก็จะแซงเราแล้ว  ดูตัวอย่างเวียตนามลงทุนรถไฟความเร็วสูง 1.2 ล้านล้าน  หันกลับมาดูประเทศไทยซี่ครับ รฟท.ยังขายข้าวผัดไข่ดาวอมตะอยู่เลย
  • เวียดนามจะดูจีนเป็นตัวอย่าง  แถมได้ความรู้มาจากรัสเซียตอนที่มีแนวคิดคอมมิวนิสต์   แถมมาได้แนวคิดตะวันตกมาเสริมเติมแต่ง  ส่วนไทยรับตะวันตกโดดๆอย่างเดียว  แถมเอาอเมริกันประเทศเดียวส่วนใหญ่ซะด้วย  จึงเห็นคนไทยจิตใจอเมริกันเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด  ทั้งๆวิธีคิดและภูมิสังคมคนละขั้วเลย(ตัวอย่างวิกฤต ศก.ไทย  เขาไม่ช่วยแต่เราก็เรียกร้องว่าเป็นเกลอเก่า  แต่เราไม่รู้เขาอยู่บนผลประโยชน์เท่านั้น) 
  • เอวังด้วยประการเช่นนี้
  • คำสำคัญ (Tags): #เวียตนาม
    หมายเลขบันทึก: 135793เขียนเมื่อ 7 ตุลาคม 2007 13:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 พฤษภาคม 2012 18:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


    ความเห็น (43)
    ผมเห็นด้วยครับ เราต้องเริ่มต้นสร้างคนรุ่นใหม่โดยเริ่มต้นจากการปลูกค่านิยมด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง วินัยต่อตนเอง ต่อผู้อื่น ฯลฯ

    ครับที่จริงต้องเริ่มจากเด็ก  ทั้งกระทรวงศึกษา  สาธารณสุข  พัฒนาสังคม  ต้องให้ความสำคัญด้านจิตวิญญานมากกว่ากายภาพ

    ขอบคุณท่านผอ.ที่แสดงความคิดเห็น กลุ่ม 3 มีความยินดีอย่างยิ่งที่ท่านได้ร่วมแสดงความคิดเห็นต่างๆ ผ่าน goto know กลุ่มนักศึกษาหวังอย่างยิ่งว่าคงได้รับข้อเสนอแนะจากท่านผอ. ในโอกาสต่อไปค่ะ......

    อยากไปร่วมกัทุกๆคน   ฝากคิดถึง อ. ดร.เสรีด้วย

    สวัสดีค่ะคุณเอก

    อ่านบันทึกนี้ก็ได้แต่อึ้งค่ะ  แต่ก็คิดคล้าย ๆ กัน

  • เวียดนามไม่ได้เป็นประเทศคู่แข่งของเรา  เขาประกาศเอง เพราะเขาจะไม่ดูประเทศไทยเป็นแบบอย่างเลย  เพราะมีแต่การล้มเหลว  ทั้งการเมืองการปกครอง  การทหาร  ด้านเศรษฐกิจ  ยิ่งสังคมกำลังจะล่มสลายทะเลาะถล่มทลายกันทั่วประเทศไปเลย
  • อ่านแล้วสะดุ้งไป ๘ ตลบค่ะ  เมืองไทยสู้เขาได้ทุกอย่างมีดีทุกอย่าง ยกเว้นคนไทย (เพราะชอบชิงดีชิงเด่น อิจฉาริษยากัน เห็นใครได้ดีกว่าไม่ได้ )  ทำยังไงถึงจะสร้างคนไทยพันธ์ใหม่ที่คิดถึงส่วนรวม ได้บ้าง  ราณีว่าเราต้องเริ่มคิดกันใหม่เลยนะค่ะ  นี่คือปัญหาระดับชาติ  ไม่งั้นเราจะร้องเพลงชาติให้ใครฟัง  สงสัยบันทึกนี้คงได้เข้ามาหลาย ๆ รอบค่ะ

    ปล.ข้อความบางตอนนั้นที่ราณีเคยได้อ่านจากหนังสือพิมพ์ด้วยค่ะ

    สวัสดีค่ะคุณเอก

      เป็นข้าราชการปลายแถว ภาระกิจหลักคือสนอง KPI ที่เจ้าประคุณคิดกันลงมาให้ทำ ก็ทำไป แต่จะกันเวลาส่วนหนึ่ง ทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำเสมอ เพื่อหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ ให้มีพลังสร้างสิ่งดีๆ ตามใจปรารถนาต่อไป

      อาจไม่เกี่ยวข้องกับบทความของท่าน แต่เป็นการบอกให้ทราบถึงคนไทยพันธุ์หนึ่งค่ะ

                                

                              ไปตามสัญญาณไฟจราจรครับ

    Pแล้วประเทศเราจะไปทางไหนดีครับพี่หมอ

    Pข้าราชเล็กใหญ่ก็มีความสำคัญต่อแผ่นดินทั้งสิ้น  ผมไม่ได้ทำงานเพื่อตัวหรือเพื่อใคร  แต่เพื่อประเทศไทยเช่นเดียวกับคุณหมอ

