วันนี้ มีเมล์จากคุณสุภาพสตรีท่านหนึ่ง ได้ส่งมาปรึกษานายบอนว่า
"ดิฉันอยากจะส่งบันทึกชีวิตจริงให้คนทั่วไปได้อ่าน จะทำอย่างไรดีอยากถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ที่มีให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ"
ครับ มีหลากหลายวิธีการในการส่งบันทึกชีวิตจริงให้คนทั่วไปได้อ่าน ตามความสะดวก และความถนัดนะครับ
1. เขียนลงใน weblog หรือ blog เช่น gotoknow.org, blogspot.com ฯลฯ โดยการเขียนอย่างต่อเนื่อง
นี่คือรูปแบบที่ง่ายที่สุดครับ แต่หากไม่สะดวก ก็สามารถเขียนบันทึกใส่สมุดบันทึกด้วยมือของคุณ แล้วดำเนนินการตีพิมพ์ เป็นรูปเล่มออกมา แจกจ่าย หรือจำหน่ายให้คนทั่วไป หรืิอบริจาคให้ห้องสมุดก็ย่อมได้ครับ
แต่วิธีการเขียนบันทึกลงใน blog น่าจะสะดวกที่สุดแล้วนะครับ
2.รูปแบบการเขียน
ในรูปของจดหมาย เหมือนคุณเขียนถึงใครสักคนหนึ่ง หรือเขียนถึงสมุดก็ได้ ( คงเคยอ่านเจออย่างนี้นะ สมุดจ๋า .... ถึงพระเจ้า ..... )
บันทึกเล่าเรื่องธรรมดา ลำดับตั้งแต่เกิดอะไรขึ้น ผลออกมาเป็นอย่างไร คุณรู้สึกอย่างไร คุณอยากให้เป็นอย่างไร ( วันนี้ตื่นแต่เช้า ....)
เป็นการสนทนาโต้ตอบ บันทึกของวันนี้คุณอาจจะ เขียนกลางหน้ากระดาษถึงหัวข้อว่า
ฉันเบื่อการทำงานที่นี่แล้ว
จากนั้นก็ลงไปที่บทสนทนาเลย จะเลือกใครคุยกับใครก็ได้เช่น
แ บบฝ่ายมารกับฝ่ายดี ( เคยเห็นในหนังไหมที่เทวดากับซาตานโผล่เข้ามาความคิดคนต่างฝ่ายต่างพูดน่ะ ) หรือแบบทนายซักจำเลย แบบไปปรึกษาหมอ แบบ A และ B คุยกัน
A: ฉันก็เห็นนายบ่นทุกวัน ทำไมไม่ลาออกเสียเลย
B: ยังหางานใหม่ไม่ได้โว้ย
A: ก็แล้วจะตะโกนหาพระแสงอะไร คนอื่นรำคาญนะ
B: ………….
การเขียนแบบนี้ไม่ต้องคิดมากถึงกับต้องวางพล็อตหรอกนะ เขียนไปตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น และเป็นความจริงอย่างใจคุณคิดก็พอ
แบบจัดระเบียบความคิด ( Mind map ) ว าดวงกลมกลางหน้ากระดาษ เขียนหัวเรื่องลงไป จากนั้นก็ลากเส้นใยแมงมุมออกไปจากวงกลมสัก ๘ เส้น ( มากน้อยแล้วแต่เรื่อง) แต่ละเส้นจะเขียนแต่ละคำที่สื่อถึงความรู้สึก แต่ละคำก็เขียนประโยคในใจลงไป เขียนซะให้สะใจ
แบบไหนก็ได้ตามสไตล์คุณ เพราะจริง ๆ แล้ว ไม่มีรูปแบบไหนดีเท่ากับแบบที่คุณสร้างของคุณขึ้นมาเอง ที่แนะนำมาเป็นเพียงไอเดียสำหรับผู้เริ่มต้นเท่านั้น
เชิญอ่านบันทึกที่น่าสนใจเพิ่มเติม ดังนี้ครับ
การเขียนบันทึกจานด่วน ครบทุกเม็ด อารมณ์ เมื่อเวลาว่างลดลง
เสน่ห์ของการเขียนบันทึกจากความรู้สึกต่อ ความร่วมมือร่วมใจของพยาบาลใน กทม.