รับ Book tag มาจากคุณหมอ คนชอบวิ่ง ด้วยความยินดีค่ะ และด้วยโจทย์นี้เองที่ทำให้ค้นพบว่าตัวเองได้ว่างเว้นการอ่านหนังสือไปนานแสนนานจริงๆค่ะ... กว่าจะค้นหาหนังสือที่ประทับใจได้ก็ใช้เวลานานอยู่หลายวัน....ตอนนี้ก็พร้อมแล้วค่ะ ที่จะนำมาบอกเล่ากัน.......

เป็นหนังสือที่ "ต้อง" อ่านอยู่เป็นประจำค่ะ  นอกจากหนังสือเล่มนี้จะเต็มเปี่ยมไปด้วยเนื้อหาสาระที่มีคุณภาพแล้ว เส้นทางชีวิตของหนังสือเล่มนี้ ช่วยสอนใจเราได้มากมายด้วยค่ะ

	ชื่อหนังสือ "Clinical Laboratory Method" ค่ะ รู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2526 เมื่อเริ่มต้นเข้ามาทำงานเลยค่ะ
	หนังสือนี้บรรจุความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ค่ะ  ไม่เคยผิดหวังเลยเมื่อหยิบขึ้นมาอ่านคราใด ก็ได้ความรู้ทุกครั้งไป จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังต้องหยิบมาอ่านเป็นประจำเลยค่ะ
	หนังสือเล่มนี้มีความหนัก พอสมควร ในบางครั้งพี่เม่ยจึงพึ่งพาอาศัยนำมาใช้ทับกระดาษ หรือแผ่นใส (สมัยก่อนใช้บ่อยค่ะ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ใช้แล้ว) เพื่อให้ตึงเรียบก่อนใช้งานค่ะ
	บางครั้งก็ต้องอาศัยความหนาของหนังสือ มาช่วยเพิ่มความสูงของอุปกรณ์ที่จะใช้งาน เช่นนำมาเป็นฐานรองกล้องจุลทรรศน์  เพราะดูมั่นคงแข็งแรงดีค่ะ
	เมื่อก่อนหนังสือเล่มนี้ถูกเก็บอยู่ในตู้ลอยเล็กๆ ค่ะ
	แต่เดี๋ยวนี้ ได้รับความอนุเคราะห์จากน้องๆช่วยกันจัดการหนังสือให้เป็นระเบียบ จึงได้มาตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ในตู้เก็บหนังสือ  รอให้ใครต่อใครหยิบไปใช้ประโยชน์ต่อไปค่ะ

หนังสือดี มีคุณภาพ สารพัดประโยชน์ ไม่ว่าจะเก่าแก่สักปานใดก็ยังมีคนนึกถึงและมองเห็นคุณค่าอยู่เสมอค่ะ

ชื่อหนังสือ "ลัดฟ้าไปหาข่าว" ของคุณกรุณา บัวคำศรี  อดีตนักข่าวสาวไอทีวีค่ะ

แต่.....เกิดความประทับใจครั้งที่หนึ่งกับหนังสือเล่มนี้ ก็ตรงที่กว่าจะได้หนังสือมาก็ยากเย็นเหลือเกินค่ะ  แอบซ่อนอยู่ที่ซอกหนึ่งของชั้นหนังสือชั้นสองในร้านหนังสือชื่อดังค่ะ  พอพี่เม่ยเลือกได้แล้ว ก็จ่ายสตังค์ซื้อหนังสือในราคาเต็มเรียบร้อย

เสียอะไรก็เสียได้ แต่เสียเปรียบกันเห็นๆอย่างนี้เห็นทีจะยอมไม่ได้....วันนั้นจึงเป็นวันที่พี่เม่ย "วีนแตก" และสูญเสียพลังงานไปเยอะมากค่ะ  กว่าจะได้หนังสือเล่มนี้มาในราคาลด 50%....

แล้วก็เกิดความประทับใจครั้งที่สอง กับหนังสือเล่มนี้ เมื่อได้อ่านบทสุดท้ายของเธอค่ะ ทำให้ทราบว่าเธอเป็นหนึ่งใน "กบฏไอทีวี" ที่โด่งดังในแวดวงสื่อมวลชนค่ะ  อ่านความคิดของผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอแล้ว พูดได้คำเดียวว่า "ทึ่ง...."

ยิ่งพอมีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องเกิดขึ้นในช่วงนี้อีก  ทำให้พี่เม่ยต้องหยิบหนังสือนี้ขึ้นมาอ่านอีกหลายๆรอบ  และในที่สุดหนังสือเล่มนี้ก็เบียดเข้ามาเป็นหนังสือเล่มที่สองที่พี่เม่ยชอบอ่านจนได้ค่ะ.....

"มังกรหยก ภาค1 แปลโดย จำลอง พิศนาคะ"

หาภาพมาไม่ได้แล้วค่ะ เล่มนี้อ่านตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถมแล้วค่ะ  ชื่นชมในความซื่อตรง ซื่อสัตย์ และมั่นคงในความดีของพระเอก "ก๊วยเช็ง" อย่างมาก ตอนนั้นถึงขนาดท่องจำคำพูดของพระเอกได้หลายบทเชียวค่ะ ....น่าเสียดายที่ไม่ได้จดบันทึกเก็บไว้.....