    เวลาไปไหว้พระที่ใดก็ขอให้ปกปักรักษาประเทศไทยให้อยู่รอดปลอดภัยเท่านี้เพียงพอแล้วครับ  ประเทศไทยอยู่ได้เราก็อยู่ได้  ดีกว่ามีแต่เราแต่ไม่มีประเทศไทยแล้ว

    Pบล็อกนี้ผมเขียนขึ้นมาภายใต้ความกังวลของคนที่ไปเห็นเวียตนามมา

    คงไม่ต้องไปเปรียบเทียบใครขอให้ทำให้ดีที่สุดสำหรับคนไทยพอ

    ขอเสริมนิดจากคนอยู่ไกลถึงเบลเยียม

    การศึกษาที่ต้องมีรากฐานมาตั้งแต่ก่อนขึ้น ป.๑ ลูกผมสองคนอยู่ชั้นอนุบาล ๓ (อายุ ๕ ขวบ) ทำขนมชอกโกแลตชิ้นเล็กๆ จากโรงเรียนเพื่อนำกลับมาให้พ่อ ผมขับรถผ่านไปบ้านป้าเขาเลยบอกว่า เอาขนมให้ป้ากับคุณลุงชิมนะ

    เขาตอบว่า ของของผม ผมเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะให้ใคร

    โรงเรียนเขาสอนวิธีคิด วิเคราะห์ เรียนรู้สิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ และซื่อสัตย์ต่อตนเองและต่อผู้อื่น

    เหมือนที่เคยมีคำกล่าวว่า เมื่อขึ้นอนุบาลก็สายเสียแล้ว

    เด็กไทยเน้นวิชาการมากจนใช้ชีวิตไม่เป็น บางคนจบการศึกษาระดับสูงสุดแต่ไม่สามารถปรับตัวหรือใช้ชีวิตกับสังคมรอบข้างได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

    การเลียนแบบอเมริกันก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะเป็นสังคมไร้วัฒนธรรม มีแต่เรื่องสุดโต่ง หรือเงาภาพมายาที่เห็นกันในจอภาพยนต์เท่านั้น ชีวิตจริงของชาวอเมริกันถึงแม้จะมีเงิน แต่คนยุโรปจะเรียกพวกนี้ว่า เศรษฐีใหม่ไร้รสนิยม คนยุโรปมิได้นับถือกันที่เงินตรา แต่เกียรติและศักดิ์ศรีต่างหากเป็นสิ่งที่เคารพยกย่อง

    สิ่งที่ชาวยุโรปเรียกร้องกันมากที่สุดคือ สิทธิมนุษยชน หรือความเท่าเทียมกันในการใช้ชีวิตอยู่บนพื้นแผ่นดินของโลกนี้ โดยเป็นหน้าที่ของแต่ละรัฐจะต้องจัดหาและตอบสนองความต้องการเบื้องต้นของพลเมืองให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างสมศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ตามความเหมาะสม เป็นหน้าที่ของทุกคนที่อยู่ร่วมในสังคมจะต้องแบ่งปันกันตามที่ควรจะเป็น ก่อให้เกิดระบบประกันสังคมตั้งแต่หลังการปฏิรูปอุตสาหกรรมภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

    คนไทยมักจะดูหมิ่นเหยียดหยามผู้ที่ด้อยกว่าตน พยายามหาทางกดขี่ข่มเหง สร้างอำนาจให้กับตนเองเพื่อเป็นเกราะกำบังหรือทับถมผู้อื่น เห็นได้จากยามทั้งหลายที่แต่งเครื่องแบบเหมือนหรือคล้ายกับตำรวจ หรือแม้แต่การวางหมวกตำรวจไว้ในรถหรือตู้ร้านทอง ผมเห็นแล้วรู้สึกได้เลยว่า แม้กระทั่งหมวกตำรวจยังทรงอำนาจได้ขนาดนี้ ไม่ทราบว่าจะตัวตนตำรวจจะมีอำนาจขนาดไหน

    คนไทยไม่เคารพสิทธิผู้อื่น ทุกปีที่ผมกลับมาเมืองไทย เดินจูงลูกน้อยสองสามคนข้ามทางม้าลาย ไม่เคยมีสักครั้งที่รถยนต์จะหยุดให้ข้าม ผมถือว่านี่คือความต่ำทรามทางจิตใจที่สุดของสังคม และเคยมีฝรั่งนักท่องเที่ยวถือธงเดินข้ามทางม้าลายถูกรถชนตาย จุดเล็กๆ เช่นนี้ คือ มะเร็งร้ายที่ทำลายประเทศไทยให้ล่มสลายได้ คนไทยไม่รู้จักให้เกียรติและเคารพสิทธิของผู้อื่น ต้องการแต่จะได้สิทธิพิเศษ มีเส้น มีคนฝากฝัง ฯลฯ เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเท่านั้น

    ผมยังรักประเทศไทยและอยากกลับมาอยู่บ้านเกิด แต่การอยู่ต่างประเทศแม้จะได้สัญชาติและถูกมองว่าเป็นคนต่างชาติอยู่ดีเพราะหัวดำ แต่ทุกคนเคารพสิทธิของกันและกัน ไม่มีใครละเมิดสิทธิผู้อื่น ขณะที่ประเทศไทยเรานั้น มีผมบอกผมว่า ถ้าคุณมีเงินหรืออำนาจแล้วละก็ อยู่เมืองไทยสบายที่สุด เมื่อมีเงินก็ซื้อหาอำนาจได้ หรือเมื่อมีอำนาจก็ใช้แสวงหาเงินได้อีกเช่นกัน ใครช่วยบอกทีว่าผมควรจะทำอย่างไรดี

    Dsc01494

    ภาพคุณบุญธงยังไม่ได้ขึ้นบล็อกขอขึ้นให้ครับ
    ในฐานะที่คุณบุญธงเป็นประธานเพื่อนไทยในเบลเยี่ยม

    ความคิดเห็นของคนไทยที่อยู่ห่างไกลแต่ยังห่วงใยประเทศ  g2k  จะเป็น Organic Organization  ที่ช่วยสร้างสรรค์มุมมองคนไทยในการพัฒนาประเทศไปสู่จุดหมายที่พึงประสงค์  แม้ปัจจุบันยังไม่กว้างไกลมากแต่ก็อยู่ในส่วน core ของแต่ละหน่วยงานครับ

    สวัสดีครับอาจารย์เอก  ขอขอบคุณมากครับ  ที่แบ่งปันความรู้ที่ดีๆและมีประโยชน์มากครับ   ผมจะติดตามอ่านอย่างต่อเนื่องครับ
    Pถึงเวลาแล้วครับ  ที่เราต้องยึดคนเป็นหลัก
    มุ่งให้ปัญญาความรู้  แลกเปลี่ยนประสบการณ์

    ผมเคยได้รับความรู้จากนายพลท่านหนึ่ง ท่านเล่าว่า คนไทยไม่มีวินัยตั้งแต่เป็นทารก คือ แม่จะให้นมเมื่อลูกร้อง ไม่มีการกำหนดเวลา ทำให้เด็กไม่มีระเบียบวินัย ทำตามใจต้องการ เด็กต่างชาติจะได้นมตามเวลา หมดเวลาก็ไม่ให้กิน ยังไม่ถึงเวลาก็ไม่ได้กิน ครับต้องเริ่มกันตั้งแต่เป็นทารกเลยทีเดียว

    น่าเสียดายที่คนไทยส่วนใหญ่มีลูกแล้วไม่รับผิดชอบเลี้ยงดู ชอบปล่อยให้ไปอยู่กับปู่ย่า ตายาย ตามยถากรรม ทำให้เด็กเจริญเติบโตโดยขาดความอบอุ่นจากไออกพ่อแม่ และขาดการติดตามความเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง

    ในยุโรป จะมีคลีนิคสำหรับเด็กแรกเกิดถึงหกขวบที่จะทำการตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีน ให้คำแนะนำด้านการเลี้ยงดู อาหาร ฯลฯ ติดตามเกณฑ์การเจริญเติบโตทั้งทางร่างกายและจิตใจ การพูด การฟัง การมองเห็น เรียกว่า เตรียมความพร้อมก่อนการเข้าอนุบาลกันเลย จะมีนัดหมายตรวจเป็นระยะ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลยสักเซนต์ ทำให้เด็กเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ ถ้ามีกรณีที่เด็กเจริญเติบโตผิดปกติก็จะหาสาเหตุว่า พ่อแม่ทิ้งขว้าง เลี้ยงดูไม่ดีหรือไม่ หากจำเป็นหรือมีปัญหาครอบครัว ก็จะมีโรงเรียนประจำรับไปดูแลและให้พ่อแม่มาดูหรือรับกลับได้เฉพาะสุดสัปดาห์

    เด็กทารกคือสมบัติของชาติ ไม่ใช่ของพ่อแม่ ดังนั้น รัฐบาลจะทำการดูแลอย่างดีตั้งแต่แรกเกิดจนทำงานได้ แม้ว่าพ่อแม่จะมีปัญหา ก็จะมีผู้ดูแลรับผิดชอบให้อย่างดี จะสังเกตุเห็นว่า พ่อแม่ฝรั่งเมื่อแยกทางกันจะแย่งกันดูแลลูก ขณะที่พ่อแม่ไทยไม่ค่อยสนใจกันว่าใครจะดูแลลูก คนไทยไม่ค่อยให้ความสำคัญกับคุณค่าของลูก เมื่อยังเป็นทารก ปล่อยให้อยู่กับคนเลี้ยง พ่อแม่ไม่เคยจับต้อง คนเลี้ยงก็เลี้ยงดูอย่างดีเรียกว่า อาบน้ำ ป้อนข้าว ฯลฯ จนเป็นสาว เป็นวัยรุ่น ก็ยังต้องใส่กางเกงในให้กันอีก

    ยังไม่ช้าถ้าจะเริ่มพัฒนาเด็กเล็กตั้งแต่ทารกจนเข้าอนุบาล และวิเคราะห์วิจัยการสอนในทุกระดับให้ได้รับความรู้ที่พร้อมสำหรับการใช้ชีวิต ไม่ใช่สอนให้ท่องเก่ง เรียนเก่ง แต่ล้มเหลวในการใช้ชีวิต แม้แต่ชีวิตครอบครัวก็ล้มเหลว แล้วจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้อย่างไร

    อย่าคิดว่าเป็นการมองแบบนอกลู่นอกทางเลยนะครับ คนเราก็เริ่มจากทารกนั่นแหละที่จะต้องใส่ใจให้ดีที่สุด

    สังคมไทยโชคดีที่มีพุทธศาสนาเป็นเครื่องชี้นำจิตใจ สังคมยุโรปมีแต่ความว่างเปล่า คนส่วนใหญ่ไม่สนใจเรื่องศาสนา และเป็นคนไม่มีศาสนา เพราะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็น และไกลตัว ทำให้เกิดปัญหาการฆ่าตัวตายที่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา และการขาดความสุขใจแม้จะมีเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ฯลฯ แต่มีปัญหาความกดดันทางจิตใจหรือเป็นโรคซึมเศร้ากันมากมาย

    อ่านแล้วสงสารบ้านเราจังเลยนะคะคุณลุง 

    • สวัสดีค่ะพี่เอก...อิอิ เป็นคุณลุงไปซะแล้ว
    • ทำไมเพิ่งจะเห็นบันทึกนี้นะ  สงสัยจะยุ่งๆอยู่
    • ถูกใจค่ะพี่   เป็นเรื่องที่คุยกับเด็กอยู่เสมอเลย

     

    • สิ่งหนึ่งคือ ประเทศไทยเราไม่เคยลำบาก  คนไทยอยู่กันอย่างสะดวกสบาย    มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์  ไม่เคยรับรู้สภาพสงครามอย่างญี่ปุ่น และเวียดนาม..
    • คนไทยเราก็เลยขาดความกระตือรือร้น  ไม่เคยรับรู้ถึงความอดอยาก...

     

    • หว้าเองก็ได้แต่สอดแทรกลงไปในบทเรียนให้
    • น.ศ.ได้รับรู้  และตระหนักกันบ้าง.....อย่าหลงระเริงว่า ประเทศไทยส่งออกข้าวเป็นอันดับหนึ่ง..
    • เศรษฐกิจของประเทศไทยจะเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนั้นตามคำโฆษณาของผู้บริหารประเทศบางท่าน...
    • อย่าคิดแต่จะนำทฤษฏีเศรษฐศาสตร์จากต่างประเทศเข้ามาวางแผนนโยบายของประเทศอย่างเดียว  แต่ควรจะผสมผสานแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามาด้วย
    • อย่างที่พี่เอกบอกคือ....สภาพัฒน์เริ่มมาถูกทางแล้วค่ะ   เห็นได้จากแผน  9 ,10  ที่เริ่มเน้นที่จะพัฒนาคนมากขึ้น  น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามา   ที่สำคัญเริ่มเปิดโอกาสที่จะเรียนรู้ชุมชนจากปราชญ์ชาวบ้าน   เห็นจากที่เชิญครูบาฯ ไปบรรยายให้พวกสภาพัฒน์...
    • หว้าเองก็อยากจะให้กำลังทุกฝ่ายค่ะ  ไม่อยากมานั่งวิจารณ์อะไร   อยากให้ทุกคนทำเพื่อประเทศไทยของเรา  ทำเพื่อส่วนรวมกันบ้าง  ช่วยกันตั้งแต่จุดเล็กๆ  สำหรับหว้าเองเป็นครูก็จะช่วยในส่วนช่วยปลูกฝังความคิดของเด็กๆ สร้างวินัยให้กับพวกเขา....ให้พวกเขานึกรักแผ่นดินเกิดของพวกเขา...
    • มาช่วยกันนะคะ...

    สวัสดีค่ะ

    P

    เห็นด้วยกับคุณบุญธง ก่อมงคลกูล 
    ว่า คนเราก็เริ่มจากทารกนั่นแหละที่จะต้องใส่ใจให้ดีที่สุดค่ะ

    เรามาหาทางช่วยกัน อย่างอ.ลุกหว้าบอกนะคะ

    Pอย่าลืมสงสารตัวเองด้วยนะหลาน  ฮิฮิ

    Pเรายังคงเลี้ยงเด็กแบบตามฉัน ไม่ได้อยู่บนฐานความรู้ใช่ใหมครับ
    P
    • ภูมิใจมากเลยเริ่มคุยกับหลานๆไฮเทคทันแล้ว  แต่ยังตามน้อง(ลว)ไฮเทคไม่ทันเลย
    • มีคนเล่าให้ฟังว่าเขาพิมพ์เร็วแล้วเจอครูลูกหว้า คุยกันทางตัวหนังสือเมื่อไร  แหง่ว พิมพ์เร็วจนมองนิ้วไม่ทัน
    • น้องลูกหว้าคงยุ่งกับการตรวจข้อสอบและหลงไหลกับขนมของลูกศิษย์น่ะซี  ไม่แบ่งปันระวังหุ่นเสียนะ  ฮิฮิ
    • ทำอะไรตามใจคือไทยแท้
    • แต่จะก้าวหน้าเพราะ g2k  นี่แหละ
    • เห็นด้วยกับลูกหว้าทั้งข้าว  ยางระวังไว้เถอะ
    • ทฤษฏีเศรษฐศาสตร์สร้างภาพมาใช้วางแผนนโยบายประเทศ  โดยใครไม่บอกต้องไปถามครูบา เตือนเบาๆแทบตกเก้าอี้..

