การจัดการความรู้ในมหาวิทยาลัยขอนแก่น
เมื่อวันที่ ๙ มิ.ย. ๔๘ ศูนย์บริการวิชาการ มข. มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ สคส. เรื่องการจัดการในหน่วยงาน และการส่งเสริมการจัดการความรู้ ศูนย์ฯ เป็นผู้รับผิดชอบ KM ใน มข. โดยที่ในขณะนี้ KM ที่ มข. อยู่ในสภาพ
1. มีคณะกรรมการ
2. มีแผนปฏิบัติการ
3. มีการอบรม
4. เมื่อมีการติดตามผล ว่าผู้เข้ารับการอบรมไปทำอะไรบ้าง ผู้ผ่านการอบรมเกิดความงง เพราะคิดว่าเมื่ออบรมเสร็จก็หมดหน้าที่ เข้าใจว่าเป็นหน้าที่ของ ศูนย์ฯ ในการทำ KM
ผมติดใจคำพูดของ อ. สุรเชษฐ์ รอง ผอ. ศูนย์ ว่าขณะนี้ภายในศูนย์เองยังไม่ได้ดำเนินการจัดการความรู้ ศูนย์จะต้องกลับไปทำ KM สร้างความสำเร็จเล็กๆ ขึ้นมาจากภายในศูนย์ก่อน เพราะศูนย์จัดอบรม KM ให้แก่จังหวัดและแก่ภายใน มข. มากครั้ง แต่ไม่ค่อยเกิดการทำ KM ในหน่วยงานเหล่านั้น
เท่าที่ฟัง รศ. นพ. จิตเจริญ ไชยาคำ เล่า มข. เป็นที่ปรึกษาหน่วยราชการต่างๆ ในภาคอีสานเกี่ยวกับการปฏิรูประบบราชการ และมีตัวอย่างความสำเร็จอยู่บ้าง เช่น การสร้างเครือข่ายระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ, นายอำเภอภูผาม่าน จ. ขอนแก่น กำหนด “หัวปลา” เพื่อลดการใช้พลังงานในสำนักงาน และมีการติดตามงานทุกวัน, เครือข่ายจัดการความรู้ใน รพ. ภาคอีสาน ๑๙ รพ. ซึ่งมีการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ไปแล้ว ๓ ครั้ง
อ. พิชัย รอง ผอ. เล่าเรื่องการดูแล website เพื่อใช้ website เป็นเครื่องมือให้ onestop service ด้าน KM ผมได้ตั้งข้อสังเกตว่า การให้บริการเว็บไซต์ KM เป็นการให้บริการความรู้เชิงทฤษฎีด้าน KM เน้นความรู้จาก supply side ซึ่งน่าจะมีประโยชน์ต่อการจัดการความรู้เพียง 10% เท่านั้น อีก 90% ต้องเป็นบริการด้าน IT ที่จะช่วยให้ “คุณกิจ” ได้แลกเปลี่ยนความรู้ปฏิบัติ (tacit knowledge) ซึ่งกันและกัน บริการดังกล่าวเว็บไซต์ทำได้ไม่ดี สู้บล็อกไม่ได้
ผู้รับผิดชอบในการนำเสนอและแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีทำงานของ สคส. คือคุณวรรณา ได้ข่าวว่าการแลกเปลี่ยน “ทะลุหัวใจ” ในหลายประเด็น ทาง มข. จะสรุปประเด็นเรียนรู้ส่งมาให้ภายในหนึ่งสัปดาห์ แล้วคุณอ้อ (วรรณา) คงจะเอาขึ้นบล็อก play.gotoknow.org ของสามสาวซ่า เพื่อเล่าสู่กันฟัง โดยสรุปก็คือเราอยู่ในสภาพหัวอกเดียวกัน คือต้องฝ่า “ดง KM ปลอม” ของหน่วยราชการ
วิจารณ์ พานิช
๙ มิ.ย. ๔๘
แก้ link ด้วยครับ
http://play.gotoknow.org
-แวะมาให้กำลังใจครับ