เช้าวาน มีเต้าหู้ก้อนที่ลูกสาวคนเล็กเอามาฝาก แม่เฒ่านำมายี ปรุงรส พริกไทป่น เกลือ ใส่รากผักชี แล้วใช้ผ้าขาวบางห่อเหมือนคั้นกะทิจนแน่นกลมแล้วไปนึ่งครบหนึ่งชั่วโมง แกะผ้าออกในขณะที่ยังร้อนจะไม่ติดผ้า แล้วปล่อยให้เย็นจึงหั่น จะไม่แตกยุ่ย ส่วนผ้าขาวบางที่ใช้ห่อให้ซักทันทีจะซักง่ายกว่าตอนที่เย็นแล้ว มื้อเย็นได้อาหารอร่อยอีกหนึ่งอย่าง แม่เฒ่าว่า มีผู้ทำเป็นฟักทองเจ โดยวิธีการเดียวกันแต่ต่างกันตรงเต้าหู้จะใช้ฟองเต้าหู้แทน ผ้าขาวบางที่มัดก็ห่อและมัดให้มีร่องเหมือนผลฟักทอง แล้วนำไปทำพะโล้อีกที วันนี้เลยได้เรียนเมนูอีกหนึ่งรายกาย แถมอิ่มท้องด้วย
ไม่มีความเห็น
ไม่มีความเห็น
•วันนี้ลูกสาวคนเล็กมาเยี่ยม พร้อมทั้งใบเกี๊ยวเจจากตลาดเก่า แม่เฒ่าเอามาห่อเปล่าๆไม่มีไส้เกี๊ยว โดยพับทบเป็นสามเหลี่ยมแล้วจับชายมาทบกันอีกที ผึ่งลมให้แห้ง กรอบนิดหน่อย เก็บไว้ต้มใบเกี๊ยวน้ำกิน ปรุงรสอร่อยไปอีกแบบ ลูกสาวไม่เคยทำมาก่อนจึงพับสามทบ เวลาต้มทำให้ตรงกลางไม่สุกและแข็ง ที่จริงพับเพียงทบเดียวก็พอ มีหมี่เจมาด้วย แต่กินกับไม่ทัน แม่เฒ่าคลี่ออก จับเป็นกองๆ ไหว้เจ้าก่อนแล้วผึ่งให้แห้ง จะแข็งนิดหน่อย เก็บไว้กินได้หลายมื้อเช่นกัน
•หลายอย่างที่ได้เรียน การชงชา ก็ต้องมีวิธีการ ชงทิ้งครั้งหนึ่งก่อน เพื่อเป็นการล้างใบชา เวลาชงก็ต้องเป็นน้ำเดือด แล้วจึงชงรอบสอง อีกอย่างเวลารินน้ำชา จะรินอย่างไรไม่ให้ชาหกหยดลงบนที่รองชา ทุกวันนี้เป็นศิลปะง่ายๆแต่ก็เป็นเรื่องยากเพราะว่าไม่ได้ฝึก
•นับว่าโชคดีที่มีโอกาสได้เรียนรู้หลากหลายยามอยู่ใกล้แม่เฒ่า นับเป็นการเรียนปริญญาเอกก็ว่าได้ เตรียมตัวเองเป็นผู้เฒ่า ไม่มีใบปริญญาให้ แต่เมื่อเวลานั้นมาถึง น่าจะมั่นใจได้ว่า จะสามารถดำรงชีวิตการเป็นผู้ชราที่ยอมรับสภาวะได้อย่างไม่ลำบากนัก อย่างเช่น เมื่อเป็นผู้ชราจักต้องทนทุกขเวทนากับการเจ็บปวดตามร่างกาย จะทำอย่างไร จะอยู่อย่างไร เมื่อสภาพร่างกายถดถอยลง ไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อหนุ่มสาวหรือยังอยู่ในวัยทำงาน
ไม่มีความเห็น
ไม่มีความเห็น
ไม่มีความเห็น
ไม่มีความเห็น
ไม่มีความเห็น
ไม่มีความเห็น
ไม่มีความเห็น
ไม่มีความเห็น
· แม่เฒ่าเล่าเรื่องเมื่อห้าหกสิบปีก่อน ค้าขาย มีคนเอาเห็ดหอมแห้งที่เป็นเชื้อรามาขาย พ่อเฒ่ากับแม่เฒ่า เอากระด้งตาห่างๆหน่อย เอาข้าวเปลือกใส่ปนกับเห็ดหอมแห้งนั้น ผูกเชือกไว้สี่มุมแล้วร่อนให้ข้าวเปลือกสีกับเห็ดหอมขัดคราบเชื้อราออก ได้เห็ดหอมที่สวยและขายได้ราคา
· วันนี้ได้ถั่วเขียวเพาะ ทำแกงจืด และส่วนที่เหลือแบ่งแช่ตู้เย็นโดยไม่ให้เปียกน้ำ ใส่ถุงพลาสติกและเอาเสื้อผ้าผ้ายยืดที่ไม่ใช้แล้วมาห่อ ใส่ในช่องแช่ผัก และเอาหนังสือพิมพ์หนาๆวางทับอีกที ก็เก็บกินได้หลายวัน เคยเก็บไว้นานสุดเกือบสองสัปดาห์
ไม่มีความเห็น
ไม่มีความเห็น
ไม่มีความเห็น
ไม่มีความเห็น
ไม่มีความเห็น
ไม่มีความเห็น
ไม่มีความเห็น
ไม่มีความเห็น
ไม่มีความเห็น
· แม่เฒ่า ให้คดข้าวในหม้อ ที่เพิ่งสุกร้อนระอุ โดยใช้ตะเกียบพุ้ยขึ้นมา ให้ทั่ว เพื่อให้ข้าวนุ่ม ฟู น่ากิน แล้วให้ใช้ผ้าชุบน้ำลูบล้างตะเกียบทันทื จะได้ไม่ทำให้คราบเม็ดข้าวติดตะเกียบ
ไม่มีความเห็น
· วันนี้พากลับมาบ้านหลังนี้ หลังอาหารเย็นแม่เฒ่านั่งดูสามก๊ก เมื่อพักใหญ่ๆฝนตกไฟดับไปสองครั้งและกลับติดเอง คืนนี้น่าจะหลับสบาย ฝนยังตกพรำๆ หวังแต่ว่าตีนแมวจะไม่ย่องมา
ไม่มีความเห็น
· หกโมงกว่า เสียงนกร้องจิ๊บๆ แม่เฒ่าบอกกลางดึกถูกมดกัด ทำให้หลับได้ไม่ดี เช้า สายหน่อยหลังอาหารเช้าแล้ว แม่เฒ่าเอาถั่วงอกที่เพาะ ได้เข่งใหญ่เท่าเข่งขนมจีน ตัดราก เล่าเรื่องเมื่อราวสี่ห้าสิบปีก่อน แม่ของแม่เฒ่าขอเปลือกถั่วงอกจากตลาดมาตากแห้งทำหมอนให้เด็กๆหนุน วันนี้จึงได้เอาเปลือกถั่วที่มีอยู่ตากแดด คาดว่าสักสองสามแดด น่าจะแห้ง คงจะได้หมอนเปลือกถั่วเขียวลูกขนาดฝ่ามือ
· แม่เฒ่าเล่าหลายเรื่อง รวมถึงเรื่องพ่อของแม่เฒ่าอายุ ๔๕ ปีสิ้นบุญไปตอนแม่เฒ่าอายุได้เก้าปี ในท่านั่งโดยมีแม่ของแม่เฒ่าประคองอยู่ แม่เฒ่าจำได้ว่าเป็นคนไปงานฝังพ่อ โดยต้องทำพิธีกรรม เอาเหรียญไปวางไว้ริมน้ำเพื่ซื้อน้ำ ที่วัดดอน เป็นที่ฝังไม่เสียเงิน กระทั่งให้หลังนานหลายสิบปี ที่มีการทวงที่คืน ญาติๆต้องไปขุดศพขึ้นมา แม่เฒ่าเล่าว่ามีหอยอยู่ในหลุมศพมากมาย ดูดซากและเศษเนื้อน้ำเหลือง ในทุกหลุม หลังขุดขึ้นมาต้องเอาไปขัดล้างทำความสะอาดและตากให้แห้งก่อนจะเผาแล้วบรรจุลงในกล่องโลหะ
· นี่เป็นเรื่องเล่าอันทรงคุณค่าที่ยังอยู่ในความทรงจำอันยาวนานของแม่เฒ่า เป็นประวัติชีวิตที่ไล่ขึ้นไปถึงสามรุ่น ยุคสมัยนี้น้อยคนนักที่จะได้รู้ประวัติบรรพบุรุษและที่มาของชีวิตตนเอง
ไม่มีความเห็น
ไม่มีความเห็น
ไม่มีความเห็น
ไม่มีความเห็น