    สวัสดีครับ อ.เอก

    • ผมก็เป็นลุกพ่อครูคนหนึ่ง และยังเป็นน้องของลูกศิษย์อาจารย์ที่ชื่อ ธนัท  ไชยทิพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนฝางวิทยายน ครับ
    • พ่อเห็นด้วยกับทุกๆคนเลย ว่าการพัฒนาประเทศชาติต้องเริ่มจากคนเป็นอันดับแรก หากคนไม่มีคุณภาพแล้วงานที่ออกมากเช่นเดียวกันครับ

    หลังจากอ่านบันทึกนี้จบ ท่านผู้นำออกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า....

    "อย่าเป็นห่วงไปเลยครับ เรายังมี ลาว พม่า กัมพูชา ให้พอลุ้นได้ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่ต้องวิตก งวดนี้ผมฟันธงว่าเรามาวิน"

    ความคิดเห็นของผมก็เป็นเพียงมุมมองหนึ่งที่เห็นจากภาพจากภายนอกเหมือนพระท่านหนึ่งท่านเคยสอนผมว่า หากเราอยู่ในป่ามองไม่เห็นหรอกว่าป่าสวย เห็นแต่ต้นไม้ ต้องอยู่นอกป่าจึงจะเป็นป่าสวย

    ตัวผมก็มองจากภายนอก เห็นแล้วก็ยิ่งรักบ้านเรา พยายามหาข้อดีที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับการพัฒนาเมืองไทยได้บ้างมาเล่าสู่กันฟัง มิใช่เป็นการเห็นฝรั่งดีแต่อย่างไร แต่ค้นหาและจับประเด็นที่น่าสนใจมาเสนอ

    ท่านทูตดอน ปรมัตถ์วินัย เคยเป็นทูตอยู่สวิสเซอร์แลนด์ ได้ริเริ่มโครงการยุวทูตความดีของกระทรวงการต่างประเทศ เพราะท่านได้เห็นตัวอย่างที่โรงเรียนในสวิสทำกัน ประสบความสำเร็จในหลายโรงเรียน ไม่ต้องใช้งบประมาณมากมาย เพียงแต่ให้เด็กจดบันทึกว่าได้ทำความดีอะไรกันบ้าง สนใจรายละเอียดเปิดดูในเวปของกระทรวงการต่างประเทศไทย

    ประเทศไทยเราเน้นรูปแบบมากกว่าเนื้อหา เน้นอาคารสถานที่ ป้ายชื่อ ฯลฯ แต่ไม่เน้นคุณภาพ คุณค่า ส่วนราชการไทยจะต้องมีป้ายใหญ่โต เป็นหินอ่อนราคาแพง ซึ่งไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้งบประมาณให้สูญเสียไปกับสิ่งเหล่านี้ ในต่างประเทศแม้จะเป็นหน่วยงานใหญ่โตระดับนาชาติก็จะมีป้ายทองเหลืองแผ่นเล็กๆ เท่านั้น คุณค่าความสำคัญอยู่ในผลงานกับการเป็นที่ยอมรับของสังคมมากกว่าแผ่นป้าย

    ในเบลเยียม ประชากรร้อยละหกสิบเป็นเจ้าของบ้าน รัฐบาลจะมีนโยบายสนับสนุนในหลายรูปแบบให้คนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและสามารถหาซื้อบ้านเป็นของตน เมื่อคนมีบ้านก็จะเห็นความมั่นคงและยึดมั่นกับหน้าที่การงาน ระมัดระวังในการใช้ชีวิต บ้านเราจะนิยมรถมากกว่าบ้าน โดยไม่ได้คำนึงถึงผลในที่สุดว่า มูลค่าของรถยนต์จะลดลงจนเหลือค่าเพียงเศษเหล็ก ขณะที่บ้านนั้นเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่จะเพิ่มมูลค่าในตัวเองทุกปี ผมเคยซื้อบ้านในเบลเยียมเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนขายราคาขึ้นไปสามสี่เท่าตัว นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และได้รับผลประโยชน์สูงมาก แต่น่าเสียดายที่บ้านเราไม่ค่อยมีการกระตุ้นให้ประชาชนมองเห็นภาพดังกล่าว ธนาคารก็หวังแต่ผลประโยชน์จนไม่คำนึงถึงการมีส่วนร่วมในการกระตุ้นหรือเสริมสร้างเศรษฐกิจให้ยั่งยืน คอยแต่หากำไรเท่านั้น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ก็ไม่ได้ทำหน้าช่วยสงเคราะห์ผู้ที่จำเป็นจะต้องได้รับการช่วยเหลือแต่อย่างใด กระตุ้นให้ซื้อรถเท่านั้น ซื้อบ้านก็ให้ระยะเวลากู้เพียง ๗ ปีซึ่งสั้นมาก เบลเยียมกู้ได้ ๑๐ ๑๕ หรือ ๒๐ ปีทีเดียว

    นอกจากนั้น ความสะดวกสบายอย่างที่ อ.ลูกหว้าบอกก็เป็นปัญหาหนึ่ง ในยุโรปความที่มี ๔ ฤดู คนต้องเตรียมตัวรับกับความเปลี่ยนแปลงในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม อาหาร การทำงาน ฯลฯ มีการวางแผนล่วงหน้าเป็นปี ต่างกับคนไทย อยู่อย่างสบายไร้กังวล เวลาจะไปดูงานก็เมื่อตอนปิดงบ ส่งเรื่องขอดูงานกับหน่วยงานต่างประเทศล่วงหน้าเพียงหนึ่งหรือสองเดือน ทำให้การจัดโปรแกรมกับดูงานลำบาก พอไปถึงก็ไม่ค่อยจะสนใจจริงจังกับการดูงานเท่าไรนัก ก็คงต้องสร้างจิตสำนึกกันบ้างว่า การทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สูด

    อยู่เมืองไทยสบาย แต่ไม่สะดวก อยู่เมืองนอก สะดวกแต่ไม่สบาย ถ้าเราช่วยกันสร้างคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้กับคนไทยด้วยกันแล้ว ประเทศไทยของเราคงจะน่าอยู่มากขึ้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่รักประเทศไทยเพราะเสน่ห์ของคนไทยในความเป็นคนยิ้มง่าย ยิ้มจนไม่รู้ว่าดีใจหรือเสียใจ พอใจหรือโกรธ แต่นี่คือเอกลักษณ์ไทย

    สวัสดีค่ะ

    ดิฉันอยากเพิ่มเติมว่า

    สังคมไทย โดยภาพรวม เป็นสังคมของความเมตตากรุณา ทำให้คนในสังคม แม้จะแตกต่างกัน ก็อยู่ร่วมกันได้โดยปกติสุข คนไทยมีความโอบอ้อมอารี และความกตัญญู อยู่มากค่ะ

    ความกตัญญู ทำให้หัวใจของความเป็น ไทย อยู่ได้จนทุกวันนี้ นั่น คือ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และ มีวัฒนธรรมที่ยาวนานมาร่วมกันค่ะ

    สวัสดีครับพี่เอก

    สบายดีไหมครับ

    เข้ามาประทับใจการมองของคุณ บุญธง ก่อมงคลกูล  จากทางยุโรป นับว่ากลั่นออกมาให้มองหลายๆ อย่างเลยทีเดียวครับ ในมุมมองก็ไม่ต่างจากมุมจากเยอรมันมากครับ

    การมองแบบนี้ แล้วหากเราคนไทยเปิดใจกว้างยอมรับ ข้อดีๆ ของแต่ละประเทศมารวมกันโดยปรับใช้บนบริบทของรากเหง้าของสังคมไทย ก็คงจะดีไม่น้อยครับ

    เราไม่ต้องเป็นเสือตัวที่หนึ่งสองสามหรอกครับ เพียงแต่เราอยู่ร่วมกับความอุดมสมบูรณ์ที่ธรรมชาติได้สร้างไว้ให้ ดินแดนไทยก็จะเป็นดินแดนศิวิไลซ์เหมือนเพื่อนผมจากโรมาเนียพูดชมเอาไว้

    ประวัติศาสตร์ของเราสอนเราในแนวทางที่ทำให้เราดูถูกเพื่อนบ้านมากเกินไปในหลายๆ มุมมอง ในทำนองที่เราดีแล้วเพื่อนบ้านแย่ มันเลยปนเข้าไปในสายเลือดในบางครั้ง

    ผมพูดเสมอว่าเผาหญ้าในรั้วบ้านเรา แต่ควันที่ลอยสูงขึ้นไปนั้น มันไม่ได้แยกหรอกครับ ว่าควันนี้มาจากบ้านใคร ดังนั้นจงอยู่กันแบบองค์รวมเกื้อกูลน่าจะสวยกว่า เจือจุนกันเพื่อพระธรรมชาติที่สมบูรณ์และยั่งยืน

    แค่นี้ก่อนแล้วกันนะครับพี่ ก่อนจะยาวมากเกินไปครับผม

    ร่วมด้วยช่วยกันครับ

    เม้งครับ 

    โห...เป็น blog ที่โดนที่สุดเลยค่ะพี่เอก

    ขอเก็บเกี่ยวด้วยคนนะคะ

    หนิงยอมรับนะคะว่า  สนใจมองเวียดนามเมื่อไม่กี่ปี  ตั้งแต่รู้จักเพื่อนเวียดนาม(ตาบอด)แหละค่ะ  สนใจตัวเขา (คนเวียดนาม)  และเลยสนใจประเทศของเขาด้วย  หนิงก็เชื่อนะคะว่า  ตอนนี้ เราไม่ใช่คู่แข่งของเวียดนามแล้วจริงๆค่ะ  และอย่าได้โกรธที่เขาบอกแบบนั้นด้วยเหตุผลที่ทราบกันแล้ว

    แต่อนาคตไม่แน่นะคะ  ถ้าพวกเราช่วยกัน  เขาก็ไม่ใช่คู่แข่งเราเหมือนกันค่ะ  เพราะเราเป็นเรา  เป็นไทย  ที่มีวิถีของเรา หนิงเชื่อว่าพวกเรา(หลายๆท่านในG2Kนี้) สามารถค่ะ !!  ไทยไม่ช่วยไทยแล้วใครจะช่วยเรา

    เห็นด้วย ๑๐๐ เปอร์เซนต์กับอ.เอกเลยครับ เราต้องยอมรับความจริงว่าเราตามก้นฝรั่งโดยไม่ค่อยคิดจะเอามาปรับใช้ ทุกอย่างต้องตามทฤษฎี มันห่วยแตกครับ มันไมปกับอ.เอก อิอิ

    สวัสดีครับคุณเอก

    ประการสำคัญเวียตนามเป็นชาติหนึ่งที่คนมีวินัยและชาตินิยมสูง  ทำอะไรทำจริง  คิดแล้วทำเลย

      เห็นด้วยเป็นอย่างมากครับ  ผมเคยมีเพื่อนเวียตนาม แนวคิดต่างกันกับคนไทยมากครับ  ข้อสำคัญคือเขาลงมือทำมากกว่าพูดครับ

    คุณเอกครับ ผมขออนุญาตทำลิงค์ไปหาบทความที่น่าสนใจสักเรื่องนะครับ เผื่อมีใครอ่านแล้วจะเกิดความคิดดีๆ

    บทความเรื่อง การสอนคิดวิเคราะห์เพื่อสร้างคนดี โดย ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการโรงเรียนสัตยาไสย จ.ลพบุรี และนักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นอุปกรณ์ลงจอดบนดาวอังคารได้เป็นคนแรกของโลก 

    • มารายงานตัวถึงเชียงใหม่แล้วครับผม
    • ขอบคุณครับ
    วุฒิชัย สังข์พงษ์
    ทิศทางของประเทศไทยจะไปทางไหน แล้วใครจะกำหนดชีวิตประเทศไทย เป็นหัวข้อที่มีคำตอบแบบอินฟินิตี้หรือเปล่าครับ เพราะพอใครเข้ามาบริหารประเทศทีก็ปรับทิศทางที พอจะเลือกใครเป็นผู้กำหนดชีวิตของประเทศก็กล่าวกันว่าไม่มีคนที่สมบูรณ์แบบ ครั้นจะให้ทุกคนช่วยกันกำหนดชีวิตของประเทศก็น่าเป็นห่วงเพราะแม้แต่ชีวิตตัวเอง  กระผมคิดว่าประชากรส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถกำหนดได้  แต่กระผมก็เชื่อว่าถ้าเราเข้าใจวัฏจักรการเกิด การศึกษา การทำงาน การครองเรือน และสิทธิอันพึงมีของประชากรของประเทศย่อมจะนำพาประเทศไปสู่ทิศทางที่จะนำไปสู่การมีความสุขอย่างยั่งยืนของประชากร ในโลกใบนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ทุกสิ่งทุกอย่างมีสองด้าน ขึ้นอยู่กับการจัดการอย่างเข้าใจ จริงใจและเอาใจใส่เพื่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าผลกระทบจริงหรือเปล่าครับ

    สวัสดีครับคุณเอก

           โดนใจครับ...เราไม่ต้องไปกลัวใครเขาหรอก ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา  ความมีระเบียบวินัยเมื่อนำมาบวกกับชาตินิยม ย่อมที่จะเดินไปสู่ความสำเร็จของชาติ ด้วยเหตุนี้เองจึงมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างต้นกล้าของสังคม ก็คือเด็กและเยาวชนไทยให้มีวินัยและชาตินิยม ไม่ใช้เพียงแต่รอรับวัฒนาธรรมต่างชาติเข้ามาอย่างเช่นปัจจุบัน เอกลักษ์ไทยความเป็นไทยจะต้องมีอยู่ในสมอง เลือดเนื้อ จิตวิญญาน  เราต้องมาช่วยกันนะครับ

    Pครับเห็นด้วยกับคุณหนิงเพียงแต่ไทยเรายังค้นหาตัวตนไม่เจอก็เลย  ไม่รู้จะพัฒนาอะไร  แถมไปเอาร่างและจิตวิญญานของชาติอื่นมาพัฒนาอีก  คอยดูครับเมื่อไรวิถีไทยป็นวิถี g2k เมื่อไรไปโลด  ต่างคนค้นตัวตนออกมาแสดง  ผูกกันทางใจ  เมื่อเจอก็ผูกกาย  สุดท้ายก็ผูกจิตเป็นมิตรที่รู้ใจไปไหนไปโลด  ดูได้จากเฮฮาศาสตร์
    Pครับคุณชนา เราหมอเวลามาทะเลาะกัน  ช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคของชาติให้ผงาดไปพร้อมกันอย่ามัวแต่ตัดแข้งตัดขาชิงดีชิงเด่นกันไปทำไมภัยของชาติที่สู้ยังมีอีกเยอะต่อ
    Pท่านอัยการปริญญาตรี โท เอก เป็นสิ่งดีแต่ต้องมีความคิดตนเอง  ศึกษาชีวิตตนเองให้แตกฉานก่อน  บ้านเราวันนี้คนไม่มีปริญญากับมีความรู้อันหลายหลาย เช่นครูบา  ครูประยงค์  ที่ ผู้ไปเรียนมาจากต่างประเทศต้องมาคารวะ
    Pน้องต้นกล้าขอบคุณอย่างมาก ของท่านอาจอง  โดนกลางแสกหน้าหลายคนเลย  จะต้องเอาไปขยายผลมากๆ  จะช่วย
    Pครับลุงวอ  เวียตนามเขาตัวจริงและของจริง  ไม่ใช่สิ่งจอมปลอมครับ

    Pอ.เม้ง คุณ บุญธง มีประสบการณ์ในยุโรปมา 30 ปี  มีมุมมองที่สะท้อนสังคมไทยได้อย่างดี  เราไม่ยอมรับประวัติศาสตร์ของเราเองชอบปรุงแต่งให้สวยงามจึงถูกเพื่อนบ้านไม่ชอบ  ธรรมชาติที่สมบูรณ์ก็ทำลายซะแหลกลานแถมไปเอาของเพื่อนบ้านมาอีกยังงี้รักกันได้ไง 

    P

    เห็นด้วยครับว่าสังคมไทย เป็นสังคมเมตตากรุณา อยู่ร่วมกันบนความหลากหลาย  มีความกตัญญู  

    Dsc01494ไม่รักประเทศไทยแล้วจะให้ใครรักครับ  เราต้องยกย่องคนดีครับ  ผมจะสอนลูกว่าไม่ต้องเรียนเก่งแต่ต้องอยู่ในสังคมได้   บ้านเราแหล่งพัฒนาเด็กแต่งบประมาณมาทำป้ายทำถนนส่วนใหญ่  เราต้องมาช่วยการปัญญาความคิดครับ

    Pน้องต้นกล้าจ๋าพม่านี่อย่าดูถูกเขาเชียวนะเขามีชาตินิยมพอควร  กลัวเราจะไม่ได้รับรางวัลน่ะซี

    รักประเทศไทยครับและรักมากขึ้นเมื่อได้ไปเรียนรู้ประเทศอื่น

    -ว่า เขาก็ไม่ได้ดีกว่าประเทศเรานัก

    -ประเทศเราก็ยังมีดีอีกมาก

    -ขอเพียงมีสติ นำความรู้ที่เหมาะสมมาใช้ ไปรอดแน่ครับ

    -เลือกผู้นำที่ดีเอาไว้ก่อนครับ

    ทั้งหมดนี้ตรงตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงครับ

    คนไทยจึงต้องกำหนดทิศทางของประเทศด้วยตนเองครับ

    เรียนท่านเสธฯ

               ดิฉันทำงานวิจัยเกี่ยวกับเวียดนามอยู่หลายปี ไปเวียดนามบ่อยๆ และเห็นความเติบโตทั้งคนและประเทศอย่างต่อเนื่อง หลายคนก็ถามคำถามเดียวกับที่ท่านจุดประเด็นไว้ ดิฉันก็คาดเดาทิศทางว่าเขามุ่งพัฒนาวัตถุเป็นหลัก ดิฉันว่าเราผ่านจุดนั้นมาแล้ว เรารู้แล้วว่า "เงิน" มิใช่คำตอบของทุกสิ่ง แต่เราต้องสร้างความแข็งแกร่ง ความเป็นผู้ที่ "พัฒนา" แล้วทั้งในด้านความรู้ ความสามารถของ "คนไทย" ให้คิดเป็น ทำเป็น เห็นกับประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน อย่าไปเน้นเรื่องการได้ปริญญาโดยไม่ต้องมีความรู้ที่แท้จริงก็ได้ (ประเภท "จ่ายครบ จบแน่" "เรียนก่อน ผ่อนทีหลัง" ไม่ทราบปล่อยให้มีเหลือบเหล่านี้เข้ามาอยู่ในวงการศึกษาไทยได้อย่างไร?) เราต้องสร้างตัวตนของเราให้เด่นให้ได้ในความเป็น "ไทย" ที่จะยืนได้ด้วยขาของตนเอง ไม่พึ่งพิงต่างชาติมาก อย่าให้ต่างชาติมานำความเป็น "ไทย" เพราะจะกลายเป็นของโหลไปไม่มีใครสน ดิฉันคิดว่าปฏิรูปการศึกษาไทยต้องเริ่มใหม่อีก (รอบที่เท่าไร?) กระมัง?

    ด้วยความเคารพ

    โสภนา

    P

    ประเทศมีดีมากๆ  ขอแต่อย่าไปทำลายกันเลย  ผู้นำที่ดีน่ะเห็นด้วยครับ  แต่ดีแต่ตัวไม่อยากได้แล้ว 

    อ.โสภนาครับ   เวียตนามเขามีจิตใจมากแล้ว  เขาจึงเริ่มวัตถุเป็นหลัก   ความรู้ ความสามารถของคนเขามากพอควร  แถมชาตินิยมสูงเลยมุ่งทำเพื่อชาติสิ่งนี้แหละที่เราขาด  

    การปฏิรูปการศึกษาไทย  ผมห่วงจริงว่าจะเป็นผลชาติไหน  แต่ผมคงไม่ได้เห็นก่อนตายแน่ครับอาจารย์

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท