อนุทินล่าสุด


ยูมิ
เขียนเมื่อ

ห้วงแห่งความคิดหรือห้วงแห่งนิทรารมณ์ ( The arms  of  morpheus )

 

1 . ผู้ชายที่ประสบความสำเร็จนั้น  ต้องมีผู้หญิงที่เก่งอยู่เบื้องหลัง

2 . คนมีปัญญาเลือกครบบัณฑิต  แต่กัลยณมิตรเป็นเพื่อนกับทุก ๆ คน

3 . สาวน้อยรุ่นเยาว์จากแดนไกล  เธอคลำหาทางชีวิตในแดนกว้างท่ามกลางต่างความคิด  เมื่อไหร่เจ้าจะพบทางสว่าง  สำหรับข้าผู้เฝ้ามองคิดว่า  กว่าเจ้าจะรู้ก็สายเสียแล้ว  เพราะมัวเพลินเดินหลงทางอยู่อย่างนี้  สำหรับข้าเองนั้นมีจุดหมายและกำลังเดินไปบนเส้นทางนั้นแล้ว.

..............................

หยดหมึกบันทึกไว้  จำนวน 1 เล่มสมุด สถานที่ B.H.U.ในเมืองพาราณสี  ประเทศอินเดีย เริ่มต้นเมื่อ wednesday, november  18, 1992 .

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

เรื่อง เกมส์ความเชื่อมั่นในตนเอง  มีดังนี้

1 . จดบันทึกรายวันว่าอะไรคือสิ่งดีและไม่ดีคุณได้ทำตลอดวัน

2 . เขียนประวัติตัวคุณเองส่งสำเนาให้เพื่อนวิจารณ์

3 . หยิบขยะในประวัติชีวิตของคุณออกซะ

4 . เลือกสิ่งที่คุณภูมิใจ ทุกครั้งที่คุณคิดถึงคืออะไร..?

...............................

จากเศษกระดาษช่วงปี พ.ศ. 2540

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

เป็นธรรมดานิสัยของราชสีห์เจ้าป่าที่มีอำนาจ  มันมีกิริยาอยู่ 4 อย่างคงเส้นคงวาอย่างไม่ประมาทคือ

1 . การกินอาหาร

2 . การนอนหลับสนิท

3 . การเดินอย่างมีท่าทีสง่า

4 . การหยุดพักผ่อน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

ก.ศ.ร. กุหลาบ ( พ.ศ. 2377 - 2456 ) ให้มุมมองว่า...การที่นำเอาไสยศาสตร์กับพุทธศาสตร์มาผสมปนเปกันจนเกิดการยอมรับนับถือนั้นทำให้พุทธศาสนาเศร้าหมองนั้นแล.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

พระยากระสาปน์กิจโกศล ( โหมด  อำมาตยกุล ) ถือว่าเป็นนายช่างถ่ายรูปคนแรกของกรุงสยามประเทศและท่านเป็นช่างแก้ไขเครื่องจักรกลด้วยละ...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

กิจการต่าง ๆ ภายในโลกวัตถุนิยมนี้ล้วนเป็นเรื่องเร่าร้อนกันทั้งนั้น  และทำให้คนไม่ฉลาดหลงเข้าไปยึดถือเอาแล้วผูกมัดไว้กับตนเองไม่ยอมปล่อยวาง...อนิจจา.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

จริงหรือไม่ที่ท่านผู้รู้ว่า...คนในโลกนี้โดยภาพรวมมีผิว 3 สี

1 . คนผิวสีขาว  มักหลงตัวเองว่าเป็นคนฉลาด  อย่างคนอังกฤษ เผยแพร่ภาษาอังกฤษไปทั่วโลก

2 . คนผิวสีเหลือง  ชอบความเป็นกลาง ๆ ส่วนมากคือคนเอเชียพอจะสู้ชาวยุโรปได้ก็คนญี่ปุ่น...

3 . คนผิวสีดำ  มักได้รับการรังเกียจว่าไม่ฉลาด  ดื้อ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

ต.ว.ส. วรรณาโภ  เทียนวรรณ ( พ.ศ. 2385 - 2458 ) คือปราชญ์ผู้ถูกลืม  ให้แง่คิดว่า...ความจริงเป็นความดีแน่  เว้นเสียแต่ดีมากและดีน้อย  ดีแต่ตัวและทั่วไปแก่ผู้อื่นบ้างเท่านั้นแล  แต่ความชั่วจริง  อย่างเดียวเท่านั้น  ไม่ดีแน่ เราได้ตรวจทั่วแล้วทุกประการ  ไม่เห็นมีทางที่จะให้คุณเลย...

คนดีแล้วคงจะได้รับผลแห่งความดี...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

กำลังการบริหารนั้นท่านผู้รู้ว่ามี 3 ข้อใหญ่ ๆ คือ

1 . กำลังแห่งความรู้ ( ทีมที่ปรึกษาต้องมี )

2 . กำลังทรัพย์  ( แหล่งทุนต้องมี )

3 . กำลังพล ( ทีมงามต้องพร้อมมี )



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

...แสงแดดแรงร้อนมาก ๆจนเหงื่อไหล...

เหงื่อแต่ละหยด...ทำให้ผ้าที่ห่มคลุมร่างกายนี้เปียก...อับชื้น  แทบเดินไปไม่ไหว...

แต่ต้องเดินไป...เพื่อจุดหมายให้ฝูงชน...เป็นสุข.

....................

หยดหมึกบันทึกไว้.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

...ฉันรักเธอ  เพราะเธอกล้าพูดความจริงกับฉัน  ความดีของเธอจะชนะใจฉัน 

 หากวันใดถ้ารู้ตัวว่าเธอไม่ดี  มันจะแสดงให้ฉันเห็นด้วยการกระทำกริยา  วาจา  ใจ  ดวงตาเธอก็ไม่สดใส 

 เพราะความลับไม่มีในโลก  และฉันจะรู้ได้ทันทีว่า  ตัวเธอไม่จริงใจหรือจริงจัง...

......................

หยดหมึกบันทึกไว้.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

ดอกอะไรไหนเล่าเท่าดอกนี้

งดงามดีสีม่วงแดงแสงสดใส

ฤดูกาลผ่านพ้นมานานเท่าใด

บานในใจไม่รู้โรยทุกวัน...เอย.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

หยาดหยดย้อยยามเย็นยิ้มยวนใย

น้ำตาไหลรินรดแก้มแถมเธอห่าง

ข้าวเขียวเหลืองเรืองรองหลงเลือนราง

มองตามทางที่เธอพรากจากฉันไป

หลงเหลือเงาไร้ร่างเพราะเธอจาก

แถมยังฝากรอยรสรักอย่างยิ่งใหญ่

ทุ่งรวงทองยังคอยเฝ้าเราห่วงใย

ขอดวงใจให้กลับมา..ข้ายังคอย...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

มาชมเล่นเห็นกลอนรักสลักจิต

ถึงมิ่งมิตรคิดรักแล้วแจวไปไหน

ให้นอนหนาวร้าวระทมข่มขืนใจ

หนาวภายในหนาวรักแน่แท้จริง...เอย.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

การสร้างพระพุทธรูปเริ่มมาจากมุมคิดของกษัตริย์กรีกที่นับถือพระพุทธศาสนาในแคว้นโยนกแล้วมาทำจริง ๆ จัง ๆ กันในแคว้นคันธาระ เลยกลายเป็นต้นแบบพุทธศิลป์แบบคันธาระแต่นั้นมา...

มาอ่านกลอนตอนบ่ายคล้อยรับลมเล่น

ในตอนเย็นเห็นสวนธรรมศาสนา

ร่ายยาวย้อนพุทธรูปสืบต่อมา

ใครวันทาได้บุญแท้แน่จริง..เอย..



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

คนเรานี้มีดีที่จิตใจ  คิดทำอะไรลงไปแล้วสบายใจ  จงทำเถิด

แต่ถ้าคิดทำอะไรลงไปแล้วใจเสียใจไม่มีสุขจะทำไปทำไมละ...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

จันทร์กระจ่างพร่างพราวโดดเด่นดี

ไร้ราคีมีมลทินอินทรีย์ใส

แจ่มกระจ่างกลางค่ำคืนยืนมองไป

เมฆาไหลมาบังจันทร์พลันเหงา..เอย...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

เรื่องเวลาได้ฟังคนดูหนังแล้วมาเล่าให้ฟังว่า...หญิงสาวเดินทางมาเจอชายหนุ่มแล้วรักกันแต่เวลาของ 2 คนนี้เดินสวนทางกันหญิงเดินทางไปสู่ความชราภาพแต่ชายเดินย่อกาลไปเป็นเด็กนอนแบเบาะบนตักหญิงชรา

 แต่ทั้งคู่ก็ยังรักกัน คือ ความรักไม่เปลี่ยนแปลงมีเพียงเวลาและร่างกายเท่านั้นที่อนิจจัง...อิ อิ อิ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

วิชาประวัติศาสตร์เป็นวิชาที่ผู้เรียนต้องเป็นนักเดินทางค้นหาความแท้จริงไปสัมผัสของจริง  ในความแท้จริงมีเพียงสิ่งเดียว 

 แต่คนไปเกี่ยวข้องกับความจริงแล้วนำมาอธิบายขยายความเลยกลายเป็นข้อเท็จจริงคือมีทั้งจริงและเท็จผสมกันอยู่ในเหตุผลของคนที่นำมาบอกเล่าเรื่องราวเหล่านั้นแล.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

ก็เกิดมีวจีกลอนวอนว่ารัก

ในใจภักดีมั่นคงจงจำหมาย

เมื่อมั่งมีแม้หมดมีรักไม่วาย

หัวใจกายยังรอรักดุจดังเดิม

ใจหมดตัวหัวใจให้หมดแล้ว

รักไม่แคล้วคลาดกันหมั่นส่งเสริม

ไปไหนเราไปด้วยกันหมั่นต่อเติม

แล้วรักเพิ่มพูนสุขทุกวัน...เอย.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

เห็นใบไม้หลุดหล่นเราควรคิด

ชมชีวิตที่ผ่านเก่าก้าวผ่านใหม่

เริงระบำรำร่ายหายใจไป

ไม่ทันไรเราลับลาโลกแล้ว..เอย.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

ความว่างใด ๆ ไม่เท่าจิตใจของเราที่ว่างจากอารมณ์ความรู้สึกเมื่อสัมผัสกับทุกสิ่งนั้นแล...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

เพราะสิ่งมีคู่จึงอยู่ข้าง ๆ สิ่งใดอยู่กลางสิ่งนั้นต้องมีเดี่ยวนั้นแล...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

การตรัสรู้ธรรมของนักบวชสิทธัตถะเมื่อวันเพ็ญเดือน 6 นั้นอยู่นอกเวลาราชการปัจจุบันของไทยเรา  เพราะเป็นการเห็นแจ้งแทงตลอดด้วยปัญญาในเวลาค่ำคืนมีแสงจันทร์ส่องนวลใย 

 แง่คิดคือภายใต้แสงดวงอาทิตย์กลางวันนี้มีชาวโลกคนใดคิดอะไรทำอะไรสำเร็จบ้างละ... 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ยูมิ
เขียนเมื่อ

ไฟสามดวงที่เผาไหม้จิตวิญญาณคนเราคือ

1 . ไฟแห่งการกิน...จะดับไฟนี้ได้ด้วยน้ำแห่งศีลธรรม

2 . ไฟแห่งราคะหรือกลกาม...จะดับไฟนี้ได้ด้วยน้ำแห่งสมาธิ

3 . ไฟแห่งเกียรติยศชื่อเสียง...จะดับไฟในได้ด้วยน้ำแห่งปัญญา



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท