สภาองค์กรชุมชน...คิดอย่างสร้างสรรค์ก่อนที่จะกลายเป็น...จุดจบที่ยังไม่ได้เริ่ม


ประชาชนที่เก็บความสงสัย คาดหวัง และความต้องการแสดงออกถึงความต้องการของตัวเองในเชิงปัญญา...ก็จะได้มั่นใจว่า...เขาสามารถ...มีส่วนร่วมได้อย่างแท้จริง... และมีเวทีสภาองค์กรชุมชนรอพวกเขาอยู่...โดยที่ไม่ต้องไปเข้าสู่เส้นทางการเมืองที่หวังผลประโยชน์ตอบแทนจนสร้างปัญหากันไม่หยุดหย่อนจนถึงทุกวันนี้....

ผมติดตามข่าวคราวของสภาองค์กรชุมชนมามากพอควร...ก็เนื่องด้วยมีส่วนเกี่ยวพันเชื่อมโยงอยู่ทั้งในระดับวิธีคิดและกระบวนการทำงาน...

 

ต้องยอมรับครับ...ว่าคนถูกผลักดันให้เริ่มคิดเพราะมีที่มาจากปัญหาและความต้องการแก้ปัญหา... แต่ความคิดจะตกผลึกในเชิงสร้างสรรค์มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับการนำเสนอเข้าข้างตนเองมากน้อยแตกต่างกันไป...

 

สภาองค์กรชุมชน...เดิมทีใช้คำว่าสภาองค์กรชุมชนท้องถิ่น...เริ่มจากปัญหาที่คิดกันไม่ตกว่า...การบริหารบ้านเมืองที่เคยวาดฝันกันว่า...การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น... จะเปิดโอกาสในการพัฒนาความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น... ที่แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา...

 

จากการวิจัยที่ยอมรับกันทั้งประชาชนและคนถูกวิจัยว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) และเทศบาล(ตำบล,เมือง,นคร) กว่า 80 % ปฏิบติหน้าที่ด้วยความไม่โปร่งใส... สร้างความไม่ชอบธรรมเกือบทุกพื้นที่

 

แกนนำท้องถิ่นหลายคนถึงกับกล้าออกมาพูดว่า... ครบ 10 ปี แล้ว การใช้เงินงบประมาณของท้องถิ่นในเรื่องก่อสร้างสาธารณูปโภคอิ่มตัวแล้ว(ไม่ได้แจ้งว่ามีการฉ้อฉลมากน้อยแค่ไหน) ต่อไปนี้หลายแห่งจะหันมาเล่นเรื่องพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตเสียที(ซึ่งไม่ได้บอกว่าจะโปร่งใสแค่ไหน...555)...

 

ที่จริงการเปิดฉากกระจายอำนาจในประเทศไทย(ที่ทำไปเรียนรู้ไป) เป็นไปอย่างมะงุมมะงาหรา...ไม่มีต้นแบบที่ดีให้สมาชิกอบต.ทั้งหลายได้ซึมซับเรียนรู้...รูปแบบการบริหารจัดการ ถอดแบบการเมืองภาพใหญ่(ที่ฉายภาพการแก่งแย่งช่วงชิงผลประโยชน์) ลงสู่การเมืองระดับท้องถิ่น... ข้าราชการที่เป็นเสาหลักให้ในองค์กร ก็ถอดแบบข้าราชการในจังหวัดและอำเภอมาไม่มีผิดเพี้ยน... 

 

ภาพการยิงกันกลางสภาตำบล...ความขัดแย้งระหว่างขั้วอำนาจเก่า(ผู้ใหญ่บ้าน,กำนัน) กับ อบต. ยังอยู่ในความทรงจำที่หลายคนเป็นห่วงว่า สภาองค์กรชุมชนจะเข้ารอยเดิมนี้หรือไม่.. ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน...

 

การปรับตัวขององค์กรท้องถิ่นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาถือว่าอยูในช่วงอยู่ตัวพอสมควรแล้วครับ...หลายท้องถิ่นมีผู้บริหารและข้าราชการในท้องถิ่นที่สร้างความลงตัวให้กับชุมชนท้องถิ่นนั้น ๆ รุดหน้าไปไกลจนน่าชมเชยยกย่องก็มีไม่น้อย... แต่ชุมชนท้องถิ่นส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน... การรวมกลุ่มรักษ์ผลประโยชน์(ทั้งส่วนตัว ส่วนกลุ่ม ส่วนสังคม และประเทศชาติ) ที่มีอยู่เดิมและเกิดขึ้นใหม่ก็มากขึ้นด้วยเป็นเงาตามตัว...

 

ภาพเดิมที่ฝ่ายรัฐมองกลุ่มพลังต่าง ๆ ที่ไม่ใช่รัฐ...ว่าเป็น NGO ในมุมมองที่จ้องขัดแย้งกับรัฐโดยตรง...ก็ยังไม่ได้ลบเลือนไปจากความทรงจำ... สภาองค์กรชุมชน(ที่ลบคำว่าท้องถิ่นทิ้งไปเพราะเกรงว่าจะไปขัดแย้ง) ก็เลยถูกมองว่าจะเป็นการสร้างขุมกำลังใหม่ที่ทับซ้อนกับท้องถิ่นเดิมและมีโอกาสสร้างความขัดแย้งกันแบบที่คุณอารีย์ วงศ์อารยะ(อาจเป็นการได้รับถ่ายทอดมา)เขื่อ...

 

ที่จริง NGO ปัจจุบันมีความหลากหลายมากมายจนแม้แต่คนทำงานสามด้านแบบผม(ทั้งรัฐ/เอกชนและประชาชน) ก็ยังไม่สามารถทำความเข้าใจให้กระจ่างชัดได้...แต่ภาพที่เห็นคือการรวมตัวเป็นกลุ่มพลังในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา...ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในชุมชนท้องถิ่น...องค์กร/กลุ่มพลังเหล่านี้เชื่อมโยงเป็นเครือข่าย...ผ่านการเรียนรู้ที่หลากหลายรวดเร็ว...จนบางครั้งคนในภาครัฐไม่อาจทำความเข้าใจทั้งหมดได้...

 

ความขัดแย้งในความต้องการแสดงออกว่า...รักสังคมประเทศชาติของทั้งสองฝ่ายจึงยังเป็นปมปัญหาที่ต้องได้รับการสะสางทำความเข้าใจกัน...

 

แท้ที่จริงแล้วเป้าหมายสุดท้าย...เขาก็ต้องการสิ่งเดียวกัน...เพื่อสังคมประเทศชาติ(หากไม่คิดถึงเส้นทางที่ปฏิบัติก่อนถึงเป้าสุดท้าย)  ภาพใหม่ที่อยากให้มองอย่างสร้างสรรค์...ก็คือให้ต่างฝ่ายคิดว่า นี่เป็นโอกาสสำคัญในการร่วมทำงานเพื่อชุมชนท้องถิ่น...

องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) และเทศบาล(ตำบล,เมือง,นคร) หลายแห่ง มีงบประมาณ...แต่มีกำลังคนน้อย... ก็น่าจะใช้โอกาสที่มีสภาองค์กรชุมชน(ซึ่งมีคนและเวทีความคิด) ให้เขาทำงานแบบที่เขาอยากทำ(เพื่อชุมชนท้องถิ่น)

 

ส่วนกลุ่มพลังต่าง ๆ ก็คงต้องแสดงความจริงใจให้เห็นกันอย่างชัดเจน...ว่าต้องการเวทีแสดงความคิดเห็นและความต้องการเพื่อส่วนรวม...ส่งต่อให้ฝ่ายบริหารเขาไปพิจารณา...ไม่ได้มาแก่งแย่งขัดแย้งด้วยประการใดทั้งสิ้น...

 

ประชาชนที่เก็บความสงสัย คาดหวัง และความต้องการแสดงออกถึงความต้องการของตัวเองในเชิงปัญญา...ก็จะได้มั่นใจว่า...เขาสามารถ...มีส่วนร่วมได้อย่างแท้จริง... และมีเวทีสภาองค์กรชุมชนรอพวกเขาอยู่...โดยที่ไม่ต้องไปเข้าสู่เส้นทางการเมืองที่หวังผลประโยชน์ตอบแทนจนสร้างปัญหากันไม่หยุดหย่อนจนถึงทุกวันนี้....

 

คำสำคัญ (Tags): #สภา องค์กร ชุมชน
หมายเลขบันทึก: 102257เขียนเมื่อ 10 มิถุนายน 2007 13:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 20:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ท่านเลขาฯ..........

เข้ามาเยี่ยม....

เจริญพร

สวัสดีครับพี่สอน

  • สบายดีไหมครับ เข้ามาทักทายหลังจากไม่ได้ทักทายนานครับ
  • หากทำชุมชนเข้มแข็งได้ สิ่งดีๆ ก็จะเกิดขึ้นครับ
  • ชุมชนเข้มแข็ง โรงเรียนเข้มแข็ง ครอบครัวเข้มแข็ง วัดศาสนาเข้มแข็ง หากทำเหล่านี้เข้มแข็งได้ก็จบ  หลักๆ จริงๆ อันดับแรกคือ ครอบครัวเข้มแข็ง
  • ผมเชื่อว่า ระดับอื่นๆ ที่อยู่เหนือขึ้นไปจะเข้มแข็งเอง...ตอนนี้เราบริหารกันแบบ ฝนตก กันมากไปหรือเปล่าครับ น่าจะบริหารแบบ ไอน้ำระเหยบ้างนะครับ มันจะได้ครบวงจร
  • บริหารแบบไอน้ำระเหยที่เป็นอยู่ มันไม่ทันถึงชั้นบรรยากาศที่จะก่อตัวเป็นเมฆฝนได้ครับ หากหาจุดสมดุลไม่เจอ ฝนก็ตกผิดจุดทุกทีก็ไม่ไหวใช่ไหมครับพี่
  • ป่าดี ฝนก็ต้องตกดีครับ ฝนตกดีก็ต้องมีพืชเขียวดี
  • ไม่เห็นต้องสร้างรั้วกั้นในใจกันเลยระหว่างคนทำงานด้วยกัน
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ ขอเป็นกำลังใจให้กับคนทำงาน สามภาค จงสู้ต่อไปนะครับ
สวัสดีครับท่านPนายขำ

ขออนุญาติครับ นำข้อความดีๆบางตอนไปรวมในรวมตะกอน 3 ครับ  ขอบคุณมากครับ   http://gotoknow.org/blog/mrschuai/102160
P

ประเทศไทยรอน้องเม้งอยู่ครับ...

 

คนดี....ปัญญาดี...ควรมีสิทธิ์แลกเปลี่ยนแบ่งปันกัน....

 

คนมีอำนาจ...หลงในทะเลวนของความเห็นแก่ตัว...มักจะปกป้องความเห็นแก่ตัวนั้นไว้....มิใยจะสร้างค่านิยมลวงให้ความไร้คุณธรรมเป็นความถูกต้อง...

 

พี่แทบหน้ามืด...กับข้อมูลที่เขาทำโพลแล้วสรุปว่าคนไทยกว่าร้อยละ 60 ยอมรับได้กับการโกงกินแล้วทำให้เศรษฐกิจดี...

P

ยินดีครับ...

 

เดี๋ยวตามไปแลกเปลี่ยนด้วยครับ....

คุณสอนคะ

องค์กรที่ดิฉันทำงานอยู่ตอนนี้ ก็เล็งเป้าว่าจะเน้นการทำงานกับอบจ. อบต.มากขึ้น(หลังจากที่ประเมินแล้วว่าการหาเครือข่ายด้วยการให้งบทางเดียวนั้นไม่น่าจะรุ่ง) อยากแลกเปลี่ยนค่ะว่าเป็นจริงแค่ไหนคะที่ถนนทุกสาย และความหวังทุกความหวังจะมุ่งสู่อบจ. ในเมื่ออบจ.เองก็มองว่าหน้าตักตัวเองก็มีอยู่น้อย และมีเรื่อง(ที่คิดเองว่า)สำคัญ ต้องทำอยู่เยอะน่ะค่ะ

คุณดอกไม้น้อย ครับ...

 

ต้องยอมรับครับ...ว่าผมรู้เรื่องราวภายใน อบจ.น้อยมาก...รู้จากคำบอกเล่าก็มีแต่เรื่องในทางลบเป็นส่วนใหญ่...555

 

ถนนทุกสายมุ่งสู่ อบจ. ในความเห็นของผมนั้น...ไม่จริงครับ...55555...เพราะไม่อย่างนั้นการจราจรจะติดขัด(เป็นคอขวดเลยครับ...อิอิ)

 

จริง ๆ แล้วต้องใช้นักวิเคราะห์ระบบมาช่วยดูน่ะครับ...เพราะตั้งแต่มี อบจ. เป็นองค์กรท้องถิ่นที่ได้รับภาระกิจตาม พรบ.แล้ว...ย่อมเป็นหน้าที่ ๆ รัฐบาลต้องจัดจ่ายงบประมาณมาให้จำนวนหนึ่ง(ซึ่งมากพอควร)...ที่ผ่านมา(ผมคิดว่า)รัฐบาลคาดหวังว่านายกอบจ.จะทำหน้าที่แทนผู้ว่าราชการจังหวัดได้เกือบทุกอย่าง...เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งผู้ว่าฯ...แต่ให้ตายเถอะโรบิ้น...การคอรัปชั่นของอบจ.มากเกินกว่าจะยอมรับได้... เลยต้องใช้บริการให้เป็นผู้ว่าCEOไปก่อน...555

 

พี่ว่าจะให้แน่ ๆ น้องรอจับมือกับผู้ว่าที่มาจากการเลือกตั้งเลย...พี่ว่าไม่เกิน 20 ปี...555555

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท